My experiment on writing the world
โดยรวมแล้ว Take Me Home สุขสันต์วันกลับบ้าน ถือเป็นหนังผีที่สามารถดูเพลิน ๆ ได้ แต่อาจจะมึนสักหน่อยกับปมที่หนังสาดมาแบบไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งตอนจบก็ยังมีความก้ำกึ่ง เดาไม่ถูกว่าบทสรุปเป็นยังไง
เพิ่งมีโอกาสได้ดู "ร่างทรง" (The Medium) หนังสยองขวัญอันเป็นที่เลื่องลือในปีที่ผ่านมา เมื่อ Netflix นำมาลงให้รับชมกัน เรื่องราวแนวสารคดีเกี่ยวกับตระกูลร่างทรง ที่เกิดเหตุประหลาดขึ้นกับผู้เป็นหลานสาวของตระกูล จนเริ่มไม่แน่ใจว่า ใช่ปรากฏการณ์ปกติของตระกูลนี้ หรือมีสิ่งที่ชั่วร้ายกว่านั้นกำลังมาครอบงำ?
ตั้งแต่เห็นตัวอย่าง Doctor Sleep ครั้งแรกก็ติดตามาตลอด ด้วยความที่เราไม่เคยดู The Shining มาก่อนด้วย และตัวอย่างก็นำซีนจาก The Shining มาเล่นเยอะอยู่เหมือนกัน ทำให้เราอยากดูเรื่องนี้มาก และเมื่อมีโอกาสก็เลยไปหา The Shining มาดูก่อนไปดู Doctor Sleep หนึ่งวัน รู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมากเพราะได้อารมณ์ต่อเนื่องกันสุดๆ
ความกลัวในวัยเด็กจะทำให้เรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แม้ว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม นี่คือความรู้สึกที่เราได้รับหลังจากดู IT ภาคสองจบ การดูภาคนี้ยิ่งทำให้รู้สึกว่า IT เป็นมากกว่าหนังสยองขวัญเขย่าประสาท แต่ยังเป็นหนังที่สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนผ่านวัยและการเติบโตอีกด้วย
ใครๆ ก็รู้ว่าห้องใต้ดินในบ้านครอบครัววอร์เรนนั้นเป็นพื้นที่ต้องห้าม แต่แล้วเมื่อวัยรุ่นมือบอนเผลอไปเปิดห้องปลดปล่อยตุ๊กตาผีอย่างแอนนาเบลออกมา ค่ำคืนสงบสุขก็ได้ถูกทำลายลง
Pet Sematary เล่าเรื่องของครอบครัวครีด ที่ได้พบเจอพื้นที่โบราณซึ่งสามารถนำสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วให้ฟื้นคืนชีพได้ ฟังๆ ดูไปแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าคนที่ตายไปแล้วกลับมานั้นกำลังจะนำภัยมาให้พวกเขา
เมื่อกลุ่มเด็กสาวมีปัญหาถูกส่งตัวไปเรียนในโรงเรียนประจำที่ปลีกวิเวกออกไปในป่าเขา พวกเธอก็ต้องพบเจอกับครูใหญ่สุดเฮี้ยบและอำนาจมืดบางอย่างที่กำลังจะคุกคามชีวิตพวกเธอ
The Nun เป็นหนังที่เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์แบบยับๆ ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เข้าฉาย บางเพจหนังให้คะแนนตกต่ำถึงขั้น 2-3 คะแนนเต็ม 10 คะแนน แต่นั่นก็ทำให้เรายิ่งอยากรู้ว่าหนังมันจะแย่ได้สักแค่ไหนเชียว ในใจคิดว่าเค้าคงคาดหวังไว้สูงลิบติดเพดาน พอหนังทำออกมาได้ไปพีคสมใจก็ผิดหวังตามๆ กันไป ก่อนไปดู The Nun เราเลยไม่คาดหวังซะ สิ้นเรื่อง ไม่สนุกของเขาอาจจะสนุกของเราก็ได้
THE ZEPIA WORLD 