เส้นทางวันนี้
- มื้อเช้าที่ร้าน PAUL
- ขึ้นรถไฟจากสถานี Smolenskaya ไปเที่ยวสถานี Mayakovskaya กับ Belorusskaya
- ย้อนกลับมาสถานี Tverskaya สำหรับมื้อเที่ยงที่ Cafe Pushkin
- Eliseyev Food Hall
- Gorky Park
- เที่ยวสถานี Komsomolskaya, Prospekt Mira และ Novoslobodskaya
แผนที่สถานที่
https://goo.gl/maps/mSXYHA8YHwsJrWJF8
แผนที่เมโทร
https://goo.gl/maps/yt3BBQDyi7YG9X3i8
เช้านี้เราสบายๆ กันเพราะเราได้ทำการเลื่อนโปรแกรมการไปเยี่ยมชมโรงละคร Bolshoi เป็นวันอื่นแทน วันอื่นที่ว่าก็คือวันที่บัตร Hop on Hop off ของเราใช้การได้นั่นละ เลยคิดว่างั้นไปเก็บทีเดียวตอนนั้นเลย
ใช่ เราซื้อบัตร Hop on Hop off มาด้วย เพราะอยากพลีช่วงเวลาไปกับการนั่งรถชมเมือง เห็นเป็นเมืองใหญ่ไงเลยอยากลองสำรวจภาพรวมคร่าวๆ ดู
วันนี้เลยออกจากโรงแรมประมาณ 8.30 มากินข้าวเช้าที่ร้าน PAUL ใกล้ๆ โรงแรมร้านเดิม
ปกติแล้วเนี่ย เวลาอยู่ไทย เราจะได้กิน PAUL เป็นมื้อเที่ยง เมนูที่สั่งก็จะเป็นอะไรหนักๆ หน่อย วันนี้มาลองมื้อเช้าเป็นครั้งแรก ตอนแรกว่าจะสั่งพวกแซนด์วิชหน้าเปิด (Tartine) แต่ปรากฏว่าของยังไม่พร้อม
พอจะสั่งโยเกิร์ตกับมูสลี่ ของก็ยังไม่พร้อมอีก
งั้นกลับมาสั่งข้าวต้มฝรั่ง (Porridge) เมนูดั้งเดิมของเราละกัน ก็มีให้เลือกว่าจะเอาข้าวหรือมิลเล็ต เราเลือกเป็นมิลเล็ตต้มพร้อมกับนม
สั่งเอสเพรสโซ่ไปด้วย ที่นี่เค้าดีตรงที่ถามด้วยว่าจะเอาตอนนี้เลยหรือเอาทีหลัง เราก็บอกไปว่าเอาทีหลัง
รอสักพักอาหารก็มาเสิร์ฟ ข้าวต้มเสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้งแผ่นบางๆ และเนยกับน้ำผึ้ง
รสชาติของข้าวต้ม เห็นหน้าตาจืดๆ แต่รสชาติโอเคอยู่นะ ไม่หวานปรี๊ดเหมือนร้านนั้นที่กินเมื่อวันก่อน มีความนมๆ และหวานนิดๆ กำลังดี
พอกินข้าวเสร็จ เราก็ออกมาเดินเล่นเลียบถนน Smolenskaya
อ้าว ห้างล็อตเต้ !
เราถือโอกาสเดินเลยไปที่หัวมุมถนนตรงที่ตัดกับเส้น New Arbat เพื่อไปส่องร้าน Le Pain Quotidien ที่ตอนแรกว่าจะมากิน แต่รู้สึกว่าไกลไป เอาเข้าจริงก็ไม่ไกลขนาดนั้น เดินแค่ครึ่งกิโลเอง
เล็งๆ ไว้ วันหลังอาจจะมาฝากท้องที่นี่
กลับมานั่งเล่นที่โรงแรมสักพัก ตอน 11 โมงก็ออกจากโรงแรมเพื่อตรงไปยัง Cafe Pushkin แถวๆ ถนน Tverskoy
จากตรงโรงแรม เราลงสถานีเมโทร Smolenskaya ขึ้นสายน้ำเงิน แล้วไปลงที่ Ploshchad Revolyutsii เพื่อเปลี่ยนไปลงสถานี Teatralnaya แล้วเปลี่ยนสายเป็นสายสีเขียว
สถานีที่เราต้องลงคือ Tverskaya ซึ่งนั่งรถแค่ต่อเดียวเท่านั้น แต่เราอยากไปสำรวจสถานีถัดๆ มา นั่นก็คือ Mayakovskaya กับ Belorusskaya
11.40 : Metro Tour
Mayakovskaya นี่เห็นว่าได้รางวัลด้วย พอไปเห็นสถานีแล้วก็ไม่แปลกใจ เพราะมันสวยจริงๆ
ส่วน Belorusskaya เราเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว้าวเท่าไร แต่มันมีสตอรี่ตรงที่ว่าเป็นสถานีเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและเบลารุสนี่ละ
เก็บภาพสถานีรถไฟทั้งสองเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นรถกลับทางเดิม ตรงไปที่สถานี Tverskaya จากตรงนี้ต้องเดินอีกหน่อย เราเดินทะลุเส้นทางใต้ดินไปเลย และเพิ่งได้เจอกับร้านค้าที่เปิดในเมโทร
ก่อนหน้านี้ไม่เจอเลยแฮะ เพิ่งมาเจอสถานีนี้นี่แหละ
เมื่อออกมาตรงประตูที่เชื่อมกับถนน Tverskoy ได้แล้ว เราก็เดินเลียบถนนโดยเปิด google maps ประกอบไปด้วย ระหว่างทางเรารู้สึกเหมือนเดินผ่านร้านที่ข้างในมีบรรยากาศเหมือน Cafe Pushkin แต่ก็ยังไม่แน่ใจ เพราะในแผนที่บอกว่าต้องเลยไปอีก ก็เลยเดินต่อไปอีกนิด จนมาเจอกับร้านนี้
พอเทียบชื่อหน้าร้านกับชื่อในอินเตอร์เน็ต ก็มั่นใจละว่าคือ Cafe Pushkin อย่างน้อยก็ต้องเป็นร้านขนมละนะ
พอเปิดประตูเข้าไป ก็เป็นร้านขนมจริงๆ
แต่เราต้องการจะไปร้านอาหาร จำได้ว่าร้านอาหารมันติดอยู่กับร้านขนม งั้นน่าจะเป็นร้านที่เพิ่งเดินผ่านมา แล้วเราเห็นว่าบรรยากาศมันคล้ายๆ นี่ละ
เดินขากลับถึงค่อยสังเกตเห็นว่ามีพนักงานสวมชุดยูนิฟอร์มของร้านยืนอยู่หน้าร้าน คิดว่าน่าจะใช่แล้วละ
ในรูปถ่ายไม่ติดนะ แหะๆ
12.00 : Cafe Pushkin
เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับ Cafe Pushkin โซน Pharmarcy หน้าตาเหมือนรูปที่เห็นในเว็บ การตกแต่งจะมีความกึ่งๆ บาร์ ก็ยังงงอยู่ว่ามันมีความเป็น Pharmarcy (ร้านขายยา) ตรงไหนหว่า
พวกเรายื่นอีเมลคอนเฟิร์มการจองโต๊ะให้พนักงาน เป็นโต๊ะที่อยู่ในโซน Library หรือห้องสมุด พนักงานพาเราเดินขึ้นไปชั้นสอง พอขึ้นมาเท่านั้นแหละ ก็ต้องประทับใจกับความตรงปกของร้าน มันสวยจริงๆ สวยเหมือนในภาพเลย บรรยากาศก็ดูขลังๆ ดี
เราได้โต๊ะริมหน้าต่าง มองดูฝนตกพรำๆ
สักพักบริกรก็เอาเมนูมาให้ดู เมนูเล่มใหญ่มาก มีเมนูเยอะมาก มีภาษาอังกฤษด้วย แต่ไม่มีรูป ฉะนั้นก็เลยต้องเปิดรูปในอินเตอร์เน็ตดูไปเรื่อยๆ แล้วถามบริกรเอาว่าภาพนี้คือเมนูอะไร
ตัวเราเองนั้นไม่รู้เลยว่าจะสั่งอะไรดี ดูน่ากินไปหมด สุดท้ายเลยมาลงเอยที่สลัดซีฟู้ด เพราะอยากกินสลัดพอดี
ก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะออกมาอลังการอะไร คงมาแบบมินิมอลละมั้ง
แต่พอมาเสิร์ฟจริงๆ ก็ต้องเซอร์ไพรส์เพราะดูดีกว่าที่คิดมาก ปริมาณก็เยอะดีด้วย
อาหารของแต่ละคนเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ บริกรเอาขนมปังมาให้เลือกชิ้นกันฟรีๆ ด้วย
สลัดซีฟู้ดของเรามีรสชาติเปรี้ยวๆ ของน้ำสลัดบัลซามิก มีผักเยอะดี ส่วนซีฟู้ดนั่นจะเป็นหอยแมลงภู่ กุ้ง ปลาหมึก ทุกอย่างเข้ากันได้ดีเลย ชอบๆ
จานกลางที่อยู่ตรงหน้าเราคือสลัดปู ตอนแรกมันมาเป็นชั้นๆ เป็นเลเยอร์ เลยจัดการผสมมันให้เข้ากัน เค้าให้เนื้อปูชิ้นใหญ่ดี สลัดมีความครีมๆ แต่ก็ไม่เลี่ยนนะ เป็นอีกจานที่อร่อย
จานอื่นๆ ที่คนอื่นสั่งก็เป็นจานเนื้อ กับแซลมอนย่าง
ข้างนอกร้านฝนตกพอดี ตกแบบเป็นเรื่องเป็นราวด้วย ไม่ใช่ปรอยๆ เราเลยกินกันแบบช้าๆ ไม่รีบร้อน
พอกินของคาวเสร็จก็มาต่อของหวาน สะดุดตากับเมนูแรกที่มีชื่อเหมือนร้าน เสิร์ชเจอรูปภาพในเน็ตแล้วเห็นว่าหน้าตาสวยดี เลยจัดมาชุดนึงแล้วแชร์กัน
ของจริงขนาดเล็กกว่าในรูป ด้านนอกเคลือบ glazing รสชาติแบบผลไม้ ข้างในเป็นเลเยอร์ไอศกรีม จับรสชาติได้ว่าเขียวๆ คือพิสตาชิโอละ โดยรวมมันก็คือเค้กไอศกรีมนั่นเอง รสชาติอร่อยดี ยิ่งแย่งกันกินยิ่งอร่อย
เอสเพรสโซ่ของที่นี่เสิร์ฟมาพร้อมช็อกโกแลตเหรียญ รสชาตินมๆ ไม่ขม หวานกำลังดี
ค่าเสียหายทั้งหมด ชวนสะอึกเบาๆ แต่ก็ถือว่าคุ้มเพราะบรรยากาศดีและอาหารอร่อยมากกก
เมื่อกินเสร็จเรียบร้อยก็ไปเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำจะอยู่ชั้นใต้ดิน ลงบันใดตรงทางเข้าร้านเลย ทางเข้าห้องน้ำของที่นี่ดูหรูหราและขลังมาก
แต่พอถ่ายรูปออกมา ดูเหมือนกำลังเข้าถ้ำหินยังไงยังงั้น
14.10: Eliseyev Food Hall
ฝนยังตกอยู่พรำๆ เราเลยออกมาจากร้านแล้วมุ่งไปทางสถานีเมโทร เดินไปยังจุดหมายต่อไปนั่นก็คือ Eliseyev Food Hall ซึ่งอยู่ถัดมานิดนึงจาก H&M
ตอนแรกก็คลำๆ ทางอยู่พักนึง เพราะไม่มีป้ายบอก แต่ก็บังเอิญคลำไปเจอทางเข้าที่อยู่ติดๆ กับร้านอาหารร้านนึงจนได้
จริงๆ ฟู้ดฮอลล์นี้ก็เจ้าเดียวกันกับที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนั่นละ ได้ยินมาว่าเค้าขยายสาขาไปทั่ว เห็นบรรยากาศปุ๊บก็สัมผัสได้เลยว่าเจ้าเดียวกัน
อันที่จริง ก็มีกลิ่นอายคล้ายๆ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ห้าง GUM เหมือนกันนะ กลิ่นอายแบบของแพงๆ เนี่ย
แต่พอเดินสำรวจของดู เอาเข้าจริงก็ไม่แพงนะ ดีไซน์ร้านเค้าแค่แต่งหรูไปอย่างนั้นเอง
ดูตัวอย่าง โยเกิร์ตงี้ ชีสงี้ เบเกอรี่ยิ่งถูกใหญ่เลย เห็นแล้วอิจฉาคนที่อยู่ที่นี่มาก
เดินดูของเสร็จ ฝนยังไม่หยุดตก เลยไปหลบฝนอยู่พักนึงใน H&M
ด้วยความที่เรากับพ่อไม่ใช่สายช้อป ตอนแรกก็เดินไปแบบมึนๆ หลงๆ ไม่มีจุดหมาย แต่สักพักพ่อเราก็ได้สูทกลับบ้านเฉย เป็นสูทที่ราคาย่อมเยามาก แค่ 2,000 รูเบิล หรือ 1,000 บาทเอง
ส่วนเรานั้น ไม่ได้ของยังไงก็อย่างนั้น ฮา เดินเบลอๆ อยู่สักพักก็เลยแยกตัวกลับโรงแรมกับพ่อ เพราะฝนยังตกพรำๆ อยู่ แผนที่คิดจะไปสวนสาธารณะเลยต้องพับเก็บไว้ก่อน กันไว้เผื่อตอนเย็นฝนหยุดตก
เรากลับโรงแรมด้วยเมโทรทางเดิมเป๊ะๆ พอขึ้นมาข้างบน อากาศก็ดีขึ้นเยอะ ฝนตกน้อยลงแต่ก็ยังมีละอองอยู่ อุณหภูมิเย็นลงมาก ไม่มีแดด เรียกได้ว่าถ้าอยากเดินก็เดินได้สบาย
แต่เราขอตัวกลับไปพักในห้องก่อนละกัน แล้วตอนเย็นค่อยออกมาอีกที
เวลาประมาณ 6 โมง อากาศเริ่มดีแล้ว ฝนหยุดตกแล้ว แดดก็หุบไปบ้าง เออ หรือจริงๆ ทริปนี้เราหลบแดดตอนบ่ายแล้วออกมาเที่ยวช่วงเย็นดีนะ รู้สึกคุ้มกว่าเห็นๆ
ดูทรงอากาศแล้ว เราตัดสินใจไป Gorky Park กัน เพราะอากาศดีๆ ย่อมคู่ควรกับสวนสาธารณะ โดยจุดที่อยากไปคือ Flagship Store ของ Nike ที่ซึ่งน้องเราเล่าว่าอาจารย์ชาวรัสเซียเป็นหนึ่งในสถาปนิก แล้วสถาปัตยกรรมก็เท่มากๆ เลยอยากไปเห็นกับตา
เราลงเมโทรที่สถานีเมโทร Smolenskaya ที่เดิม ที่ต่างไปจากเดิมคือมวลมหาชนที่เยอะ-ขึ้น-มาก
เดาว่าน่าจะเป็นเพราะช่วงเวลาเร่งด่วน แบบ เลิกงานพอดี อะไรแบบนี้
รอบนี้เราลองไปซื้อตั๋วกับตู้ดูบ้าง มีความทุลักทุเลนิดหน่อยตรงที่เรากดเท่าไรมันก็ไม่ติด แต่พอแม่เรากดเท่านั้นแหละ ติดเฉย มือเราเป็นอะไรง่ะ
การออกบัตรค่อนข้างกินเวลา เพราะมันกดได้ทีละใบ สี่คนก็สี่ใบ ถ้าไปเคาน์เตอร์ให้เจ้าหน้าที่ออกบัตรให้ก็จะเร็วกว่า
พอได้บัตรเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปในตัวสถานี คนเยอะมากกก
แต่ที่น่าแปลกใจคือแม้ว่าคนจะล้นทะลัก แต่ก็ไม่มีการจับจองพื้นที่ทั้งหมดบนบันไดเลื่อนเลยนะ
ปกติที่ไทยเวลาคนแน่นๆ ทุกคนก็จะยืนออกันบนบันไดเลื่อน แต่ที่นี่คือเค้าแบ่งชัดเจนเลยว่าข้างขวาคนยืน ส่วนข้างซ้ายคนเดิน แม้กระทั่งเวลาคนเยอะๆ แบบนี้ ทุกคนก็ยังรักษากฏระเบียบ เป๊ะจริงๆ ยอมใจ
เนี่ย ด้านซ้ายว่างไว้สำหรับคนเดินโดยเฉพาะเลย
พอลงมาถึงชานชาลา คนก็ไม่เยอะขนาดนั้นแฮะ เหมือนไปออๆ แค่ตรงทางเข้าสถานีมากกว่า
แต่พอรถไฟมาเท่านั้นแหละ ขอถอนคำพูด เห็นมวลมหาชนแวบๆ อยู่ในนั้น
เข้าไปในรถไฟก็เบียดอยู่ แต่ไม่เบียดเท่าบ้านเราตอนเร่งด่วน
เรานั่งสายน้ำเงินมาลงที่ Kievskaya สถานีสานสัมพันธ์กับยูเครน มีภาพวาดแสดงชีวิตของชาวยูเคนประดับอยู่เหนือเสา
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานีที่สวย และเป็นหนึ่งในสถานีของสายน้ำตาล หรือสายวงกลม ที่เค้าว่ากันว่ามีสถานีเมโทรที่สวยๆ เยอะ
เราเปลี่ยนมาขึ้นสายสีน้ำตาล เดินทางแค่ 2 สถานี ก็ถึงสถานีจุดหมายนั่นก็คือ Oktyabrskaya
ออกมาจากสถานีก็จะเจอกับวิวทิวทัศน์อีกฟากฝั่งถนนที่ชวนให้เข้าใจว่านั่นคือ Gorky Park
แต่พอเปิด google maps ดูถึงค่อยรู้ว่า Gorky Park อยู่ข้างหลังสถานีเมโทรต่างหาก ต้องเดินเลียบถนนสวนไปด้านหลังของสถานี
ตรงนี้ถ้าใครอยากเข้าห้องน้ำ สามารถตีเนียนเข้า Burger King ได้ แฮ่
เดินมานิดนึง ผ่านมหาวิทยาลัยเทคนิคไป ก็จะเจอกับรั้วใหญ่ๆ ที่ภายในเต็มไปด้วยแมกไม้ ให้เราเดินต่อไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งเข้าประตูเล็กๆ
ไปเข้าประตูใหญ่เลย อันนั้นแกรนด์มากๆ และเป็นประตูทางเข้าแบบ official ด้วย
19.10 Gorky Park
เดินเข้าไปใน Gorky Park ก็จะเจอกับต้นไม้ ดอกไม้ และน้ำพุสวยๆ
ตอนนี้เป็นเวลาเย็นๆ แล้ว ก็จะเริ่มมีคนมาสัญจรเยอะหน่อย เด็กๆ วัยรุ่นก็เยอะเหมือนกัน คงเพราะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยด้วย
สวนนี้กว้างมากกกก กว้างแบบเดินได้เกือบทั้งวันเลยมั้ง มีมุมสวยๆ น่าถ่ายรูปเต็มไปหมด
มุมที่เป็นสวนสนุกขนาดย่อมก็มีเหมือนกัน แต่มีคนเล่นไม่ค่อยเยอะเท่าไร ดูเหงาๆ
มุมสนามเด็กเล่นก็เยอะ ดูเป็นสถานที่สำหรับครอบครัวมากๆ
สรรพสัตว์ก็อุดมสมบูรณ์ เจอนกตัวหนึ่ง หน้าตาพร้อมบวกมาก
เราเดินเลาะสวนเข้ามาลึกเรื่อยๆ เพราะตั้งใจจะหาร้าน Nike ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน ระหว่างทางก็มีวิวสวยๆ ให้ถ่ายรูปไม่เบื่อเลย
แต่ในที่สุดก็เจอ ตัวสถาปัตยกรรมมีความเตะตามาก เห็นสีแดงๆ มาแต่ไกลก็สันนิษฐานเลยว่ามาถูกทางแล้ว
นอกจากพื้นผิวสีแดงที่ตัดกับความเขียวของใบไม้บนต้นไม้แล้ว ตัวตึกก็มีรูปทรงแปลกตาดี
มีสนามให้คนมาเล่นกีฬากัน และยังมีอัฒจันทร์ให้นั่งดูด้วย
อ้อ พื้นสีแดงๆ นี่นุ่มด้วยนะ เหมือนเป็นพื้นสำหรับวิ่งโดยเฉพาะ
เดินถ่ายรูปตรงนี้อยู่สักพัก ก็แวบไปถ่ายสนามเด็กเล่นสีฟ้า ที่ตกแต่งด้วยธีมท้องทะเล
โซนนี้คึกคักตลอดเวลา มีทั้งเด็ก วัยรุ่น พ่อแม่ เข้ามากันอย่างไม่ขาดสาย
เกือบดีแล้วถ้าไม่ติดว่าบรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นขนมของทอด
พอเยี่ยมชมเสร็จแล้วก็ตั้งใจว่าจะเดินกลับกัน แต่สุดท้ายก็ยังไม่กลับซะทีเดียว ยังแอบแวบไปดูร้านอาหาร เล็งๆ ไว้ก่อน
จากนั้นก็เหลือบไปเห็นว่ามีมุมสวยๆ อีกมุม คือสะพานสีเหลืองเขียวกับโดมโปร่งๆ อะไรสักอย่าง เลยเดินไปดูว่าคืออะไร
ประทับใจสีสะพานมากจริงๆ แค่ทาสี สะพานธรรมดาๆ ก็สวยขึ้นทันทีอะ
เดินขึ้นบันไดไป ก็เจอกับโดมโปร่งๆ นั้นที่คนสัญจรผ่านไปมา บ้างก็ขี่จักรยานทะลุมา คิดว่าน่าจะสร้างไว้สำหรับเดินหลบหนาวนะ
เราเดินมาเก็บวิวแม่น้ำบนสะพาน อากาศเริ่มเย็น ลมเริ่มแรงขึ้นแล้ว สดชื่นดี
ริมสะพานมีคนเต้นรำกันด้วย บรรยากาศโดยรวมดูครื้นเครงมาก ถ้าไม่ได้มาช่วงฤดูร้อน ก็คงไม่ได้เจออะไรแบบนี้
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว เริ่มหิวแล้ว เลยเดินไปยังโซนร้านอาหาร มาลงเอยที่ร้านนี้ซึ่งตอนแรกเรานึกว่ามีแค่บาร์ขายเครื่องดื่ม แต่พอมองลึกเข้าไปก็เห็นว่ามีโต๊ะอาหารด้วย
เห็นว่าบรรยากาศดีเลยเดินเข้าไป จริงๆ อยากได้โต๊ะแยกแต่โต๊ะถูกจองไปแล้ว เราเลยต้องแชร์โต๊ะกับฝรั่งอีกกลุ่มนึง ก็ยังดีที่โต๊ะไม่แออัดเกินไป
ไม่แออัดจริงๆ เพราะสามารถถ่ายรูปแบบไม่ติดฝรั่งได้ ฮา
บรรยากาศร้านมีความครื้นเครง เปิดเพลงได้เย้วๆ ส่วนใหญ่เหมือนจะเป็นคนทำงานที่มาสังสรรค์กัน
สักพักบริกรก็เอาเมนูมาให้ดู สิ่งแรกที่เตะตาคือ มีส่วนที่พลีให้อาหารไทยล้วนๆ ด้วย!
แต่พวกเราก็ไม่ได้สั่งอาหารไทยนะ อยากกินอาหารฝรั่งมากกว่า
เราสั่งผักย่าง ส่วนคนอื่นๆ ก็สั่งพวกจานเนื้อที่เรากินไม่ได้ตามเคย 555
ผักย่างมาอย่างแรกเลย ดูจากชิ้นแล้วจำนวนไม่เยอะ แต่ถ้าดูปริมาณโดยรวมก็โอเคอยู่มั้ง ด้วยราคาเท่านี้
รสชาติอร่อยโอเคเลย ที่ชอบที่สุดคือแครอตซึ่งย่างมาแบบหวานเลยทีเดียว อย่าว่าเรา เราสายผัก
ต่อจากอาหารมื้อนี้ เราก็เริ่มเดินกลับกันละ โดยใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำ
พอมืดแล้ว เปิดไฟสวยมากๆ
บรรยากาศตอนมืดๆ นี่ไปๆ มาๆ ก็ชวนให้กลัวอยู่เหมือนกันว่าจะเจอมิตร (ฉาชีพ) เราก็เลยรีบๆ เดินกัน กลับไปลงที่สถานี Oktyabrskaya
แต่เดี๋ยว ทริปเรายังไม่เจอแค่นี้ เพราะไหนๆ ก็ลงมาสายสีน้ำตาลอันเลื่องชื่อแล้ว ก็ขอนั่งเลยไปแวะสถานีสวยๆ ติดอันดับอย่าง Komsomolskaya, Prospekt Mira และ Novoslobodskaya สักหน่อย
22.10 : Metro Tour
นั่งมา 5 สถานี ก็ถึงสถานีจุดหมายแรกอย่าง Komsomolskaya ที่เราค่อนข้างคาดหวัง เพราะติดอันดับ 1 สถานีเมโทรมอสโควที่สวยที่สุด
พอเห็นกับตาแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสวยจริงๆ นั่นละ ชานชาลากว้างมาก มีแชนเดอเลียร์ห้อยลงมาเช่นเคยเพื่อเพิ่มความหรูหรา
สีที่ใช้เป็นสีเหลืองอ่อนๆ ธีมโดยรวมทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในวังจริงๆ นั่นแหละ
ถามว่า เทียบกับสถานี Avtovo ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแล้ว อันไหนสวยกว่ากัน?
อืม ตอบยากแฮะ เราว่ามันสวยคนละแบบ อย่าง Avtovo จะสวยแบบขลังๆ ขรึมๆ ด้วยบรรยากาศที่มืดกว่า สิ่งที่สวยกว่าของ Avtovo คือเสาที่วิจิตรละเอียดอ่อนกว่า แต่ชานชาลาก็เล็กกว่าที่นี่
ส่วน Komsomolskaya จะค่อนข้างสว่าง มีความอบอุ่นของโทนสีมากกว่า และใหญ่กว่าด้วย พอใหญ่กว่าก็เลยรู้สึกว่ามันแกรนด์กว่า
ตอบยากจริงๆ เอาเป็นว่า สวยทั้งคู่แหละ แนะนำให้มาแวะทั้ง 2 ที่นี้เลย
ต่อมาก็เป็นสถานี Prospekt Mira นั่งต่อมาจาก Komsomolskaya เพียงสถานีเดียวเท่านั้น
ไม่รู้เพราะเพิ่งเจอ Komsomolskaya ไปรึเปล่า มาสถานีนี้เลยไม่ได้รู้สึกว้าวขนาดนั้น แต่จริงๆ มันก็สวยนะ ตรงเสาจะมีแถบรูปสลักต่างๆ
นั่งมาอีกสถานี ก็เป็น Novoslobodskaya สถานีนี้มีความโดดเด่นตรงที่ประดับด้วยกระจกโมเสก ให้ฟีลเหมือนอยู่ในโบสถ์เลย ประตูก็เป็นช่องโค้งๆ พอถ่ายรูปออกมาแล้วก็สวยแปลกตาดีเหมือนกัน เพราะสถานีส่วนใหญ่ตกแต่งเลียนแบบพระราชวังมากกว่า
จบจากสถานีนี้ เราก็นั่งรถไปลง Kievskaya แล้วต่อสายสีน้ำเงินมาลง Smolenskaya เพื่อกลับโรงแรม
ถึงโรงแรมประมาณ 5 ทุ่ม จากตอนแรกคิดว่าวันนี้จะไม่ล้าซะแล้วเพราะช่วงบ่ายไม่ได้ทำอะไร กลับกลายเป็นว่าค่อนข้างง่วงและเพลียเลย แต่โดยปกติเราก็เป็นคนเพลียตอนกลางคืนอยู่แล้วละ
พรุ่งนี้เลยขอออกจากโรงแรมสัก 9 โมงละกันนะ >..< ไปพักผ่อนก่อนละ
Next Entry
Arbat Street
White Rabbit Restaurant
Radisson Cruise
อ่านตอนก่อนหน้านี้ของ “รัสเซียร้อนมาก”
รัสเซียร้อนมาก #1: แดดแรงๆ ใน St.Petersburg เลยต้องหนีเข้าโบสถ์
รัสเซียร้อนมาก #2: เยือนเกาะกระต่าย วังแคเธอรีน และโดนแท็กซี่โกง
รัสเซียร้อนมาก #3: เยือน 2 วังที่คู่ควร เมื่อมา St.Petersburg
รัสเซียร้อนมาก #4: เที่ยวมอสโคววันที่ตลาดนัดปิดและจตุรัสแดงโดนบัง