เส้นทางวันนี้
- กินมื้อเช้าที่ร้านในซูเปอร์มาร์เก็ตแถวโรงแรม
- Kremlin
- มื้อเที่ยงที่ร้าน Strana Kotoroy Net
- ห้าง TSUM
- Moscow State University
- Sparrow Hills
- Moscow State Circus
แผนที่เส้นทาง
https://goo.gl/maps/8DGtvRCUm1V9JdMH6
วันนี้ตื่นประมาณ 7 โมง ออกจากห้องไปหาอะไรกินตอน 8 โมง เพราะช่วงเช้าวางแผนว่าจะไป Kremlin กัน
ตอนแรกว่าจะไปกินร้าน PAUL ซึ่งอยู่ใกล้โรงแรม แต่ปรากฏว่า ร้านยังไม่เปิด พอเป็นวันเสาร์-อาทิตย์แล้วเปิด 9 โมงแน่ะ
ส่องร้านอื่นๆ แถวนั้นดู ก็พบว่าส่วนใหญ่ยังไม่เปิด
แต่แล้วก็ไปเจอกับร้านนึงที่เปิดพอดี นั่นก็คือร้านในซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ ซึ่งเปิด 24 ชั่วโมง
อันที่จริง ตัวร้านไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงหรอก เปิด 8 โมง ซึ่งก็ทันเวลาเราพอดี
ร้านตกแต่งน่ารักดี เราก็หยิบเมนูอาหารเช้ามาดูก่อนเลย
เราสั่งเมนูแรกคือ Fitness Breakfast เป็นโยเกิร์ตใส่พวกซูเปอร์ฟู้ดทั้งหลาย เช่น เมล็ดเจีย โกจิเบอร์รี่ มูสลี่ ฯลฯ กับเอสเพรสโซ่ 1 แก้ว
อาหารรอนานมากกกก
อาจจะเป็นเพราะบริกรมีน้อย เท่าที่เห็น มีอยู่ 2 คนเอง
ประมาณครึ่งชั่วโมงได้มั้งกว่าอาหารจะมา
ปริมาณอาหารค่อนข้างน้อย กินแป๊บๆ ก็หมดละ
9 โมงกว่าๆ ก็ออกมาจากโรงแรม นั่งรถใต้ดินจากสถานี Smolenskaya ต่อสายน้ำเงินไปลง Arbatskaya ซึ่งจากจุดนี้ สามารถเดินเชื่อมไปยังสถานีเส้นสีฟ้า อย่างสถานี Alexandrovsky Sad ได้ จุดนี้เราคาดกันว่าน่าจะใกล้กับจุดออกตั๋วเข้าชม Kremlin
พอออกมาจากสถานีได้ ก็ google maps หาทิศต่อเลย ไม่นานก็หาเจอ อยู่ไม่ไกลจากสถานี มีต้องลอดอุโมงค์หน่อย
09.45: Kremlin
เมื่อเข้ามาในส่วนของ Kremlin ก็แอบหวั่นๆ กับจำนวนคนที่เห็น
แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็โล่งอกไป เพราะคนเยอะๆ ที่ว่านั่นไม่ใช่คิว แต่เป็นคนยืนออกันเฉยๆ
ส่วนคิวนั้นน่ะเหรอ ค่อนข้างสั้นจนน่าแปลกใจเลย ตอนแรกเราคิดว่าจะยาวเฟื้อย
ด้านซ้ายมือคือคิวเข้าชม Kremlin ส่วนด้านขวามือนั้นจะมีอาคารขายตั๋วอยู่ เราก็เดินเข้าไปในอาคารนี้ได้เลย
เนื่องจากเราซื้อตั๋วออนไลน์มาแล้ว เราก็สามารถไปที่บูธออกตั๋วสำหรับตั๋วออนไลน์ได้ นั่นคือบูธ 6 7 8
ต่อคิวอยู่ไม่นานก็ถึงคิวเรา ตอนออกตั๋วเค้าจะขอพาสปอร์ตคนใดคนหนึ่งในกลุ่มด้วย
ตั๋วมาพร้อมกับแผนที่ ซึ่งเราชอบมากเพราะขนาดกะทัดรัดดี ไม่ต้องแผ่กางให้เมื่อยมือ
เสร็จแล้วก็เดินไปตรงที่เค้าต่อคิวกันเมื่อกี้ ย้ำอีกทีว่าคนน้อยมากกกก ต่อปุ๊บก็ได้เข้าเลย เหนือคาดจริงๆ นี่ขนาดเป็นวันเสาร์
ผ่านทะลุเข้ามาใน Kutafiya Tower ก็ต้องตรวจเช็กสัมภาระเพื่อความปลอดภัย ซึ่งก็ไม่มีอะไรวุ่นวาย ผ่านเข้ามาได้แล้วก็เดินตามทางที่เชื่อมไปสู่ Trinity Tower
จากตรงนี้ มองลงไปเห็นสวนได้
เมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้ว หันขวาจะเจอกับ State Kremlin Palace ซึ่งเขากันพื้นที่ส่วนนั้นไว้ไม่ให้เดินต่อ ส่วนซ้ายมือคือ The Arsenal
เราก็เดินทะลุมาเรื่อยๆ จนเจอทางเข้าไปสู่ Cathedral Square
เมื่อเข้าไปในจตุรัส ก็จะเจอกับนักท่องเที่ยวมากมาย
รอบด้านโอบล้อมไปด้วยโบสถ์ โซนตรงนี้สวยมาก ถ่ายรูปได้หลายมุม ดูยิ่งใหญ่ดี
เราซื้อตั๋วแบบเข้าชมโบสถ์หลักๆ ทั้ง 3 ได้ ก็ทยอยเข้าไปทีละแห่ง เสียดายที่เค้าไม่ให้ถ่ายรูป เราเลยไม่สามารถเก็บภาพข้างในมาได้
เริ่มจาก Archangel Cathedral วิหารเล็กๆ ที่เป็นที่ฝังศพของพระเจ้าซาร์องค์แรก หรือ Ivan The IV
ต่อด้วย Annunciation Cathedral ซึ่งเป็นวิหารประจำราชวงศ์ ข้างในวิหารดูวกไปวนมาน่าเดินดี มีคอลเล็กชั่นงานศิลปะมากมาย
ลงท้ายด้วยวิหารที่คิวยาวสุด อย่าง Assumption Cathedral ซึ่งพอเข้าไปแล้วคนแน่นมาก ที่นี่เป็นวิหารที่ราชวงศ์เคยใช้ทำพิธีกัน
เนื่องจากเราไม่ได้ซื้อตั๋วขึ้น Ivan the Great Bell Tower พอเสร็จจาก 3 โบสถ์เราก็มุ่งหน้าไปดูปืนใหญ่ซาร์ (Tsar Cannon) ต่อเลย เดินออกมาจากจตุรัสตรง Ivan the Great Bell Tower แล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอปืนใหญ่ก่อน เป็นปืนใหญ่ที่ไม่เคยถูกใช้การเลย จุดนี้มีคนมาถ่ายรูปมากมาย ต้องรอให้คนซาสักพักถึงจะได้รูปปืนใหญ่แบบเต็มๆ
อีกฝั่งนึงก็จะเป็นระฆังซาร์ (Tsar Bell) หรือที่เราเรียกเล่นๆ ว่าระฆังแตก จุดนี้ก็มีคนถ่ายรูปเยอะมากเช่นกัน
อ้อ ลืมบอก เราไม่สามารถลงไปยืนบนถนนได้นะ นอกเหนือจากข้ามถนนตรงทางม้าลาย ถ้าลงไปยืน ตำรวจจะเป่านกหวีดไล่ให้เราขึ้นไปอยู่บนฟุตบาธตามเดินทันที
เสร็จจากตรงนี้ เราก็เดินเล่นในสวนข้างๆ ต่อสักพัก ซึ่งก็ยังไม่มีอะไรตระการตาเท่าไรเพราะดูเหมือนเค้ากำลังจะวางดินปลูกดอกไม้กัน
เดินออกมาแล้วหันกลับไปมองด้านหลัง ก็จะได้วิว Great Bell Tower อีกมุม
ข้างๆ ทางเดินไปสู่ประตูทางออกก็จะเป็น The Senate ดูยิ่งใหญ่มากๆ
ออกผ่าน The Savior’s Tower ก็จะเจอกับจตุรัสแดงพอดี
วันนี้จตุรัสแดงคนเยอะมาก หน้าวิหาร St. Basil ต่างจากวันก่อนลิบลับ
11.30: Zaryadye Park
โปรแกรมต่อไปของเราก็คือ Zaryadye Park
เดินผ่านวิหาร St. Basil ไปแล้วข้ามถนน ก็เจอทันที
สวนนี้ไม่ใหญ่มาก เดินรอบๆ ได้ มีดีไซน์แปลกๆ ล้ำๆ ประปรายอยู่ทั่วทุกมุม
เราเดินขึ้นเนินไปชมวิวด้านบนกันก่อน เพราะเห็นคนเดินเยอะ
เห็นไกลๆ ว่ามีโดมอะไรสักอย่าง เลยเดินเข้าไปสำรวจ จึงเจอกับอัฒจรรย์ขนาดใหญ่ที่มีโดมครอบ เห็นสถาปัตยกรรมสวยดีเลยเดินขึ้นไปส่อง ข้างบนเป็นพื้นหญ้าเฉยๆ ไม่มีอะไร ไม่แน่ใจว่าเค้ากำลังจะปลูกอะไรเพิ่มรึเปล่า
ตรงหน้าอัฒจรรย์คือผ้าปิดเป็นรูปตึก ไอ้เราตอนแรกเห็นไกลๆ ก็นึกว่าตึกจริง ทำเหมือนมากๆ
เดินเลยมานิดนึง ค่อยรู้ว่าตึกนี้น่าจะเป็นโอเปร่าเฮ้าส์ที่มาจากออสเตรีย
เดินมาอีกหน่อย ก็ค้นพบว่าตัวอัฒจรรย์และโดมที่เห็น มันอยู่บนตึกอีกตึกนึงอีกที! ดีไซน์ล้ำเลิศไปอีก
จากตรงนี้ เราเดินเลยไปยังจุดไฮไลต์ของสวน นั่นก็คือปลายแหลมที่ยื่นออกมาถึงกลางแม่น้ำ ตรงนี้คนเยอะมาก ถ่ายรูปกันเต็ม
ตรงนี้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำ และบรรยากาศรอบๆ ได้
เดินกลับมายังตึกเดิม ก็เห็นว่าเค้ามีตั้งเวทีโชว์อะไรสักอย่าง เลยตัดสินใจนั่งรอดู ระหว่างรอก็เห็นเด็กๆ หน้าเวทีกำลังยืดเส้นยืดสายกันอย่างเมามันส์
สักพักพิธีกรก็ขึ้นมาพูด และพูดนานมากกก มากจนเกือบจะลุกออกไปละ แต่ทนรออีกสักหน่อยละกัน
กะว่าจะดูสักโชว์นึงแล้วค่อยออก
โชว์ที่ได้ดูเป็นโชว์เด็กชายเด็กหญิงแต่งชุดพื้นเมืองสีสันสดใส ออกมาเต้นกัน ซึ่งก็เต้นไม่พร้อมกันอีก แต่นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้โชว์ดูเป็นธรรมชาติ
ดูโชว์จบแล้ว เราก็ตัดสินใจไปหาอะไรกิน แต่ระหว่างทางเจอจุดที่เขียนว่า Ice Cave เลยตัดสินใจเข้ามาส่องๆ
เข้ามาข้างใน ดูเหมือนจะเป็นพิพิธภัณฑ์เชิงธรรมชาติ ซึ่งต้องเสียค่าเข้าชม เราเลยไม่ได้เข้า แต่แอบตีเนียนมาเข้าห้องน้ำที่นี่ ฮาาา จริงๆ ถ้ำน้ำแข็งก็น่าเข้านะ อยากรู้ว่าเขาจะจำลองออกมาเป็นยังไง
ปะ หาของกินกันต่อ เนื่องจากว่าน้องเราจะไปดูกระเป๋า Stella ต่อ เลยหาร้านที่อยู่ใกล้ๆ ร้านกระเป๋า ก็มาลงเอยที่ร้านนี้ ซึ่งเราเคยดูรีวิวมาแล้วว่าอาหารเด็ดอยู่
เดินทะลุผ่านจตุรัสแดงไป ฝนตกลงมาพรำๆ ไม่แรง บรรยากาศโดยรอบดูขมุกขมัวสุดๆ ทั้งที่วันก่อนยังแดดแรงอยู่เลย
13.05: Strana Kotoroy Net
ออกมาจากจตุรัสแดง ก็ตรงไปที่ร้าน Strana Kotoroy Net ซึ่งเลยโรงแรม Four Season ไปสักหน่อย
พอเข้าไป ก็จะเจอกับโซนครอบครัวก่อนเลย แต่ถ้าเดินทะลุไปอีกก็จะเจอโซนที่ดูผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย มีความขรึมๆ เข้มๆ มืดๆ มีครัวเปิดให้เห็นกันจะๆ
สักพักบริกรก็เอาเมนูมาให้ดู บริกรคนนี้พูดอังกฤษได้ แม้เขาจะบอกว่าเขาพูดไม่เก่ง แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้วละ
อาหารมีให้เลือกเยอะอีกแล้ว เราลองสั่งเมนูผักชื่อแปลกๆ มาดู
จานออกมากระจึ๋งนึง รสชาติเหมือนผัดเปรี้ยวหวาน เวอร์ชั่นเย็น ถึงอย่างนั้นก็อร่อยดีนะ
อันนี้เป็นจานกลาง เป็นแป้งกรอบๆ ที่ข้างในมีชีสเยิ้มๆ อยู่ เมนูนี้เห็นในรีวิวแล้วดูน่ากินมาก ซึ่งพอกินคู่กับซัลซ่าแล้วก็อร่อยจริงๆ
ต่อมาเป็นจานกลางขนาดบิ๊กเบิ้ม เป็นรวมมิตรของย่างทั้งหลาย เราหยิบกินแต่ผักเพราะเนื้อบนนั้นมีแต่อะไรที่เรากินไม่ได้ ขนาดผักยังย่างออกมาได้อร่อยเลย
พอเสร็จของคาวก็สั่งของหวานกันต่อ เราสั่งเป็น Passionfruit Cheesecake กับ Pigeon Milk Cake
Passionfruit Cheesecake อร่อยมาก รสเปรี้ยวๆ ของเสาวรสด้านบนตัดกับตัวชีสได้ดี ที่นี่เค้าเก่งเรื่องชีสจริงๆ ไปกินชีสเค้กร้านไหนก็อร่อย
ส่วน Pigeon Milk Cake ตอนแรกบริกรบอกว่าคล้ายๆ ซูเฟล่ แต่พอกินจริงๆ ก็รู้สึกว่าเนื้อแอบแน่นกว่านะ ถึงอย่างนั้นก็มีความดึ๋งๆ เป็นฟองน้ำเหมือนกัน อันนี้แอบหวานไปหน่อยเราว่า
ปิดท้ายด้วยเอสเพรสโซ่สักช็อต ก็เป็นอันจบมื้อ
14.40: TSUM
จากนั้นก็ถึงเวลาไปดูกระเป๋า ตอนแรกหาร้านที่อยู่ใกล้ๆ ร้านไม่เจอ ก็เลยต้องข้ามฝั่งไปอีกร้านนึง ซึ่งอยู่ที่ห้าง TSUM แทน ห้างนี้อยู่ข้างๆ Boishoy Theatre เลย
พอเข้ามาแล้ว ห้างนี้ดูโมเดิร์นมากๆ
เรากับพ่อปล่อยให้แม่กับน้องดูกระเป๋ากันไป สุดท้ายก็แห้วกันเพราะไม่มีดีไซน์ที่ต้องการ
เสร็จจากตรงนี้ เราก็ตัดสินใจไปแถวๆ Moscow State Circus เลย เราซื้อตั๋วดูรอบ 5 โมง ประตูเปิด 4.30 ไม่อยากพลาดรอบเหมือนเรือคราวที่แล้วอีก ถ้ารอบนี้พลาด ไม่มีโอกาสซ้ำสองแล้ว
ก็ลงเมโทรสถานี Teatralnaya แล้วเดินไปต่อรถสายแดงที่สถานี Okhotny Ryad จากตรงนี้ก็นั่งไปยาวๆ เลย 7 สถานี
ก่อนจะถึงสถานี Universitet ซึ่งเป็นจุดหมาย ก็มีสถานีก่อนหน้าอย่าง Voroyovy Gory ที่มีจุดเด่นตรงที่สถานีอยู่บนสะพาน เหนือแม่น้ำ Moskva
ถ้าลงตรงนี้ ดูจากแผนที่แล้วเหมือนจะใกล้ Sparrow Hills มากกว่า แต่เรากะว่าจะไปลง Universitet เพื่อดูสถานที่จัดแสดงละครสัตว์ก่อน แล้วค่อยไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยมอสโควที่อยู่ใกล้สถานีนั้น แล้วค่อยเดินมา Sparrow Hills ซึ่งจะเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้จากมุมสูง
เมื่อออกจากสถานี Universitet มาได้ มองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเจออาคารรูปโดม พอเช็กกับแผนที่ก็ชัวร์เลยว่าเป็นสถานที่จัดแสดงละครสัตว์ เยี่ยม! อยู่ใกล้สถานี
มองไปด้านซ้าย ก็จะเห็นยอดตึกของ Moscow University อยู่ไกลๆ เราเลยเดินลอดใต้ดินข้ามไปยังอีกฝั่งถนน เพื่อเดินเลียบเคียงไปทางมหา’ลัย
15.35: Moscow State University
เมื่อผ่านเข้าประตูมหา’ลัยได้แล้ว ก็ต้องเผชิญกับความร่มรื่นสุดๆ
เดินตามทางมาเรื่อยๆ ส่องบรรยากศมหา’ลัยไปด้วย คงเพราะวันนี้วันหยุด เลยไม่ค่อยมีคน ตึกก็ดูเงียบๆ ร้างๆ
และแล้วก็มาเจอกับตึกที่เราตามหา แบบเต็มๆ!
ตึกนี้กว้างใหญ่มาก รู้สึกว่าเดินเท่าไรก็ไม่ผ่านมันไปสักที
ออกจากโซนมหา’ลัยมา เราก็เบนเข็มไปทาง Sparrow Hills ต่อ เดินประมาณ 10 กว่านาที ก็เดินสบายๆ เพราะอากาศเย็น บวกกับมีต้นไม้เยอะมาก ร่มรื่นสุดๆ
กะว่าจะเดินไป แล้วค่อยเรียกรถไปโรงละคร น่าจะไหวอยู่
เมื่อใกล้ๆ ถึง Sparrow Hills ก็จะมีลานกลางถนนที่ปลูกดอกไม้อยู่ มาตรงนี้ก็จะได้เห็นมุมที่สวยงามอลังการของตึก Moscow University
มุมนี้ถ่ายออกมาแล้วสวยกว่าเยอะ
16.20: Sparrow Hills
เดินตรงไปต่อ ก็จะถึง Sparrow Hills ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วแอบรู้สึกว่าไม่ได้สวยมากอย่างที่คาดเท่าไร เลยใช้เวลาอยู่แค่แป๊บเดียว เรียกรถเพื่อไปโรงละครต่อ
16.35: Moscow State Circus
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง เห็นคนต่อคิวกันตรงนั้นยาวๆ เลยไปต่อมั่ง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถูกแถวไหม
สักพักน้องเราก็มาบอกว่าให้ไปต่อแถวอีกประตูนึง จึงค่อยเจอว่าประตูนี้คนน้อยกว่ามากๆ ก็งงเหมือนกันว่าทำไมคนไม่กระจายมาประตูนี้บ้าง
เนื่องจากเรามีตั๋วที่ซื้อออนไลน์มาแล้ว ก็แค่ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่สแกนได้เลย จากนั้นก็ผ่านจุดตรวจสัมภาระนิดหน่อย
เข้ามาได้แล้ว ก็จะเจอผู้คนมากมาย โดยเฉพาะเด็ก
ดูจากตั๋ว ที่นั่งเราอยู่ Section V เราดูจากประตูทางเข้าห้องจัดแสดงแถวๆ นั้นแล้วเห็นว่ามันเป็น Section อื่น เลยถามพนักงานว่าโซน V นี่อยู่ไหน
พนักงานก็ชี้ไปฝั่งนึง เราก็เดินตามไป แล้วไปเข้าประตูอีกฝั่ง ซึ่งก็ไม่ได้เขียนว่า Section V
พอเข้ามาได้แล้ว ถามพนักงานอีก ก็บอกว่า พี่ต้องไปฝั่งนู้น //ชี้ไปอีกทาง
อะไรของมันวะ ชี้ไปคนละทิศละทาง สรุปมันอยู่ไหน
เราก็ออกมาข้างนอก ถามเด็กขายป๊อปคอร์นอีก นางก็ชี้ว่าประตูถัดไปนี่แหละ
เอาวะ ลองเข้ามาดู ปรากฏว่ายังไม่ใช่โว้ยยย พวกแกช่วยชี้ให้เป็นทีมเวิร์กกันหน่อยได้ไหม
สุดท้ายก็เริ่มสุ่มเข้าประตูนึง ซึ่งก็ไม่ได้เขียนว่า Section V อีกนั่นแหละ ถามพนักงานอีกครั้ง เค้าก็พาเรามายังแถวหน้าสุด เมื่อมาถึงก็เจอเลขที่นั่งที่เราจองไว้ โอเค ถูกอันละ
ว่าแต่ว่ามันมีบอกตรงไหนฟะว่านี่คือ Section V งงใจกับที่นี่จริงๆ
นั่งแถวหน้านี่เห็นเวทีการแสดงชัดแจ๋วเลย โชว์เริ่มตอน 5 โมงเป๊ะพอดิบพอดี
ที่นั่งที่เรานั่งนั้น เป็นจุดที่เห็นด้านหลังของนักแสดง เรานั่งกันอยู่ใกล้ๆ จุดที่เค้าปล่อยตัวนักแสดงเข้าเวทีไป บางช่วงอาจจะขาดอรรถรสไปหน่อยเพราะเห็นแต่ด้านหลัง แต่โดยรวมถือว่าโอเค เพราะเค้าก็พยายามเล่นกับคนดูทุกมุมห้อง
นักแสดงแต่ละคนเก่งมาก มีโชว์กายกรรมเยอะแยะเต็มไปหมด ดูไปก็ลุ้นไป หวาดเสียวไป
เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาดูโชว์อะไรแบบนี้แบบเต็มรูปแบบ รู้สึกว่ามันตระการตาดี
ส่วนสัตว์ที่มาโชว์นั้น ก็มีตั้งแต่ลิง ฮิปโป นกแก้ว สุนัข แมวป่า ม้า ต่างก็มาแสดงความสามารถที่ชวนให้สงสัยว่าต้องฝึกยังไงกันนะถึงทำได้ขนาดนี้
โดยส่วนตัวเรามองว่าไฮไลต์เด็ดของโชว์นี้อยู่ที่นักแสดงมากกว่าสัตว์ รู้สึกว่าโชว์ให้แอร์ไทม์กับสัตว์ไม่เยอะเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นคนมากกว่า ที่มาแสดงอะไรที่ดูแบบว่าเหนือมนุษย์มากๆ
ระหว่างโชว์มีพักครึ่งด้วย สามารถออกไปเข้าห้องน้ำ หาซื้ออะไรกินได้ โชว์จบตอนเกือบๆ 2 ทุ่ม ก็นานอยู่นะ แต่ดูเพลินดี รู้สึกคุ้มค่าตั๋วราคาประมาณ 1,000 บาทมาก
ออกมาแล้ว ท้องฟ้ายังไม่มืดเลย แต่ด้วยความที่พรุ่งนี้จะกลับแล้ว เราเลยขอกลับไปแถวๆ โรงแรม เพื่อซื้อของฝาก และแพ็กกระเป๋าละกัน
มาพึ่งพาของฝากจากซูเปอร์มาร์เก็ต 24 ชั่วโมงนี่แหละ เราพุ่งไปตรงโซนช็อกโกแลตเลย เล็งๆ ช็อกโกแลตของที่นี่ไว้ แล้วก็แอบหยิบช็อกโกแลตชาติอื่นที่ลดราคามาด้วย ขอย้ำอีกครั้งว่าขนมที่นี่ถูก-มาก!!
นอกจากช็อกโกแลต ก็มีขนมก้อนชีสที่ติดใจตั้งแต่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแล้ว เลยซื้อติดไม้ติดมือกลับมา 3-4 ชิ้น ไม่กล้าซื้อเยอะ กลัวเน่าหมดแผงก่อนถึงไทย
สรุปค่าใช้จ่ายการซื้อของฝากล็อตสุดท้าย หมดไปประมาณ 2,000 กว่าๆ รูเบิล หรือประมาณ 1,000 กว่าๆ ไทยเอง
คงเพราะสิ่งที่ซื้อนั้นเป็นขนมด้วยละ ถ้าเป็นตุ๊กตาแม่ลูกดก ราคาจะแพงยิ่งขึ้นไปกว่านี้มากๆๆ
สำหรับวันนี้ก็จบทริปลงไปแล้ว พรุ่งนี้เราก็จะกลับไทยกันแล้ว…
Next Entry
ยังไม่จบจ้า เดี๋ยวมีสรุปทริปส่งท้าย
อ่านตอนก่อนหน้านี้ของ “รัสเซียร้อนมาก”
รัสเซียร้อนมาก #1: แดดแรงๆ ใน St.Petersburg เลยต้องหนีเข้าโบสถ์
รัสเซียร้อนมาก #2: เยือนเกาะกระต่าย วังแคเธอรีน และโดนแท็กซี่โกง
รัสเซียร้อนมาก #3: เยือน 2 วังที่คู่ควร เมื่อมา St.Petersburg
รัสเซียร้อนมาก #4: เที่ยวมอสโคววันที่ตลาดนัดปิดและจตุรัสแดงโดนบัง
รัสเซียร้อนมาก #5: วันเฉื่อยๆ ในร้านสุดขลังและสวนสาธารณะสุดเขียว
รัสเซียร้อนมาก #6: มื้อเที่ยงในแดนอลิซ และหวุดหวิดเกือบอดขึ้นเรือสำราญ