10 Cloverfield Lane เป็นหนังภาคแยกจากเรื่อง Cloverfield (2008) ที่หลายคนอาจจะคุ้นหูกัน ย้ำว่าเป็นภาคแยก ไม่ใช่ภาคต่อ เพราะเนื้อหาไม่ได้ต่อเนื่องกันขนาดนั้น สามารถดูแยกกันได้ ตัวเราเองที่ไม่เคยดู Cloverfield ก็มาดูเรื่องนี้ได้อย่างสนุก ไม่มึน
แต่ขอบอกก่อนว่า ถ้าอยากได้อรรถรสเต็มเปี่ยม อย่าเผลอไปดูตัวอย่างหนัง! เพราะอาจจะเจอเวอร์ชั่นที่สปอยจุดเด็ดของหนังไป (เวอร์ชั่นที่เปิดมาด้วยบรรยากาศครอบครัวสุขสันต์ อันนั้นแหละดูได้) อันตัวเราเผลอไปดูตัวอย่างซะแล้ว ฮ่า แต่โดยรวมหนังก็ยังสนุก เพียงแต่จะขาดอรรถรสในแง่ที่ว่า ไม่ได้ลุ้นเรื่องปริศนา เพราะตัวอย่างทำเรารู้หมดแล้ว
(แต่เอาเข้าจริง แค่เห็นชื่อโปรดิวเซอร์ J.J. Abrams เห็นว่าหนังมีประเภท “ไซไฟ” และเป็นภาคแยกจาก Cloverfield ก็น่าจะพอเดาทางหนังออกแหละ)

10 Cloverfield Lane เปิดเรื่องมาด้วยนางเอกอย่าง “มิเชลล์” (Mary Elizabeth Winstead) ที่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในห้องเล็ก ๆ เธอได้เจอกับ “ฮาวเวิร์ด” (John Goodman) ชายวัยกลางคนผู้ช่วยชีวิตเธอไว้ เขาเป็นเจ้าของบังเกอร์ใต้ดินแห่งนี้ และ “เอ็มเม็ตต์” (John Gallagher Jr.) หนุ่มแขนหักที่เป็นอีกหนึ่งผู้พักอาศัย โดยฮาวเวิร์ดอ้างว่าเธอต้องอยู่ที่นี่ ออกไปข้างนอกไม่ได้ เพราะข้างนอกอากาศเป็นพิษจากการโจมตีนิวเคลียร์ ถ้าออกไปละก็ตายแน่นอน! พวกเขาต้องอยู่ในบังเกอร์อย่างน้อยก็ 2 ปี หรือนานกว่านั้นก็ยังไม่แน่ชัดได้ จนกว่าอากาศจะหายเป็นพิษนั่นละ
ทีนี้ ความสนุกจึงอยู่ที่ว่า ฮาวเวิร์ดพูดจริงมั้ย ข้างนอกนั่นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และฮาวเวิร์ดนั้นไว้ใจได้จริงหรือ?

นี่เป็นหนังที่ชวนให้ลุ้นตลอดเวลาแม้ว่าหนังจะมีแค่ฉากในบังเกอร์ และมีตัวละครแค่ 3 คนเท่านั้น แค่นี้ก็เพียงพอที่จะสร้างความอึดอัดได้ โดยเฉพาะการมีอยู่ของฮาวเวิร์ด อดีตทหารเรือมาดดุที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวอาละวาด เป็นคนแก่ที่เอาแน่เอนอนไม่ได้ แวบนึงจะรู้สึกว่าเขาไว้ใจได้ แต่อีกเดี๋ยวก็จะมีอะไรบางอย่างโผล่มาทำให้เราไม่ไว้ใจเขาละ เลยกลายเป็นว่าเราก็จะระแวงแทนนางเอกเรื่อย ๆ ว่าสถานการณ์นี้มันจะปลอดภัยจริงเร้อ
คือหลาย ๆ ฉาก ลุงฮาวเวิร์ดก็ไม่ค่อยจะทำตัวเป็นมิตรเท่าไร เผลอ ๆ อยู่ใต้ดินนี่จะน่ากลัวกว่าอยู่บนดินรึเปล่า

นอกจากบุคลิกของฮาวเวิร์ดแล้ว สิ่งที่ฮาวเวิร์ดพูด ก็จะทำให้เรากังขาเช่นกัน เพราะเมื่อมีอคติกับฮาวเวิร์ดไปแล้ว เราก็เริ่มตั้งข้อสงสัยละว่าสิ่งที่เขาพูดมันจะจริงเหรอ ข้างนอกอากาศเป็นพิษจริงเหรอ ทุกคนตายหมดแล้วเนี่ยนะ มันฟังดูเหลือเชื่อมาก ซึ่งตรงนี้ เราและนางเอกก็จะได้ไขคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
ซึ่งไคลแมกซ์ของหนังนั้นจะอยู่ในช่วงประมาณ 20 นาทีสุดท้าย ที่ตื่นเต้นมาก เหมือนทุกอย่างประดังประเดเข้ามาจนหวาดเสียวแทนนางเอกว่าจะรอดมั้ย ซึ่งความสนุกมันอยู่ตรงที่นางเอกเราก็ไหวพริบดีมาก ไม่ได้เงอะงะหรือชักช้าให้เรารำคาญ

ในฝั่งของฉากน่ากลัว ๆ เรื่องนี้แทบจะไม่มีเลย เรียกได้ว่าปลอดภัย ไม่ได้รุนแรงเลือดสาด เราว่าหนังขายความกดดันและความไม่ชอบมาพากลมากกว่า ซึ่งสามารถทำได้ดีมาก ๆ
โดยรวมแล้ว 10 Cloverfield Lane ทำได้ดีมากในแง่ของความตื่นเต้นลุ้นระทึกแบบกดดัน ๆ หวาดระแวงตัวละคร ฉากไคลแม็กซ์ก็เจ๋งดี และนำไปสู่ตอนจบที่คูลมาก ใครไม่เคยดูหนังในจักรวาลนี้มาก่อนก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถดูเรื่องนี้ได้อย่างไม่งงแน่นอน
Leave a Reply