รีวิว 4KINGS (2021): เด็กช่างก็มีหัวใจ

แวบแรกที่เห็นหน้าหนังเรื่อง 4KINGS หลายคนก็คงมีเอ๊ะในใจว่า มันจะตีกันทั้งเรื่องรึเปล่า จะหาแก่นสารอะไรได้มั้ย ดูเอามันส์อย่างเดียวรึเปล่า

ซึ่งฉากมันส์ ๆ ก็มีแน่ แต่ที่คาดไม่ถึงคือหนังหยอดปมต่าง ๆ เข้ามาสร้างมิติดราม่ามากขึ้น กลายเป็นอีกหนึ่งหนังที่ทำให้เกิดอารมณ์ร่วมมากกว่าที่คิด

4KINGS เล่าถึงยุค 90 ที่มีโรงเรียนอาชีวะ 4 แห่งซึ่งเป็นคู่อริกัน เรียกได้ว่าแค่สบตากันก็พร้อมสวนหมัดกันแล้ว ตัวเอกของเรื่องได้แก่ 3 หนุ่มแห่งอินทรอาชีวะ ดา (เป้ อารักษ์) บิลลี่ (จ๋าย อิชณน์กร) และรูแปง (ภูมิ รังษีธนานนท์) ซึ่งมีเหตุทะเลาะวิวาทกับสถาบันอื่นเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันก็มีปัญหากับทางบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการถูกไล่ออกจากบ้าน หรือการที่ครอบครัวแฟนไม่ยอมรับ

จริง ๆ พล็อตหลักมันก็แค่นี้แหละ อ่านแล้วอาจจะงงว่าหนังเล่าอะไรยาวตั้ง 2 ชั่วโมงกว่า แต่หนังก็สามารถเติมเต็มระยะเวลานั้นได้จริง ๆ และทำได้ค่อนข้างดี ดูแล้วเพลินไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อ

ช่วงแรก ๆ ด้วยความที่ยังไม่รู้จักปูมหลังตัวละคร ก็อาจจะทำให้หัวเสีย ๆ กันบ้าง ก่นด่าตัวละครว่าพวกเอ็งทำไมต้องตีกัน ตีกันไปเพื่ออะไร (เป็นหนึ่งในคำถามสำคัญที่ตัวละครเจอเหมือนกัน) แต่พอหนังดำเนินไปเรื่อย ๆ เราก็รู้ละว่าหนังไม่ตอบคำถามนั้นแน่ ๆ แต่สิ่งที่หนังพยายามทำ คือพยายามดึงเราให้มาเข้าใจชีวิตของพวกเขา ให้เห็นพวกเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน

…เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ก็มีหัวใจ ความรู้สึก ความรักคนใกล้ชิด ไม่ใช่สัตว์ประหลาดน่ากลัวที่ไหน

พล็อตเรื่องดราม่ามาขยี้หลัก ๆ ที่ 2 ตัวละครอย่าง ดา และ บิลลี่ โดยทั้งคู่เจอปัญหาทางด้านครอบครัว อย่างดาก็เจอว่าครอบครัวของอุ๊ แฟนสาวไม่ชอบขี้หน้า แล้วไป ๆ มา ๆ ดาดันไปทำอุ๊ท้อง ทีนี้ก็เป็นเรื่องเลย ดาจะต้องพิสูจน์ตัวเองว่า สามารถรับผิดชอบอุ๊และลูกได้ แต่ด้วยสภาพตอนนี้ที่ดูเหมือนนักเลงตีกันไม่มีอนาคต ดาจะเอาอะไรไปพิสูจน์? บทนี้พี่เป้ อารักษ์เล่นซีนดราม่าได้เข้าถึงใจดีมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกซีนหนักซีนหนึ่งเลย

หรืออย่างบิลลี่ ก็เจอว่าพ่อเลี้ยงไม่ชอบขี้หน้าเหมือนกัน ถึงขั้นแจ้งความจับเขาขังคุกเลยทีเดียว ซึ่งบิลลี่ก็ต้องทนอยู่กับการไม่เป็นที่ยอมรับแม้กระทั่งในครอบครัวตัวเอง กลับบ้านก็ไม่ได้เพราะไม่ถูกต้อนรับ ต้องไปอาศัยอยู่บ้านดา

ปมเหล่านี้ทำให้ตัวละครดูเป็นคนมากขึ้น ไม่ใช่ just another นักเลงที่ตีกัน ถึงขนาดที่ว่า คู่อริเจอช็อตดาก้มกราบว่าที่พ่อตา ถึงกับยกทัพกลับบ้านกันเลยทีเดียว เพราะรู้ตัวว่าไม่ใช่เวลาจะมาหาเรื่องกัน

อย่างหนึ่งที่ชอบของเรื่องนี้ก็คือ แม้จะเป็นนักเลง แต่ก็เป็นนักเลงที่มีคุณธรรมแอบแฝงอยู่บ้าง เช่น จะไม่ตีอีกฝ่ายหากเดินมากับผู้หญิง ไม่ยิงหากอีกฝ่ายยอมทิ้งอาวุธ ฯลฯ ทำให้เห็นว่าเอออย่างน้อยถึงจะเป็นอันธพาล แต่ก็ไม่ใช่สักแต่ว่าจะเล่นอีกฝ่ายอย่างเดียว ถ้าเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พร้อมสู้ หรือ ยอมให้ ก็จะไม่รังแก

ที่ตลกคือในบางฉากที่ต่างสถาบันต้องเจอปัญหาเดียวกัน เด็กต่างสถาบันเหล่านั้นก็สามารถจับมือร่วมทีมเดียวกันเพื่อแก้ปัญหานั้นได้

หรือเวลาที่ต้องอยู่ในสถานพินิจด้วยกัน แต่ละแก๊งจากที่เคยใส่เครื่องแบบสถาบันตัวเอง ก็ต้องมาสวมชุดเดียวกัน กลายเป็นสนิทกันซะอย่างนั้น

มันทำให้เห็นว่า ไอ้ความบาดหมางที่เกิดขึ้น จริง ๆ บางทีมันก็แก้ได้ง่าย ๆ นะเพียงแค่ทุกคนคิดที่จะปล่อยวาง ไม่ยึดติดถืออัตตาตัวเอง แต่ที่ไม่ทำอาจจะเป็นเพราะว่ากลัวถูกมองเป็นพวกป๊อด อ่อนแอ ไม่สู้คน

ซึ่งสิ่งเหล่านั้นสุดท้ายพอช่วงวัยคึกคะนองผ่านพ้นไป มันก็จะเริ่มปล่อยวาง เหมือนในตอนท้ายที่ 3 หนุ่ม 2 แก๊งนั่งก๊งเหล้ากันราวกับเคยเป็นเพื่อนกันในวันวาน ทั้งที่จริง ๆ เคยตีกันมาก่อน

4KINGS จึงเป็นมากกว่าหนังแอ็กชั่นแก๊งอันธพาลสู้กัน ความจริงมันเหมือนเป็นหนังดราม่าเล่าชีวิตเด็กอาชีวะมากกว่า โดยรวมแล้วถือว่าหนังทำได้สนุก เพลิน แม้จะมีบางฉากหรือบางคำพูดที่เบียว ๆ ไปบ้างแต่ก็พอรับได้ ถือว่าเป็นสีสันให้กับหนัง ที่สำคัญคือนักแสดงทุกคนสวมบทบาทได้ดีมาก ๆ ใส่เต็มสุดจริง ๆ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: