หลังจากอ่าน Red Queen โดย Victoria Aveyard จบ ยอมรับเลยว่าประทับใจมากจนอดไม่ได้ที่จะหา Glass Sword นิยายเล่มต่อมาอ่าน เพราะเล่มแรกมีความเข้มข้น สนุก และตอนจบที่ทิ้งค้างไว้ให้ชวนติดตามต่อ เราจึงค่อนข้างคาดหวังกับ Glass Sword เป็นพิเศษ
รีวิว Red Queen (2015): เผ่าพันธุ์ อำนาจ และการหักหลัง…สมรภูมิรบของเด็กสาววัย 17 ปี
ก่อนหน้านี้เคยเห็น Red Queen ของ Victoria Aveyard มาได้พักใหญ่ ได้รับรู้กระแสว่าเป็นนิยาย Dystopian Young Adult ที่ได้รับความนิยมอยู่ เป็นถึงนิยายเจ้าของรางวัล Goodreads Choice Award for Debut Goodreads Author ในปี 2015 บวกกับรูปปกที่สวยไฮโซจึงอยากมีไว้ครอบครอง ตอนแรกเราไม่ได้คาดหวังว่าเนื้อเรื่องจะสนุกเข้มข้นอะไรมากมาย แต่กลับกลายเป็นว่า พลิกล็อก! เพราะมันสนุกกว่าที่เราคิดมากๆ แถมยังมีประเด็นหนักๆ หลายประเด็นที่นิยายสื่อออกมาอีก
รีวิว 13 Reasons Why SS3: หรือคนไม่ดีจะไม่สมควรได้รับความยุติธรรม?
13 Reasons Why ซีซั่น 3 นี้ ดูเหมือนจะหลุดวงโคจรออกมาจากแฮนนาห์แล้ว เพราะซีรีส์เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามว่า "ใครคือคนฆ่า ไบรซ์ วอร์คเกอร์?"
รีวิว Two Can Keep a Secret (2019): เมืองลึกลับที่เด็กสาวมักจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ตอนแรกเราชั่งใจอยู่ว่าจะอ่าน Two Can Keep a Secret ดีไหม เพราะผลงานก่อนของ Karen M. McManus อย่าง One of Us is Lying นั้นไม่ประทับใจเราเท่าไร แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวเลยจัดมาสักเล่ม แม้ว่าปกจะมีความคล้ายกับเล่มก่อนราวกับเป็นภาคต่อ แต่เล่มนี้เป็นเรื่องแยกต่างหากมาเลยนะ ไม่มีความเกี่ยวข้องกันใดๆ
รีวิว To All The Boys I’ve Loved Before (2018): เมื่อผู้ชาย 5 คนได้อ่านจดหมายรัก (ซึ่งควรจะเป็นความลับ) ของเธอ
ลองนึกภาพว่าเราชอบคนคนหนึ่ง...อะ หลายๆ คนก็ได้ เราเขียนจดหมายรักให้พวกเขา บอกเล่าความรู้สึกทุกอย่างลงไป เขียนเสร็จก็เก็บมันไว้ในกล่อง ไม่ส่งออกไป แต่แล้ววันหนึ่งจดหมายพวกนั้นกลับไปอยู่ในมือของคนเหล่านั้นที่เราแอบชอบ แน่นอนว่าพวกเขาได้อ่านมันแล้ว และความรู้สึกของเราก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป... นี่คือเรื่องยุ่งยากที่ ลาร่า จีน นางเอกจาก To All The Boys I've Loved Before ต้องเผชิญ และนั่นก็นำมาซึ่งเรื่องราวความรักวุ่นๆ ที่เริ่มจากการหลอกลวง ก่อนที่ความสัมพันธ์จะพัฒนากลายเป็นความรักจริงๆ
รีวิว Leah on The Offbeat (2018): ชีวิตผิดจังหวะของสาวมือกลองที่ยังงงๆ ว่าตัวเองชอบเพศอะไร
Leah on the Offbeat เป็นนิยายภาคต่อจาก Simon VS. The Homo Sapiens Agenda นิยายชื่อดังที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Love, Simon ในเล่มนี้ เราได้กลับมาเจอตัวละครที่คุ้นเคยกันอีกครั้ง กับเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากภาคที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องที่เล่มนี้เป็นไฮสคูลปีสุดท้าย ซึ่งก็จะนำมาซึ่งประเด็นปัญหาวัยรุ่นต่างๆ
รีวิว Simon VS. The Homo Sapiens Agenda (2015): ความสัมพันธ์ลับผ่านอีเมลของ 2 หนุ่ม
ใครไม่คุ้นชื่อยาวเฟื้อยอย่าง Simon VS. The Homo Sapiens Agenda จะบอกว่ามันคือชื่อหนังสือต้นฉบับของหนังเรื่อง Love, Simon ซึ่งรีวิวนี้จะขอพูดถึงหนังสืออย่างเดียว ดูแวบแรก อาจจะนึกว่าเรื่องนี้เป็นนิยาย YA สไตล์ไฮสคูลทั่วไป ไม่ก็เรื่องรักวัยรุ่นของชายหญิง แต่เปล่าเลย เพราะเรื่องนี้เป็นนิยาย LGBT มีตัวเอกเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่เป็นเกย์ และต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ อันวุ่นวายมากมาย