รีวิว Insatiable (2018): สวยแล้วอยากได้อะไรก็ต้องได้

เราคิดว่าหลายๆ คนน่าจะเคยมีความรู้สึกที่ว่า อยากจะเป็นคนที่ดูดีกว่านี้ อยากจะผอมกว่านี้ อยากจะสวยหล่อกว่านี้ อยากจะเป็นคนป๊อปปูลาร์ ถ้าเป็นได้ ชีวิตคงจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และคงกล้าที่จะทำในสิ่งที่ตอนนี้ไม่กล้าทำ เพียงเพราะข้อจำกัดด้านรูปลักษณ์ของตัวเอง

แพ็ตตี้จาก Insatiable ก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

แพ็ตตี้คือสาวอ้วนที่มักโดนเพื่อนๆ ในโรงเรียนกลั่นแกล้ง ได้รับฉายาว่า Fatty Patty และมักจะกินอาหารระหว่างดูทีวีอย่างไม่รู้สึกผิด อยู่มาวันหนึ่งเธอได้รับบาดเจ็บจึงต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอไม่สามารถกินอะไรได้เลยนอกจากอาหารเหลว ช่วงเวลา 3 เดือนนั้นแหละคือจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอ เพราะหลังจากนั้นเธอได้กลายเป็นสาวสวยรูปร่างผอมเพรียวราวกับเป็นคนละคน และเมื่อเธอได้กลายเป็นคนสวย เธอก็ถือโอกาสนี้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ รวมถึงแก้เผ็ดใครหลายๆ คนที่เคยทำแสบไว้กับเธอ โดยได้ความช่วยเหลือจากบ๊อบ อาร์มสตรอง ทนายหนุ่มวัยกลางคนที่มีอาชีพเสริมเป็นโค้ชนางงาม

…แค่นี้ก็รู้สึกได้ถึงความสุดโต่งและความขัดแย้งในตัวมันเองแล้ว นี่แค่เบาะๆ เพราะบอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้นอกจากจะสนุกและตลกจนต้องหลุดขำออกมาแล้ว (ปกติเราหลุดขำยากมาก) เรื่องนี้มีความพิเศษคือความล้นของสถานการณ์และตัวละครที่มีความ extra กันสุดๆ ชนิดที่ว่าเราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าเนื้อเรื่องจะเอาประเด็นอะไรมาเล่น คือมันมีหลากหลายมาก และมีจุดหักมุมที่อาจจะต้องร้อง WTF ออกมา

Insatiable = ความต้องการที่ไม่เคยถูกเติมเต็มจนเพียงพอ

ตัวซีรีส์ชูประเด็นนี้มากพอสมควรผ่านตัวละครหลายๆ ตัว จะสังเกตได้ว่าตัวละครแต่ละตัวมีความมุ่งมั่นต้องการในสิ่งที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น

แพ็ตตี้: อยากเป็นสาวสวยที่เพียบพร้อม
บ๊อบ อาร์มสตรอง: อยากพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้โหลยโท่ย
คอราลี: อยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไฮโซ
ครอบครัวบาร์นาร์ด: อยากคีพภาพลักษณ์ให้ดูดีเสมอ

ขอหยิบยกมาเพียงบางเคสละกัน เริ่มจากแพ็ตตี้ก่อนเลย สมัยที่เธอยังอ้วน เธอไม่เคยพอกับการกิน เธอสามารถหยิบยกอาหารปริมาณมหาศาลมานั่งกินกลางดึกได้โดยไม่รู้สึกผิด แน่นอนว่าเธอไม่โอเคกับรูปร่างตัวเองหรอก แต่ทำไงได้ ก็อาหารเป็นเพื่อนแท้ของเธอนี่

แต่เมื่อแพ็ตตี้ผอมลง อาหารไม่ใช่สิ่งที่จะเติมเต็มความต้องการของเธออีกต่อไป ในทางตรงกันข้าม เธอพยายามไม่กลับไปหามันเพราะเธอกลัวว่ามันจะทำให้เธออ้วนอีก ตอนนี้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น มีต้องการที่มากกว่าเดิม เธออยากได้รับการยอมรับ อยากมีแฟนหนุ่มหล่อ อยากแก้เผ็ดคนที่เคยรังแกเธอ อยากเป็นนางงาม อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น ฯลฯ และเธอคิดว่าความสวยที่เธอได้รับมา มันจะสามารถทำให้เธอมีสิ่งเหล่านั้นได้

ซึ่งแน่นอน แพ็ตตี้ได้รับหลายสิ่งที่เธอต้องการ แต่สุดท้ายเธอก็ยังไม่รู้สึกพอ ที่สำคัญเธอดูเหมือนจะทุกข์มากกว่าเดิม ด้วยวิธีการต่างๆ และสถานการณ์ที่เธอเลือกเดินทางไปหา มันทำให้ชีวิตเธอวุ่นวายกว่าเดิมอีก จะเรียกว่าความมั่นใจเกินร้อยของแพ็ตตี้กลายเป็นดาบสองคมก็คงไม่ผิดนักในกรณีนี้ เพราะมันทำให้เธอหลงผิดในบางกรณี จนส่งผลกระทบวงกว้างต่อคนอื่นๆ รวมถึงตัวเธอเอง

คอราลีคืออีกหนึ่งคนที่มีความคล้ายคลึงกับแพ็ตตี้ คืออยากที่จะได้รับการยอมรับเหมือนกัน เธอเป็นภรรยาของบ๊อบ อาร์มสตรอง เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่อยากจะร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกสังคมไฮโซ อยากจะได้รับการยอมรับ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้รับชื่อเสียง และขึ้นชื่อว่าทำเพื่อส่วนรวม นั่นเพราะต้นกำเนิดเธอเป็นเพียงคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในรถเทรลเลอร์ การได้แต่งงานกับบ๊อบ อาร์มสตรอง เปลี่ยนชีวิตเธอให้กลายเป็นคนในสังคมชั้นสูง เธอจึงพยายามไขว่คว้าการยอมรับจากเพื่อนร่วมวงการเพื่อไม่ให้เสียหน้าและรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนละชั้น

คอราลีมักจะอิจฉาครอบครัวบาร์นาร์ด อันประกอบไปด้วยบ๊อบ บาร์นาร์ด (ต้องใส่นามสกุลตามหลังเพราะเหตุนี้แหละ) เอ็ททา เม ผู้เป็นภรรยาของบ๊อบ และแม็กโนเลีย ลูกสาว ครอบครัวนี้ดูภายนอกนั้นแสนจะเพอร์เฟ็กต์ ไม่ว่าจะด้านรูปลักษณ์หน้าตา หน้าที่การงาน ความสามารถ หรือ connection กับผู้คนสำคัญๆ แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังความเป๊ะนี้ ครอบครัวบาร์นาร์ดก็มีดราม่าที่ไม่บอกใครเหมือนกัน แสดงให้เห็นเลยว่าอยากไปตัดสินอะไรจากภายนอก มันไม่มีอะไรเพอร์เฟ็กต์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก สิ่งที่เค้าแสดงให้เราเห็น อาจจะไม่ใช่เรื่องทั้งหมด ก็เหมือนรูปภาพที่โพสในอินสตาแกรมนั่นแหละ

บางทีชีวิตที่เรียบง่ายและพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี คงจะเป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุดแล้ว

ทางด้านบ๊อบ อาร์มสตรอง แม้ภายนอกจะดูเป็นชายหนุ่มสำเริงสำราญ ดูบ้าๆ บอๆ และเป็นต้นเหตุของความล้นในหลายๆ กรณี แต่อันที่จริงแล้วเขาก็มีความกดดันเหมือนกัน เขาสนุกกับการทำงานอดิเรก (โค้ชชิ่งนางงาม) มากกว่างานประจำอย่างการเป็นทนาย และเขาก็ต้องการการยอมรับในจุดนี้ ทว่าภรรยาของเขาอย่างคอราลีก็มักจะมองว่าเขาไม่เอาไหน ไม่ยอมรับอาชีพโค้ชชิ่งนางงามของเขา จุดๆ นี้ทำให้บ๊อบ อาร์มสตรองเผลอตัดสินใจผิดพลาดไปเมื่อเขาพบเจอคนคนหนึ่งที่สามารถเข้าใจเขาได้ดีกว่า

To be Beautiful = To be Someone

นอกจากประเด็นเรื่องความต้องการที่ไม่มีวันถูกเติมเต็ม ความต้องการเรื่องการถูกยอมรับนั้นก็ถูกย้ำค่อนข้างเยอะ เห็นได้ชัดจากตัวละครอย่างแพ็ตตี้ที่เราเกริ่นไว้ข้างต้นว่าเธออยากจะสวยเพราะคิดว่าเมื่อสวยเมื่อไรคงได้เป็นคนสำคัญกับเค้ามั่งสักที

นั่นเป็นเพราะสังคมขีดเส้นมาตรฐานบูชาคนที่ดูดี

มันไม่ผิดที่แพ็ตตี้จะรู้สึกแบบนั้น เพราะสังคมก็ทำอย่างนั้นกับเธอจริงๆ ตอนที่เธออ้วน เธอเป็นเหยื่อของการรังแก เป็นคนนอก เป็นคนนก เป็นคนที่ไม่มีใครสนใจอยากให้ความช่วยเหลือ และเธอก็ได้กัดจิกว่าคนที่ไม่ได้ดูดีโดยรูปลักษณ์นั้นแม้จะโดนรังแกก็มักจะถูกคนมองผ่าน เพราะเห็นว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้น่าสงสารและมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะโดนรังแก แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีลักษณะพิเศษโดดเด่นออกมา หากโดนรังแก แล้วสังคมจะให้ความเห็นใจอย่างมาก เธอบอกว่ามันช่างไม่แฟร์เอาซะเลย

Insatiable เป็นซีรีส์ที่ดูเผินๆ เหมือนจะไร้สาระและล้นไปมาก แต่อันที่จริงแอบแฝงประเด็นเรื่องการรู้จักตัวเองและพฤติกรรมทางสังคมที่เราอาจจะเห็นกันอยู่ทุกวันแต่ไม่ทันได้สังเกต ทางด้านการดำเนินเรื่องนั้นไม่ต้องกังวล เพราะสนุกสนานฉับไว้ไม่น่าเบื่อเลย และแน่นอนว่าปล่อยมุกตลกกันแบบไม่ยั้ง ต้องยกเครดิตให้นักแสดงและตัวละคร ทั้งตัวหลักและตัวรอง ที่แสดงกันได้ exaggerate สุดๆ (นี่ชมนะ) ตัวรองที่โดดเด่นโคตรๆ คือคู่แม่ลูกเก๊อย่างเรจิน่า และลูกสาวเชื้อชาติจีนอย่างดิกซี่ ที่โผล่มาทีไรก็ชวนให้ฮาปนหมั่นไส้ตลอด

จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวที่เราพอจะรู้สึกได้คือตัวซีรีส์ไม่ได้ปูเนื้อความสมัยที่แพ็ตตี้ยังเป็นสาวอ้วนมากนัก มีเกริ่นๆ มานิดหน่อยตอนแรก และสอดแทรกไปเพียงเล็กน้อยระหว่างการดำเนินเรื่อง พอเป็นแบบนี้ เราเลยไม่ได้สัมผัสถึง pain ของแพ็ตตี้มากพอสมควร เธอพัฒนาเร็วมาก แพ็ตตี้นางกลายร่างเป็นสาวผอมเพรียวตั้งแต่ ep แรก ดังนั้น ระหว่างดูซีรีส์เราจะคุ้นชินกับภาพแพ็ตตี้เวอร์ชั่นสาวฮอตมากกว่าแพ็ตตี้เวอร์ชั่นอ้วน มันเลยขาดความรู้สึกอยากเอาใจช่วยอะ มันขาด connection ระหว่างเวอร์ชั่นผอมกับเวอร์ชั่นอ้วนไป บางครั้งเรายังเผลอลืมว่าเธอเคยอ้วน…

แต่ก็นั่นแหละ ดูเรื่องนี้อย่าไปคิดมาก ตั้งเป้าไว้เลยว่าจะดูเอาสนุก เอาฮา เพราะในแง่พล็อตเรื่องนั้น Insatiable เป็นซีรีส์ที่สนุกมาก ไอ้ประเด็นซีเรียสๆ ทั้งหลายที่กล่าวมานั้นถูกสอดแทรกเข้าไปอย่างแนบเนียนทำให้เนื้อเรื่องไม่เครียด ถ้าใครกำลังซีรีส์เบาสมองดูอยู่ละก็แนะนำเรื่องนี้เลย 🙂

One thought on “รีวิว Insatiable (2018): สวยแล้วอยากได้อะไรก็ต้องได้

Add yours

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: