รีวิวซีรีส์ I Know What You Did Last Summer (2021): นอกจากชนแล้วชิ่ง อย่างอื่นก็ไม่เหมือนหนังเลย

I Know What You Did Last Summer ถือเป็นหนังสไตล์ไล่เชือดที่ดังมาก ๆ เรื่องหนึ่งเลย โดยหนังภาคแรกออกฉายในปี 1997

พอมาในปี 2021 นี้ ก็มีซีรีส์ชื่อเดียวกันฉายบน Prime Video ซึ่งก็น่าสนใจว่า จะเล่าออกมาในรูปแบบซีรีส์ยังไง

ปรากฏว่า พอได้ดูจริง ก็พบว่า นอกจากฉากชนแล้วชิ่งซึ่งเป็นไฮไลต์หลักของเรื่อง อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรเหมือนต้นฉบับเลย! นี่คุณพี่รีเมกหนังเรื่องนั้นจริง ๆ รึเปล่า

ฉะนั้นถึงใครไม่เคยดูเวอร์ชั่นหนัง มาดูเวอร์ชั่นซีรีส์ก็ไม่ได้เสียอรรถรสอะไร ท่านไม่ได้พลาดอะไรไปแต่อย่างใด (แต่แนะนำว่าไปหาเวอร์ชั่นหนังมาดูก็ดีค่ะ) ตัวซีรีส์นั้นเหมือนยืมแค่เค้าโครงหลักมาสานต่อเท่านั้น

I Know What You Did Last Summer เปิดเรื่องมาด้วยการให้เราทำความรู้จักกับสองสาวฝาแฝด “เลนนอน” (Madison Iseman) แฝดพี่สายตี้ที่ใช้ชีวิตท่ามกลางแสงสีเสียง ป๊อปปูล่าร์ท่ามกลางเพื่อนฝูง และแฝดน้อง “แอลลิสัน” (ก็ Madison Iseman เหมือนกัน) สาวติ๋มเก็บตัว ไม่เข้าสังคม เป็นทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับแฝดพี่

เรื่องเกิดในคืนที่ทั้งคู่ไปงานปาร์ตี้ฉลองเรียนจบมัธยมกัน (ซึ่งแน่นอนว่าแอลลิสันโดนลากไป) เกิดเหตุขึ้นทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักมาก ตัวแอลลิสันนั้นเดินหนีออกมาขึ้นรถ แต่ก่อนจะได้ขับไปไหนเพื่อนของเลนนอนอีก 4 คนก็ขึ้นรถตามมาด้วยโดยนึกว่าแอลลิสันคือเลนนอน แอลลิสันก็มึน ๆ ตามน้ำไป แต่ระหว่างทางดันเกิดอุบัติเหตุชนคนขึ้นเหมือนในเวอร์ชั่นหนัง ที่พีคคือในเวอร์ชั่นซีรีส์นั้นคนที่แอลลิสันชนไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ดันเป็นเลนนอนซะเอง!

แน่นอนว่าเกิดความชุลมุนวุ่นวาย ทุกคนตกลงปลงใจว่าจะหนีความผิดด้วยการเอาศพเลนนอน (ที่เพื่อน ๆ เลนนอนทุกคนคิดว่าเป็นแอลลิสัน) ไปโยนลงทะเล และจะปิดปากเงียบไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก มีเพียงแอลลิสันและพ่อที่รู้ความจริง และเธอก็ต้องเล่นละครในบทเลนนอนต่อไป เพราะถ้าความจริงเปิดเผย ใครเล่าจะอยู่เคียงข้างเธอ

เวลาผ่านไปหนึ่งปี ทุกคนไปเรียนต่อมหา’ลัยกันหมดและได้กลับมาบ้านในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน แอลลิสันก็ต้องช็อกเมื่อได้ข้อความเขียนด้วยเลือดว่า “I KNOW WHAT YOU DID LAST SUMMER” (แต่ดูไปดูมา เหมือนใช้ลิปสติกเขียนมากกว่านะ) แถมหลังจากนั้น เหตุฆาตกรรมก็ทยอยเกิดขึ้นกับเพื่อนและคนรอบข้าง แอลลิสันในคราบเลนนอนและเพื่อน ๆ ต้องพยายามหาว่าใครคือฆาตกร และหาทางเอาตัวรอดให้ได้นานที่สุด

ซีรีส์มีความยาวทั้งหมด 8 ตอน ตอนละประมาณ 45-50 นาที ถ้าใครดูหนังมาก่อนแล้วมาดูซีรีส์ จะรู้สึกว่าซีรีส์ดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า ไม่ได้ฉับไวตื่นเต้นระทึกจิกหมอนทุกนาทีเหมือนตอนดูหนัง นั่นก็เพราะเวอร์ชั่นซีรีส์มีสถานการณ์ที่ซับซ้อนกว่าการหนีตายมาก จึงทำให้มีฉากแนว ๆ บทสนทนาแทรกมาค่อนข้างเยอะเหมือนกัน

สถานการณ์นึงที่สำคัญเลยคือการที่แอลลิสันต้องรับบทเลนนอน แฝดสาวที่เธอไม่เคยชอบนั้น เป็นอะไรที่กล้ำกลืนฝืนทนมาก แต่เธอก็ต้องยอมทำไม่งั้นก็คงไม่มีที่ยืนในสังคม เราจะได้เห็นแอลลิสันพยายามปรับตัวเข้าหาเพื่อนของเลนนอน…เพื่อนที่เธอไม่เคยรู้จักมักจี่ด้วยเลย เธอต้องพยายามทำตัวให้เหมือนเลนนอน และต้องเก็บซ่อนทุก ๆ ปฏิกิริยาเวลาคนอื่นเม้าท์มอยแอลลิสันในทางที่ไม่ดี อีกจุดที่พีคมาก ๆ คือ แอลลิสันดันต้องมาใกล้ชิดกับ “ดีแลน” (Ezekiel Goodman) หนุ่มที่เธอแอบปิ๊ง ซึ่งเธอมารู้ทีหลังว่าเขาก็เคยชอบเธอเหมือนกัน! แต่ตอนนี้เธอดันอยู่ในร่างของเลนนอนนี่สิ อกจะแตกตายแทน

ซึ่งเลิฟไลน์ตรงนี้แหละที่ถูกเสริมเข้ามาให้ซับซ้อนยิ่งกว่าในหนังที่เน้นการไล่เชือดอย่างเดียว ในซีรีส์แอลลิสันนั้นจะต้องสับสนระหว่างดีแลนกับ “มาร์โก้” (Brianne Tju) เพื่อนสาวของเลนนอนที่เธอก็มีซัมธิงด้วยเหมือนกัน

อีกสถานการณ์สำคัญของหนังคือการมีลัทธิบูชาบางอย่าง ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าฆาตกรรมมาจากอิลัทธินี้รึเปล่า สืบไปสืบมาดันค้นเจอว่า พ่อแม่ของสองแฝดก็เคยมีความเกี่ยวเนื่องกับลัทธินี้ด้วย มันเลยกลับมาเป็นปมครอบครัวที่แอลลิสันก็จะกลับมาตั้งคำถามกับพ่อตัวเอง

ยุคสมัยก็เป็นอีกอย่างที่ต่างจากในหนัง คือในซีรีส์เราจะเห็นการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ถึงขั้นฆาตกร text มาหาเลยเอ้า ไม่ต้องเขียนจดหมายด้วยลายมือบรรจงแบบในหนังแล้ว อ้อส่ง text ยังไม่พอ มีส่งวิดีโอคลิปไปด้วยอีก เอาให้เห็นชัด ๆ เต็มตากันไปเลย

มาว่ากันที่ฉากฆาตกรรม… ตอนแรกเราก็เสียว ๆ ว่าจะน่ากลัวมั้ย เลือดสาดมั้ย เอาเข้าจริง ก็รุนแรงอยู่ แต่ไม่ได้ถึงขั้นแหวะจนรับไม่ได้ คือเลือดเนี่ยมีแน่นอน แถมบางฉากยังชวนเหวอว่าทำไปได้ยังไง ฆ่าได้ครีเอตมาก กลัวไม่ซ้ำใครสินะ!

จุดดีของซีรีส์อย่างนึงคือ เราแทบจะเดาอะไรไม่ได้เลยแม้เรื่องจะดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว และพอเฉลยฆาตกรก็ทำเอาเซอร์ไพรส์ได้เหมือนกันเพราะมีความหักมุมไม่เหมือนในหนังเลยแม้แต่นิดเดียว

เอาจริง ๆ หนังก็เหมือนจะไม่ได้เฉลยในหลายจุดให้ชัดเจน ซึ่งพอดูจบก็รู้สึก overwhelmed เหมือนกัน ก็ได้แต่คาดว่า จะมีซีซั่นสองมาเฉลยอะไร ๆ มากขึ้น (หรืออย่างน้อยก็หวังว่าจะมีใครในอินเตอร์เน็ตใจดีช่วยสปอยให้หน่อย)

โดยรวมแล้ว I Know What You Did Last Summer เวอร์ชั่นซีรีส์ ถือว่าสนุกใช้ได้แม้จะไม่ลุ้นระทึกเท่าหนัง แต่เพราะเป็นซีรีส์ด้วยจังหวะจะโคนการดำเนินเรื่องเลยช้ากว่า ถึงอย่างนั้นซีรีส์ก็มีรายละเอียดใหม่ ๆ ที่ใส่เข้ามาให้น่าสนใจและมีมิติมากขึ้น รอลุ้นเลยว่าจะมีซีซั่น 2 มั้ย