รีวิว Padmaavat (2018) หนังอินเดียโปรดักชั่นตระการตา ว่าด้วยสงครามแย่ง “เธอ”

Padmaavat เล่าเรื่องได้สนุก มีสีสันตลอดทั้ง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ แม้พล็อตเรื่องหลัก ๆ จะเป็นศึกชิงนางซะส่วนใหญ่ แต่ตัวละครมีเสน่ห์จึงชวนให้ลุ้นต่อว่าจะมาไม้ไหน ฉากต่าง ๆ ก็สวยงาม ซีจีแม้จะดูออกแต่ก็พอเนียน ๆ ไปได้ ถือว่าเป็นอีกหนังอินเดียที่ควรค่าแก่การดูเลย

รีวิว Panic (2021): เพียงชนะเกมพิเรนทร์นี้ ก็มีเงินหนีออกจากเมืองน่าเบื่อได้

ตอนแรกเห็นหน้าหนังคิดว่า Panic เป็นหนังวัยรุ่นรักไฮสคูล แต่พอดูตัวอย่างหนังปุ๊บ... เอ๊ยนี่มันมีความ Hunger Games อยู่แฮะ!

รีวิว One for The Road (2021) โร้ดทริปบอกลาแฟนเก่าก่อนลาจากโลก

One for The Road จึงเป็นหนังที่คล้ายจะเตือนสติเรา ๆ ถึงคุณค่าของเวลาและชีวิต รวมถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว มิตรภาพ หรือคู่รัก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนปะติดปะต่อทำให้เรามีชีวิตอย่างวันนี้ มอบประสบการณ์ต่าง ๆ ให้เรา และหลายคนก็ยังคงเป็นคนสำคัญ แม้ว่าจะไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้วก็ตาม

รีวิว ฝ่ากฎรักต่างโลก #1: แอ็กชั่นแฟนตาซีสุดล้ำ วางไม่ลง แต่ตัวเอกยังไม่ใช่คนนะ

ถ้าใครชอบอ่านนิยายแนวแฟนตาซี ผจญภัย และที่สำคัญเป็น Boy's Love ด้วยแล้วละก็ จะต้องไม่พลาดนิยายจีนเล่มนี้!

รีวิว On The Basis of Sex (2018): หนังกฎหมายย่อยง่าย เมื่อชายและหญิงไม่เท่าเทียมกัน

ถ้าพูดถึงหนังกฎหมาย หลายคนอาจจะตั้งแง่ไปแล้วว่าต้องหนักหน่วง ดูไม่รู้เรื่อง น่าเบื่อ ชวนหลับคาโซฟา แต่สิ่งนี้ไม่ใช่กับ On The Basis of Sex หนังสร้างจากชีวิตจริงของรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ทนายความสาวแกร่งที่ชนะคดีมามากมาย และมีส่วนช่วยผลักดันให้กฎหมายของสหรัฐฯ มีความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น

รีวิวซีรีส์ I Know What You Did Last Summer (2021): นอกจากชนแล้วชิ่ง อย่างอื่นก็ไม่เหมือนหนังเลย

I Know What You Did Last Summer เวอร์ชั่นซีรีส์ พอได้ดูจริง ก็พบว่า นอกจากฉากชนแล้วชิ่งซึ่งเป็นไฮไลต์หลักของเรื่อง อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรเหมือนต้นฉบับเลย!

รีวิว 10 Cloverfield Lane (2016): เธอโดนจับมาขังใต้ดิน เพราะข้างนอกอากาศเป็นพิษ (จริงหรือ?)

10 Cloverfield Lane เป็นหนังภาคแยกจากเรื่อง Cloverfield (2008) ที่หลายคนอาจจะคุ้นหูกัน ย้ำว่าเป็นภาคแยก ไม่ใช่ภาคต่อ เพราะเนื้อหาไม่ได้ต่อเนื่องกันขนาดนั้น สามารถดูแยกกันได้ ตัวเราเองที่ไม่เคยดู Cloverfield ก็มาดูเรื่องนี้ได้อย่างสนุก

รีวิว Escape Room: Tournament of Champions (2021) ภาค 2 ที่นำผู้ชนะมาประชันกัน แต่ไม่ดุดันเท่าที่คิด

Escape Room ภาค 2 นี้ เรื่องราวก็ดำเนินต่อจากภาคแรกเลย มีผู้ชนะจากภาคแรกอย่าง "เบน" และ "โซอี้" ที่เดินทางไปนิวยอร์กเพิ่งหวังจะหาเบาะแสเกี่ยวกับเกม และสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการถูกจับไปเล่นเกมมรณะอีกครั้ง โดยคราวนี้มีผู้ร่วมชะตาเป็นผู้ชนะคนอื่น ๆ ที่เคยผ่านเกมมาแล้วเช่นกัน ฉะนั้นชื่อของภาคนี้เลยเป็น Tournament of Champions หรือก็คือจับแชมป์มาชนแชมป์ซะเลย

Blog at WordPress.com.

Up ↑