ไอเดีย “มือถือลบคน” เตะใจเราอย่างมาก ในฐานะที่เป็นคนชอบหนังแนวทริลเลอร์ลึกลับ แปะคาดไว้เลยว่าต้องไม่พลาดดู Delete แน่นอน
บวกกับเป็นงานของ GDH ด้วย แถมยังเจอป้ายโฆษณาแสงแฟลชวาบ ๆ ตามหลอกหลอน ณ จุดบีทีเอส ก็กระตุ้นให้เราเปิดซีรีส์เรื่องนี้ของ Netflix ดูจนได้
มีสปอยล์เล็กน้อย
เรื่องย่อและภาพรวมของซีรีส์
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาขอให้ “ลิลลี่” (ฟ้า ษริกา) หญิงสาวตัวเอกของเรื่องช่วยถ่ายรูปหล่อนให้หน่อย เมื่อลิลลี่รับมือถือมาจากเด็กผู้หญิงแล้วถ่ายรูปให้ ก็พบกับแสงสว่างวาบแสบตา ก่อนจะพบว่าเด็กผู้หญิงที่ขอให้เธอถ่ายรูปให้นั้นหายไปแล้วหลังจากกดแชะ
ลิลลี่นำเรื่องนี้ไปบอก “เอม” (ณัฏฐ์ กิจจริต) ชู้รักของเธอซึ่งเป็นหนุ่มนักเขียนเจ้าของสื่อชื่อดัง เมื่อทั้งคู่มั่นใจแล้วว่ามือถือนี้ลบคนได้จริง ๆ จึงนำไปใช้ประโยชน์ต่อ เช่น เอมนำไปลบ “อร” (ออกแบบ ชุติมณฑน์) แฟนสาวของเขาที่ขู่จะแฉเรื่องเขากับลิลลี่ ทางด้านลิลลี่เองก็หมายมั่นปั้นมือจะลบ “ทู” (ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์) สามีที่แสนเย็นชาของเธอเช่นกัน (แต่สุดท้ายก็ทำไม่ลง)
เรื่องเริ่มไปกันใหญ่เมื่อจู่ ๆ ลิลลี่ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ พร้อม ๆ กับการปรากฏตัวของนายตำรวจ “ยุทธชัย” (ปีเตอร์ นพชัย) ซึ่งเข้ามาสืบคดีคนหายนี้ ทางด้านมือถือ ก็ถูกสับเปลี่ยนมือจนไปตกอยู่ในมือของ “จูน” (ชาร์เลท วาศิตา) น้องสาวของทูซึ่งถูกเพื่อนบูลลี่ ก่อนจะถูกสับเปลี่ยนมือไปอีกจนเกิดเรื่องวุ่นวายตามมา
มือถือที่ไม่ใช่พระเอก
Delete มีทั้งหมด 8 ตอน ความยาวประมาณตอนละ 40-45 นาที ซึ่งสำหรับแล้วรู้สึกว่าแต่ละตอนค่อนข้างเร็วเลยนะ แบบแป๊บ ๆ ก็จบแล้ว ต้องขอชมเลยว่าซีรีส์ดำเนินเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ กระชับ สนุกทุกตอน
ในฝั่งของการดำเนินเรื่อง ซีรีส์ค่อย ๆ ผูกเรื่องราวของตัวละครเข้าด้วยกันโดยมีมือถือเป็นตัวซัพพอร์ต เราจะได้เห็นความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงของตัวละคร มีปมปริศนาเข้ามา และมีการเปิดเผยปมแบบไม่ยืดเยื้ออะไรมาก ทั้งหมดทั้งมวลมีมือถือเป็นเหมือนอาวุธพิเศษช่วย enhance กิจกรรมของตัวละครให้ดูมีอะไร ๆ ขึ้น
เขียนแบบนี้อาจจะดูเหมือนดี แต่อันที่จริงเรากลับคิดว่า Delete สามารถเล่นได้ไกลกว่านี้
เราคาดหวังว่ามือถือจะมีบทบาทเยอะกว่านี้ ถึงขั้นเป็นพระเอกหรือปมหลักของเรื่องเลยแหละ แต่สิ่งที่พบเจอคือมือถือเป็นเหมือนพร็อพประกอบฉากเท่านั้น มีแค่เอาไว้ลบคนที่ไม่ชอบหน้า ลบศัตรูที่เกลียด
นอกจากนั้นแล้ว มือถือไม่ได้มีบทบาทอะไรมากกว่านี้เลย เป็นเพียงเครื่องปรุงที่ถูกเติมมาในจานหลัก ซึ่งเน้นไปที่เรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่า
ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าทุกอย่างเซ็นเตอร์ที่มือถือ ตัวละครก็ควรจะสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับมือถือสักหน่อย ว่าเอ๊ะทำไมเครื่องนี้มันลบคนได้นะ จุดกำเนิดมันคืออะไร หรือแม้กระทั่งว่าลบไปแล้วมันควรมี drawback อะไรสักหน่อยมั้ย ไม่ใช่ว่าลบแล้วก็จบ อยากจะลบกี่คนก็ทำไปเลย ทั้งที่จริง ๆ แล้วมือถือนี่อานุภาพพอ ๆ กับปืน
ตรงนี้เป็นจุดนึงที่ขัดใจเรา เพราะแอบคาดหวังไว้เยอะเหมือนกัน
แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าตัดประเด็นนี้ออกไป หนังก็ยังถือว่าสนุกอยู่ดี
ตัวละคร is so มนุษย์
ใน Delete นั้นตัวละครแต่คนไม่ได้มีใครดีหรือชั่ว 100% ทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์เทา ๆ ดีก็ดีไม่สุด ชั่วก็ชั่วไม่สุด
ต่างคนต่างมีปมของตัวเอง มีความต้องการที่ต้องบรรลุ
“ลิลลี่” หญิงสาวที่ต้องการความรัก เธอเหงาจากสามีที่ไม่ค่อยมีเวลา เลยต้องบรรเทาด้วยการไปคบชู้กับ “เอม” ซึ่งก็เผชิญสภาวะรักจืดจางจากแฟนคนปัจจุบัน
“ทู” สามีของลิลลี่ แวบแรกดูเป็นคนเลือดเย็น แต่กลับกลายเป็นคนที่ทุ่มเทสุด ๆ ยามเมื่อลิลลี่หายตัวไป แถมยังใจกว้างยกโทษให้ลิลลี่อีกแม้จะรู้ว่าเมียคบชู้
“นายตำรวจยุทธชัย” ฉากหน้าดูเป็นตำรวจทั่วไปที่มุ่งมั่นทำภารกิจ แต่ปมจริง ๆ ก็คือต้องการนำพาลูกสาวที่หายตัวไปกลับมา เขายอมทำทุกวิถีทางแม้ว่าสิ่งนั้นจะผิดวิถีคนดี
“จูน” น้องสาวของทูที่แอบหลงรักลิลลี่ เป็นพวกรักแรงเกลียดแรง พอไม่สมหวังและรู้ว่าลิลลี่คบชู้จึงทำการแก้แค้น
“อร” แฟนสาวของเอม ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแต่แฟนก็ดันนอกใจ ความแค้นจึงบังเกิด
จะเห็นได้ว่าแต่ละคนล้วนมีเหตุผลในการทำอะไรสักอย่างทั้งนั้น และไม่มีใครที่ขาว-ดำสนิท มือถือจึงเข้ามามีบทบาทช่วยเสริมกำลังให้ตัวละครเหล่านี้บรรลุเป้าหมายจนสำเร็จได้
ตอนจบที่ยังไม่จบ
ตอนจบของ Delete นั้นเอาเข้าจริงก็ขัดใจเราอีกแล้ว 555 จบด้วยการโยนปมใหม่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อเรื่องก่อนหน้า ซึ่งก็เข้าใจแหละว่าคงปูทางไปซีซั่นสอง… แต่นี่มันจะ out of nowhere ไปมั้ยพี่
ส่วนตัวคิดว่า จะหักมุมเล่นปมใหม่ก็ได้นะ แต่ควรมีการบอกใบ้ ทิ้งเศษขนมปังไว้ระหว่างทางให้ชัดกว่านี้สักหน่อย แบบที่ให้เราย้อนกลับไปดูแล้ว อ้อออ เค้าใบ้ตรงนี้เอง ได้น่ะ แต่นี่คือจู่ ๆ ก็มีปมใหม่โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เลยคิดว่าซีรีส์ตัดจบซีซั่นห้วนไปหน่อย เหมือนมุกเก่าจบแล้ว หามุกใหม่มาเล่นกันเถอะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจของซีรีส์รึเปล่านั่นแหละ บางทีอาจจะมีคำอธิบายอะไรเพิ่มเติมในซีซั่น 2 ก็ได้ ติดตามกันต่อไป
สรุป
Delete เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ไทยบน Netflix ที่น่าสนใจ กล้าเล่นพล็อตใหม่ ๆ ถ้าใครเป็นคอทริลเลอร์-ลึกลับ สามารถลองดูกันได้ค่ะ หนังถือว่าสนุกและเพลินใช้ได้เลย แม้ปมมือถือจะบางไปหน่อยก็ตาม
ทางด้านนักแสดง ถ้าใครหวังจะเห็นแอร์ไทม์ของออกแบบ กับ เจ้านาย เยอะ ๆ อาจจะผิดหวังได้ เพราะออกน้อยมากเมื่อเทียบกับคนอื่น (โดยเฉพาะออกแบบ โผล่มาเสี้ยวเดียวของซีรีส์)
ก็ต้องมาลุ้นกันว่าซีรีส์จะมีซีซั่น 2 ต่อมั้ย และเรื่องราวจะเป็นยังไง ภาวนาขอให้ภาคต่อไม่ถูก “ลบ” ไปซะก่อนเหมือนเคว้งนะ :’)
Leave a comment