รีวิว ที่จริงแล้ว ฉันเป็นคนเก็บตัวนะ: หนังสือฮีลใจของมนุษย์สาย Introvert

“เป็น Introvert หรือ Extrovert?”

นี่น่าจะเป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนน่าจะเคยพบเจอ (รวมถึงเคยถามคนอื่น) แต่จริง ๆ แล้วเราเข้าใจนิยามของ 2 คำนี้อย่างถ่องแท้รึเปล่า?

“Introvert ก็คนนั้นไงที่เงียบ ๆ อะ ห้าโมงกลับบ้าน”

“Extrovert ก็เนี้ย คนนั้นที่พูดเก่ง ๆ จอยน์ทุกปาร์ตี้”

ถ้าใครเข้าใจว่า Introvert และ Extrovert คือความหมายประมาณนี้ มันก็อาจจะถูกส่วนหนึ่ง… แต่อยากให้ลองมาขุดค้นเพิ่มผ่านหนังสือเล่มนี้กัน

“ที่จริงแล้ว ฉันเป็นคนเก็บตัวนะ” (Actually, I’m an Introvert) เป็นหนังสือจากปลายปากกาของคุณนัมอินซุก นักเขียนระดับ Bestseller ของเกาหลีใต้ โดยหนังสือเล่มนี้ก็ได้ถ่ายทอดมุมมองของเธอซึ่งเป็น Introvert หรือคนชอบเก็บตัว ไม่เพียงแต่จะทำให้เข้าใจความเป็น Introvert มากขึ้นแล้ว ยังได้เห็น Extrovert ในหลาย ๆ รูปแบบด้วย

แต่แน่นอนว่า หนังสือเล่มนี้น่าจะถูกใจคนเก็บตัวมากเป็นพิเศษ เพราะในฐานะที่เราเองก็เป็นคนชอบเก็บตัว หลาย ๆ บททำให้รู้สึกเหมือนผู้เขียนมานั่งอยู่ในใจเราเลย

คนชอบเก็บตัว (Introverts) VS คนชอบเข้าสังคม (Extroverts)

เมื่อได้อ่านหนังสือแล้ว เราก็จะเข้าใจนิยามของคนชอบเก็บตัว/คนชอบเข้าสังคมมากขึ้น ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ อันที่จริงความแตกต่างของ Introvert/Extrovert มีรากฐานมาจาก “ระดับความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้า”

Introvert จะมีความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้ามากกว่า นั่นหมายความว่าหากมีอะไรมาแตะโสตประสาทหรือความรู้สึกแม้เพียงนิดเดียว Introvert ก็จะรู้สึกสั่นคลอนมากเป็นพิเศษ

ส่วน Extrovert ก็ตรงกันข้ามเลย คือมีความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้าน้อยกว่า นั่นทำให้ Extrovert ทนทานต่อการเร้าได้มากกว่า

นั่นจึงเป็นที่มาของการที่ Introvert มักจะชอบอยู่คนเดียว เพราะการอยู่คนเดียวเงียบ ๆ นั้นคือการลดสิ่งเร้าให้เหลือน้อยที่สุด เป็นการฟื้นฟูพลังอย่างดีเยี่ยมสำหรับ Introvert ที่จะเหนื่อยล้าได้ง่ายจากการถูกกระตุ้น โดยเฉพาะจากสิ่งเร้าที่มีอิทธิพลที่สุดอย่าง “มนุษย์คนอื่น ๆ”

ส่วน Extrovert ที่เรามักเห็น ๆ ว่าชอบสังคม ชอบสังสรรค์ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่เหน็ดเหนื่อย พวกเขาแค่มีขีดจำกัดที่สูงกว่า Introvert กล่าวคือสามารถทนทานต่อสิ่งเร้าได้มากกว่า หรืออีกแง่คือต้องเจอสิ่งเร้ามาก ๆ ถึงจะมีความสุข เราจึงอาจเห็น Extrovert เข้าสังคมมากกว่า

ทั้ง Introvert และ Extrovert นั้นไม่ใช่บุคลิกที่มีเส้นแบ่งชัดเจน คนคนหนึ่งอาจจะอยู่ตรงกลาง หรือโน้มเอียงไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่ง โดยที่ยังคงมีลักษณะของอีกฝั่งก็ได้ หนังสือเปรียบสิ่งนี้เหมือน “ตารางไล่โทนสี” ที่แต่ละคนอาจจะมี % ของแต่ละบุคลิกมากน้อยแตกต่างกัน

มองย้อนกลับมาที่ตัวเอง แม้เราจะเข้าใจว่าตัวเองเป็น Introvert เพราะรู้สึกเต็มอิ่มเวลาได้ชาร์จพลังอยู่คนเดียว หรือเวลาอยู่บ้าน แต่อีกมุมหนึ่งเราก็ชอบออกไปข้างนอก ทำอะไรใหม่ ๆ รวมถึงพบปะเพื่อนฝูงที่คุ้นหน้าคุ้นตา ลักษณะแบบเราอาจจะเรียกได้ว่าเป็น Social Introvert หรือก็คือคนชอบเก็บตัวที่ยังชอบเข้าสังคม ตราบใดที่สังคมนั้นทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งมากพอ

ดังนั้น การจะตัดสินใครว่าเป็น Introvert/Extrovert จากบุคลิกเพียงไม่กี่อย่างของเขา อาจจะไม่ใช่วิธีที่เป๊ะนัก เพราะเราอาจจะได้เจอ “คนเข้าสังคมที่บางทีก็อยากอยู่เงียบ ๆ” หรือ “คนเก็บตัวที่ฝึกการเข้าสังคมมาเป็นอย่างดี” ก็เป็นได้

คนชอบเก็บตัว ก็มีข้อดี

ในสังคมที่อวยยศให้คนชอบเข้าสังคมเป็นภาพลักษณ์ของความสำเร็จ คนชอบเก็บตัวอาจจะรู้สึกเหมือนโดนผลักให้ไปอยู่มุมมืด แต่หนังสือเล่มนี้ก็ให้กำลังใจว่า การเป็นคนชอบเก็บตัว ก็มีจุดที่ดีเหมือนกัน

ตัวอย่างเช่น คนชอบเก็บตัวมักมีความสุขได้ง่ายกว่า เหตุผลก็กลับมาที่ระดับความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้านั่นแหละ เพราะแค่กิจวัตรธรรมดาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แสนสงบก็ทำให้คนชอบเก็บตัวมีความสุขได้แล้ว ไม่ต้องเล่นใหญ่ ไม่ต้องไปไหนไกล

ในฝั่งของความรู้สึก คนชอบเก็บตัวมักจะมีอารมณ์อ่อนไหว และค่อนข้างแคร์ความรู้สึกของคนอื่นเพราะไม่อยากทำร้ายคนอื่นเช่นกัน ทุกการกระทำ ทุกคำพูดจึงล้วนถูกไตร่ตรองมาอย่างพิถีพิถัน ยากนักที่คนชอบเก็บตัวจะเผลอหลุดปากโพล่งอะไรโดยไม่คิด (อาจมีบ้างหากอีกฝ่ายเป็นคนสนิท)

แต่ถึงอย่างนั้น คนชอบเก็บตัวก็ต้องออกสู่โลกกว้าง

หนังสือไม่ได้โอ๋คนชอบเก็บตัวว่าเธอดีอยู่แล้ว เธออยู่เงียบ ๆ ในห้องเล็ก ๆ ของเธอต่อไปเถอะ แต่แนะนำว่าบางโอกาสให้ลองท้าทายตัวเองบ้าง

เช่น การคบอยู่แต่กับเพื่อนคนเดิม ๆ สังคมเดิม ๆ อาจจะทำให้คนชอบเก็บตัวรู้สึกอุ่นใจก็จริง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ควรละเลยโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับคนใหม่ ๆ เพราะอย่าลืมว่าคนที่เราสนิทด้วยตอนนี้ ในอดีตก็เป็นคนแปลกหน้าเหมือนกัน ถ้าในอดีตเราไม่กล้าสานสัมพันธ์ ปัจจุบันเราก็คงไม่ได้สนิทกับคนคนนี้

สรุป

“ที่จริงแล้ว ฉันเป็นคนเก็บตัวนะ” เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ มีดีไซน์เป็นกราฟิกตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ทั้งเล่ม ชอบความพิมพ์สีทั้งเล่ม เพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวได้ดี โดยหนังสือจะแบ่งเป็นบทสั้น ๆ อ่านยากบ้างง่ายบ้างแล้วแต่ประเด็น

คิดว่าเป็นหนังสือที่น่าจะถูกใจชาวเก็บตัวอยู่ไม่น้อย ขณะเดียวกันถ้าคนชอบสังคมได้มีโอกาสอ่านก็น่าจะได้เข้าใจมุมมองของคนชอบเก็บตัวมากขึ้นค่ะ