แวบแรกที่เห็นตัวอย่างซีรีส์เรื่อง Ratched ของ Netflix สิ่งที่สะดุดตาเรามาก ๆ คือโทนสีของหนังที่ช่างจัดจ้านเตะตา ในขณะที่ตัวหนังนั้นนำเสนอตัวเองออกมาในสไตล์ดาร์ก ๆ ระทึกขวัญ และแอบจิต ๆ
คอนเซ็ปต์ของภาพที่ไปคนละทิศละทางกับประเภทซีรีส์นั้นชวนให้หนังดูมีความน่าสนใจมาก ๆ แต่เราก็ดองไว้นานจนล่าสุดเพิ่งได้มีโอกาสมาดู
Ratched จริง ๆ แล้วเป็นตัวละครนางพยาบาลชื่อ Mildred Ratched จากหนังสือและหนังเก่าปี 1975 อย่าง One Flew Over A Cuckoo’s Nest โดยซีรีส์จะเล่าเรื่องราวก่อนที่เธอจะกลายเป็นตัวละครในหนังเรื่องดังกล่าว
ในซีรีส์จะเล่าเรื่องในปี 1947 เริ่มเรื่องด้วย “มิลเดรด แรตเช็ด” (Sarah Paulson) นางพยาบาลลุคไฮโซ ได้เข้ามาทำงานที่สถานบำบัดจิต แหล่งรวมคนป่วยทางจิตทั้งหลาย ซึ่งเธอก็มีจุดมุ่งหมายคือการพาตัว “เอ็ดมันด์” (Finn Wittrock) น้องชายที่พลัดพรากให้รอดพ้นจากการตัดสินถูกประหารชีวิตจากคดีฆ่าคน เธอพยายามหาท่าพิสูจน์ว่าเอ็ดมันด์ป่วยทางจิตจะได้ไม่ต้องรับโทษ ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องรับมือกับ “พยาบาลบักเก็ต” (Judy Davis) หัวหน้าพยาบาลจอมป่วน และต้องคอยประจบประแจง “ดร.ฮาโนเวอร์” (Jon Jon Briones) หมอเจ้าของสถานบำบัดจิต เพื่อให้เธอได้กลายเป็นลูกรักที่จะวางเกมยังไงก็ได้ ซึ่งระหว่างทางก็มีเรื่องวุ่นวายถึงขั้นเลือดสาดมาให้ลุ้นกัน

ซีรีส์มีความยาว 8 ตอน ตอนละประมาณ 50 นาทีกว่า ๆ ซึ่งก็ดูได้เพลิน ๆ แต่ละตอนคงความสนุกไว้ได้อย่างดี ไม่มีน่าเบื่อ เนื้อเรื่องเดินกระชับฉับไว และทิ้งความพีคไว้เรื่อย ๆ แบบคาดไม่ถึง ทำเอาเดาตอนจบไม่ออกเลยทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่ชอบมาก ๆ ของเรื่องนี้คืองานภาพเขาสวยจริง ๆ อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น โทนสีของเรื่องนี้จะออกแนวจัดจ้านสะดุดตา เหมือนอยู่ในดินแดนลูกกวาด คอสตูมและฉากต่าง ๆ ถูกจัดวางมาดูพิถีพิถัน ซึ่งพอเซ็ตติ้งประมาณนี้มาอยู่ในหนังระทึกขวัญ มันก็ได้ฟีลพิศวงแปลก ๆ ดี

หนังวาดภาพมิลเดรดเป็นหญิงที่ดูแกร่ง เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ และเย็นชา บทพูดของเธอมีความเฉียบคม รับรองว่าเถียงไม่แพ้ใครแน่นอนแม้กระทั่งพยาบาลบักเก็ตที่ปากจัดพอกัน ในสถานการณ์วุ่นวายต่าง ๆ มิลเดรดทำให้เราเชื่อว่าเธอรับมือได้แน่ ๆ (และเธอก็ทำให้ตัวละครในเรื่องเชื่อด้วยเช่นกัน) ที่สำคัญคือเธอยังเล่นบทบาทนกหลายหัวที่เดี๋ยวไปเข้าข้างคนนู้นที คนนี้ที เพื่อให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการ ทำเอาเราลุ้นตามว่าเธอจะเผลอทำพลาดมั้ย
คนเดียวที่ทำให้มิลเดรดเผยความอ่อนแอออกมาได้คือ “เกว็นโดลิน” (Cynthia Nixon) เลขาสาวของผู้ว่าฯ ที่มีความสัมพันธ์กับเธอ แรก ๆ มิลเดรดก็พยายามใจแข็ง ไม่อยากเปิดใจ แต่ภายหลังก็ใจอ่อนและยอมเผยด้านอ่อนไหวออกมาเมื่ออยู่กับเกว็นสองต่อสอง ทำให้เราได้เห็นว่าแท้จริงเธอก็ไม่ได้หยาบกระด้าง แต่แอบซ่อนความอ่อนไหวที่มาจากปมในอดีตอยู่

พอพูดถึงสองสาว ก็อดไม่ได้ที่จะโยงไปยังประเด็นนึง นั่นคือการ “รักร่วมเพศ” ที่สมัยนู้นยังถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติทางจิต ถึงขั้นว่ามีการรักษาแปลก ๆ พิสดารที่ชวนให้สยองเลยทีเดียวเพราะมันดูเหมือนการทรมานมากกว่า ซึ่งพอเรามองย้อนกลับไปก็จะคิดว่ามันบ้าบอมาก ๆ เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่แค่การรักร่วมเพศหรอก แต่อาการทางจิตอื่น ๆ ก็เจอวิธีการรักษาประหลาด ๆ เช่นกัน

นอกจากมิลเดรดและเกว็น ตัวละครอื่น ๆ ก็สร้างสีสันให้กับซีรีส์ได้มาก อย่างในฝั่งสถานบำบัดก็จะมีพยาบาลบักเก็ตที่แรก ๆ เราจะหมั่นไส้ แต่พักหลัง ๆ ก็เริ่มจะเอ็นดูนาง, ดร. ฮาโนเวอร์ ผู้มีปมในอดีตซึ่งก็ทำให้เราอดสงสารไม่ได้, ฮัค (Charlie Carver) บุรุษพยาบาลจิตใจดีผู้มีแผลบนใบหน้า, เอ็ดมันด์ ผู้ชายที่ฆ่าคนได้แต่พอเป็นน้อง ๆ สิงสาราสัตว์กลับเอ็นดู, ดอลลี่ (Alice Englert) พยาบาลสาวผู้หลงรักเอ็ดมันด์และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเขา, ชาร์ล็อตต์ (Sophie Okonedo) หญิงสาวผู้เป็นโรคหลายบุคลิก (หรือวิญญาณเข้าสิงไม่รู้)
และที่ขาดไปไม่ได้ในฝั่งตัวประกอบสุดจี๊ด ก็คงหนีไม่พ้นหลุยส์ (Amanda Plummer) เจ้าของโมเต็ลจอมสอดรู้สอดเห็นที่มิลเดรดไปอยู่, ผู้ว่าวิลเบิร์น (Vincent D’Onofrio) ผู้หลงใหลในประชานิยม ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คะแนนโหวต และท้ายที่สุดได้แก่แม่ลูกตระกูลออสกู๊ดอย่างเลนอร์ (Sharon Stone) ผู้มีความแค้นส่วนตัวกับดร.ฮาโนเวอร์ และ เฮนรี่ (Brandon Flynn) ลูกชายที่พิการของเธอ

โดยรวมแล้วเรามองว่า Ratched ตอบโจทย์สำหรับคอหนังสาย Psychological Thriller เลย มีความตลกร้ายเจือปน ซีรีส์มีฉากรุนแรงอยู่ แม้ไม่เยอะแต่มาทีก็เลือดสาดเหมือนกัน ได้ข่าวว่าซีรีส์จะมี 2 ซีซั่น ก็ต้องมาลุ้นกันว่าซีซั่นที่ 2 จะเกิดมั้ย แล้วจะมาเมื่อไร เพราะตอนจบของซีซั่นแรกก็ค้างใช้ได้ทีเดียว
Leave a Reply