เราค่อนข้างตั้งหน้าตั้งตารอหนังเรื่องนี้เลยละ เพราะแค่เห็นตัวอย่างก็รู้สึกแล้วว่านี่มันแนวโปรดชัดๆ แล้วพอได้มาดูจริงๆ ก็ไม่ผิดหวัง เพราะขนาดว่าก่อนดูหนังจะแอบมีความง่วงนิดๆ แต่พอหนังเริ่มฉายแล้วก็ไม่สามารถละสายตาไปได้เลย เพราะมันลุ้นทุกช่วงจริงๆ
Escape Room เป็นหนังแนวปริศนาปนเอาตัวรอด แรงบันดาลใจก็มาจากแหล่งท่องเที่ยวอย่างพวกเกมห้องปริศนานั่นแหละ หนังเริ่มต้นด้วยการที่ตัวละครได้รับกล่องประหลาดที่มีคำเชิญให้มาเล่นเกมนี้ในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้า เกมนี้สร้างโดยองค์กรลับชื่อ MINOS โดยมีเงินรางวัลก้อนใหญ่สำหรับผู้ชนะ และแล้วคนแปลกหน้าทั้ง 6 คนก็ได้มาเจอกัน แต่ละคนก็บุคลิกและพื้นเพที่แตกต่างกันไป ทั้ง 6 คนต้องร่วมผจญเวรผจญกรรมไปในห้องปริศนาที่ไม่ได้มีแค่ 1 ห้องเท่านั้น และแต่ละห้องก็มีความโหดระดับคร่าชีวิตได้ เริ่มตั้งแต่ห้องเตาอบ ต่อด้วยห้องน้ำแข็ง ห้องกลับหัว ห้องคัดแยกผู้ป่วย และนี่เป็นแค่ห้องหลักๆ เท่านั้น ยังมีห้องอื่นๆ อีก!
นี่เป็นอีก 100 นาทีที่แทบไม่ได้พักหายใจเลย ตื่นเต้นและลุ้นไปกับทุกฉาก เราชอบตรงที่แต่ละห้องมีความครีเอทีฟ มีวิชวลที่ดูแปลกตาตระการตา และไอเดียอันตรายต่างๆ รวมถึงปริศนาของแต่ละห้อง มันดูราวกับบรรจงสรรค์สร้างมาอย่างตั้งใจ มีรายละเอียดที่น่าสนใจและข้องเกี่ยวกับปมในอดีตของตัวละคร ที่จะค่อยๆ ถูกเฉลยมาทีละนิด พร้อมๆ กับที่ตัวละครเริ่มล้มหายตายจากกันไปทีละคนๆ แล้วพอถึงตอนจบ เราก็จะได้พบกับบทสรุปว่าเกมนี้มันมีเพื่ออะไร พร้อมกับการทิ้งค้างให้ไปคิดต่อเล่นๆ ว่าตัวละครจะเจออะไรต่อจากนี้ ดูทรงแล้วมีลุ้นภาคต่ออยู่เหมือนกันนะถ้าผลตอบรับภาคแรกดี
ว่ากันที่ตัวละคร หนังประเภทนี้มักจับตัวละครบุคลิกนิสัยแตกต่างกันมาปะหน้ากัน อย่างเรื่องนี้ก็มีตั้งแต่เด็กสาวขี้อายแต่ฉลาดเป็นกรด, นักธุรกิจหนุ่มที่ยึดตัวเองเป็นหลัก, สาวสวยสตรองอดีตทหาร, เด็กหนุ่มผู้คลั่งไคล้เกม, หนุ่มวัยรุ่นธรรมดาทำงานร้านขายของชำ และคุณลุงที่หลานส่งให้มาเล่นเกม เห็นแค่นี้ก็เริ่มรู้สึกแล้วว่ามันต้องชุลมุนวุ่นวายแน่ๆ โดยเฉพาะการที่มีคาแรคเตอร์ประเภทเห็นแก่ตัวจัดๆ และกระหายการเอาตัวรอดอย่างนักธุรกิจหนุ่มนี่แหละ ที่มักจะทำให้เรื่องราวความขัดแย้งและการเอาตัวรอดยิ่งเข้มข้นขึ้น
หลายคนอาจจะสงสัยว่าหนังมีฉากรุนแรงรึเปล่า โดยส่วนตัวเราว่าไม่ค่อยนะ พวกฉากเลือดสาดอะไรงี้ไม่มีเลย เป็นฉากการตายที่ไม่เน้นความสยองด้านภาพ แต่ชวนให้หลอนในจิตใจมากกว่า เพราะเล่นกับอารมณ์ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกผิด ความเสียสละ ความเห็นแก่ตัว เลยยิ่งทำให้แต่ละฉากการตายนั้นมีความหน่วงๆ ด้วย เพราะผูกพันกับตัวละครไปแล้ว และสาเหตุการตายบางทีก็เป็นอะไรที่สะเทือนใจปนชวนกุมขมับ เช่น ยอมตายเพื่อให้คนอื่นได้ไปต่อ หรือ ตายเพราะโดนอีกคนกวนตีนโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นต้น
สรุปคือ Escape Room เป็นหนังที่ดูสนุกตั้งแต่ต้นยันจบ เหมาะมากสำหรับใครที่ชอบหนังแนวทริลเลอร์เอาตัวรอด ไขปริศนา เรื่องนี้จะได้โบนัสเป็นภาพสวยๆ แปลกตาด้วย ใครที่จิตอ่อนก็น่าจะยังพอดูได้เพราะไม่ได้มีฉากน่ากลัวติดตาอะไร แค่อาจจะลุ้นหัวใจเต้นตึกตักมากหน่อย ^^
THE ZEPIA WORLD 