เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เปิดเจอแวบ ๆ ใน Netflix ในวันที่อยากดูหนังผีไทยสักเรื่อง ด้วยหน้าหนังเป็นพี่มาริโอ้ กับตัวอย่างหนังชวนให้น่าสนใจดี เลยแบบอ๊ะดูสักหน่อย
Take Me Home สุขสันต์วันกลับบ้าน เล่าเรื่องของแทน (มาริโอ เมาเร่อ) ชายหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม อยู่โรงพยาบาลนานหลายปี เขาอยากรู้ว่าต้นกำเนิดตัวเองเป็นยังไง อดีตเป็นยังไง วันหนึ่งแทนบังเอิญได้รู้คร่าว ๆ ว่าบ้านตนอยู่ไหน เลยออกจากโรงพยาบาลกลับไปที่บ้านหลังใหญ่ ที่นั่นเขาได้เจอกับ ทับทิม (วิว วรรณรท) พี่สาวฝาแฝด ชีวิน (ปีเตอร์ นพชัย) พี่เขย จุนและแจน ลูกของทับทิม และป้าแวว แม่บ้าน
ซึ่งเมื่อได้มาอยู่บ้าน แทนก็ได้เจอเรื่องราวลับลมคมใน บรรยากาศแปลก ๆ ไหนจะจุนกับแจนที่บอกว่าบ้านนี้ผีเยอะอีก ตอนแรกแทนก็ไม่เชื่อ แต่ไม่นานนักเขาก็ได้รับรู้ความจริงผ่านภาพอดีตต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาราวกับฉายหนัง แล้วก็ต้องช็อกกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้น

ตัวหนังมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งก็สามารถดูได้เพลิน ๆ ในช่วงแรกนั้นหนังบิ้วด์บรรยากาศนิ่ง ๆ หลอน ๆ ได้ดี ชวนให้รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่ตลอด คือลุ้นไปพร้อม ๆ กับพระเอกเลยแหละ เพราะพระเอกเองก็งง ๆ กับสถานการณ์เหมือนกับที่เรางง ว่าไปแล้วก็คือเรากับพระเอกเหมือนแชร์มุมมองกันและกัน
หนังค่อนข้างให้น้ำหนักกับการเฉลยปมต่าง ๆ ผ่านภาพอดีตที่ไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนเหนื่อยแทนพระเอกที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน สะบักสะบอมเหลือเกิน ไหนจะ Timeline ของหนังที่สับไปสับมา มีทั้งอดีต 1 อดีต 2 บางทีก็ทำเอางง ๆ เหมือนกันว่าตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาไหนนะ บวกกับปมที่ไม่ได้ปะติดปะต่อ และยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้คนดูอย่างเรามึนระหว่างทางอยู่เหมือนกัน

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะดูไม่รู้เรื่อง คือภาพรวม ๆ ก็ยังเห็นแหละ แต่มันก็จะมีปมรายละเอียดบางอย่างที่ไม่ชัวร์ว่าทำไมถึงเกิดขึ้น เกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งหนังก็ไม่เฉลยชัด ๆ ด้วยนะ เหมือนอยากให้คนดูดูแล้วไปจินตนาการต่อเอง ใครจะตีความยังไงก็เอาเลยจ้าเต็มที่
ส่วนตัวคิดว่าหนังไม่ได้มีจุดหักมุมที่ชวนช็อกเท่าไร เพราะเดาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่ามันจะมีอีหรอบนี้ ซึ่งก็เป็นจริงตามคาด สิ่งที่บันเทิงของหนังจึงเป็นการได้เข้าไป explore อดีตร่วมกับพระเอก ว่ามันเคยเกิดเหตุการณ์อะไรวิปริต ๆ ขึ้นบ้าง
ในส่วนของการแสดงของมาริโอ้ในบทแทนนั้น เราคิดว่าทำได้ดีมาก เพราะเป็นบทที่ต้องแสดงความกลัวออกมาเกือบจะทั้งเรื่อง ไหนจะต้องล้มลุกคลุกคลานในหลาย ๆ ฉาก มีความบู๊อยู่หน่อย ๆ เหมือนกัน
ส่วนความน่ากลัวของหนังนั้น เราว่ามันมาในแนวเย็น ๆ หลอน ๆ มากกว่า ไม่ค่อยมีฉากชวนสะดุ้งเท่าไร และความแหวะของผีก็ไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้น อาจจะเพราะบรรยากาศหนังมันมืด ๆ ซะเยอะเลยไม่ค่อยเห็นดีเทลเท่าไร จะเห็นเป็นแนวแบบร่างเงา ๆ มากกว่า

ประเด็นของหนังที่เล่นน่าจะเป็นเรื่องครอบครัว และเรื่องความไม่สมบูรณ์แบบ สังเกตได้จากตัวละครหลักที่บ้าความสมบูรณ์แบบ อยากได้บ้านที่อบอุ่นไร้ที่ติ จนทำให้บางทีก็ไม่ยอมรับความจริง ว่ามันไม่มีอะไรเพอร์เฟ็กต์หรอกแม้กระทั่งบ้านของตัวเอง ครอบครัวก็เช่นกัน สุดท้ายแล้ว แม้จะมีจุดด่างพร้อย แต่ก็คือบ้าน คือครอบครัว หากเราเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน เราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

โดยรวมแล้ว Take Me Home สุขสันต์วันกลับบ้าน ถือเป็นหนังผีที่สามารถดูเพลิน ๆ ได้ แต่อาจจะมึนสักหน่อยกับปมที่หนังสาดมาแบบไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งตอนจบก็ยังมีความก้ำกึ่ง เดาไม่ถูกว่าบทสรุปเป็นยังไง ทำให้สุดท้ายก็ต้องมาเสิร์ชพันทิปอ่าน (ซึ่งก็มีคนตั้งกระทู้เป็นจำนวนเยอะมาก) อ่านพันทิปก็ยังเจอสมมติฐานต่าง ๆ หลากหลายกันไป ทำให้ไม่เจอข้อสรุปเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งเราเดาว่านั่นคงเป็นเจตจำนงของหนังเองแหละ ที่อยากให้คนดูตีความเอาเอง แต่แอบคิดว่า ถ้าหนังเล่าเรื่องเคลียร์ขึ้น คลายปมชัดขึ้น ก็น่าจะเพิ่มความบันเทิงได้ดีทีเดียว
Leave a Reply