รีวิว Locke & Key (2020): ปริศนากุญแจวิเศษที่นำพามาซึ่งพลังเหนือมนุษย์

ลองนึกภาพ The Chronicles of Narnia + Stranger Things + A Series of Unfortunate Events รวมกัน สำหรับเราแล้วจะได้ภาพของ Locke & Key

เป็นการผสมผสานระหว่างความแฟนตาซี ความเขย่าขวัญ และความไร้เดียงสาของเด็กๆ

Locke & Key เรื่องนี้เคยเป็นกราฟิกโนเวลมาก่อน

และคนเขียนก็คือ Joe Hill ซึ่งเป็นลูกชายของ Stephen King เจ้าพ่อนิยายสยองขวัญ เราจึงพอเชื่อมือได้ว่าอย่างน้อยเรื่องราวจะต้องกรุ่นกลิ่นอายความดาร์กๆ มาบ้างละ แถม Joe Hill ยังมีส่วนร่วมในการเขียนบทตัวซีรีส์ด้วย

จุดเริ่มต้นของ Locke & Key

08.jpg

เริ่มต้นเมื่อเรนเดลล์ ล็อก (Bill Heck) ถูกฆาตกรรมโดยแซม เลสเซอร์ (Thomas Mitchell Barnet) นักเรียนของเขาเอง ภรรยาของเรนเดลล์อย่างนีน่า (Darby Stanchfield) จึงต้องพาลูกๆ ทั้ง 3 คน อันได้แก่ไทเลอร์ (Connor Jessup) คินซีย์ (Emilia Jones) และโบดี้ (Jackson Robert Scott) ย้ายจากซีแอตเทิลบ้านเดิมไปอยู่เมืองแมทธีสัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เพื่อสร้างชีวิตใหม่ โดยไปอาศัยอยู่ในบ้านเก่าแก่ของตระกูลเรนเดลล์อย่าง “คีย์เฮ้าส์”

ต่อมา เด็กๆ ทั้ง 3 ก็ได้ค้นพบกุญแจวิเศษที่กระจัดกระจายภายในบ้านหลังนี้ ซึ่งเจ้ากุญแจเหล่านี้มีพลังเหนือมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการสามารถเข้าไปในหัวของคน, การถอดวิญญาณ, การบังคับให้คนทำตามที่ตัวเองต้องการ การไปไหนก็ได้ ฯลฯ แน่นอนว่ามีของวิเศษแล้วจะขาดตัวร้ายที่อยากได้ของวิเศษเหล่านี้ไม่ได้ ต่อมาสามพี่น้องก็ได้รู้ว่ามีปีศาจร้ายคอยติดตามไล่ล่าพวกเขาอยู่ เพื่อที่จะแย่งกุญแจไปทำสิ่งชั่วร้าย เท่านั้นยังไม่พอ กุญแจเหล่านี้ดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเรนเดลล์อีกด้วย

ตอนที่ดูตัวอย่างครั้งแรก เราคาดหวังว่าหนังน่าจะมาแนวแฟนตาซี-เขย่าขวัญ

ซึ่งพอดูหนังก็ตรงกับความคาดหวังของเราจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ดีกรีของหนังอาจจะไม่ได้น่ากลัวเท่าที่เราคาดไว้ โดยรวมแล้วซีรีส์ยังมีความคล้ายๆ หนังเด็กอยู่ ไม่ได้มีฉากรุนแรงอะไรมากมาย (แต่อาจจะมีพฤติกรรมที่น่ากลัวบ้าง) ปีศาจไม่ได้หน้าตาน่ากลัว ไม่มีฉากติดเรต ถือเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่สามารถดูเป็นครอบครัวได้ ดูได้อย่างสนุกด้วยเพราะพล็อตหนังก็ไม่ได้หน่อมแน้ม มีความน่าลุ้นน่าติดตามปริศนาว่าจะไขอย่างไร

ตัวละครหลักของซีรีส์คือสามพี่น้อง

01.jpg

อย่าง ไทเลอร์ พี่ชายคนโต คินซีย์ พี่สาวคนกลาง และโบดี้ น้องชายคนสุดท้อง ตัวไทเลอร์กับคินซีย์นั้นจะวัยใกล้เคียงกัน คือเป็นวัยรุ่นที่อยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ส่วนโบดี้ยังเป็นเด็กน้อยที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น ด้วยวัยที่ค่อนข้างห่างกัน ช่วงแรกๆ เราจะรู้สึกว่าพี่ๆ คนโตกับน้องเล็กนั้นมีช่องว่างระหว่างกันอยู่ ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่พอซีรีส์ดำเนินเรื่องราวไปเรื่อยๆ เมื่อสามพี่น้องต้องพบเจอปัญหาด้วยกัน พวกเขาก็สามารถร่วมมือเป็นทีมเดียวกันได้อย่างดี โบดี้นั้นแม้ว่าจะเด็กที่สุด แต่ก็ไม่ได้งี่เง่างอแงทำตัวไร้ประโยชน์ กลับกัน โบดี้ถือว่าเป็นเด็กหัวไวและมีไหวพริบมาก ในขณะที่ไทเลอร์กับคินซีย์นั้นบางทีก็ทำตัวไร้เหตุผลซะเอง

ในฝั่งของตัวร้าย

02.jpg

ตัวหลักคือดอดจ์ (Laysla De Oliveira) หญิงสาวปริศนาที่โบดี้พบเจอในบ่อน้ำ ดอดจ์เป็นปีศาจในร่างสาวสวยที่มุ่งหวังจะแย่งชิงกุญแจไปทำการไม่ดี ตัวละครนี้มาเงียบๆ แต่ประมาทไม่ได้ เพราะมีจุดหักมุมให้เหวอกันได้เรื่อยๆ อีกทั้งนางยังเย็นชาและฉลาด ก้าวนำตัวเอกไปหลายขั้น ทำให้ลุ้นเหมือนกันว่าเหล่าเด็กๆ จะสู้เธอได้ไหม

ตัวร้ายอีกคนคือแซม ผู้ที่ฆ่าเรนเดลล์ตอนต้น รายนี้โผล่ไม่มากแต่โผล่มาทีก็เขย่าขวัญเหมือนกัน เพราะดูเป็นคนที่คาดเดาอะไรไม่ได้ ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ในฝั่งของตัวร้ายถือว่าทำได้ดีในสายตาเรา ดีจนเหมือนจะลืมเทความดีงามนี้ให้ตัวเอก ซึ่งบางทีบทของตัวเอกก็เด๋อด๋ามาก พลาดแบบไม่น่าให้อภัย (เช่น ปืนตัวร้ายหล่นอยู่แต่ไม่ชิงแย่งปืนมางี้)

กุญแจวิเศษแต่ละดอกนั้นก็มีพลังที่ทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันแปลกใหม่

10.jpg

บางอันก็น่ากลัว เช่น อันที่ดึงเราเข้าไปในกระจกเขาวงกตและขังเราไว้ บางอันก็น่าตื่นเต้น เช่น อันที่สามารถเข้าไปในหัวของคนได้ หรือ อันที่ไขไปในที่ต่างๆ ได้ตามชอบ พลังของกุญแจถือว่ามีความโดดเด่นและทำให้เราว้าวได้ตลอดทุกครั้งที่มีการแนะนำกุญแจใหม่ๆ เป็นอีกหนึ่งไอเท็มวิเศษที่ประทับใจเรา ฉากซีจีต่างๆ ที่เนรมิตเพื่อถ่ายทอดเวทมนตร์ของกุญแจก็ทำได้สมจริงและสวยงามดี บางฉากก็เซอร์เรียลดีมากๆ เช่นพวกฉากที่อยู่ในหัวของตัวละคร เป็นต้น

นอกเหนือไปจากพล็อตฝั่งแฟนตาซีแล้ว ยังมีพล็อตของชีวิตวัยรุ่นด้วย

ด้วยความที่ตัวละครเป็นวัยรุ่นไปแล้ว 2 คนอะนะ ก็จะต้องมีเรื่องของโรงเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถึงอย่างนั้นปัจจัยตรงนี้ก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก เหมือนเป็นสีสันมาเบรกพล็อตการล่ากุญแจซะมากกว่า

อีกพล็อตหนึ่งที่หนังเล่าได้ดีคือปริศนาอดีตของเรนเดลล์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกุญแจและการตายของเขา รวมถึงเพื่อนๆ ของเขาในอดีต ตรงนี้หนังค่อยๆ หย่อนเบาะแสมาเรื่อยๆ ทำให้ยิ่งดูยิ่งอยากรู้ ยิ่งดูยิ่งปะติดปะต่อตาม ก่อนจะค้นพบว่าเรื่องราวในอดีตนี่มืดหม่นใช่เล่นเลย

ตอนจบชวนเหวอ อาจมีภาค 2 ต่อ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้ซีรีส์โดยรวมจะถือว่าสนุก แต่ตอนท้ายๆ ของซีรีส์นั้นสนุกยิ่งกว่า ในขณะที่ช่วงแรกๆ หนังจะเน้นปูพื้นเรื่องราวของตัวละครและปริศนา ช่วงท้ายๆ จะยิ่งเร่งเครื่องกำจัดตัวร้ายและไขปริศนาเร็วขึ้น ทำให้อีพีท้ายๆ ที่ลุ้นมากพอสมควร โดยอีพีสุดท้ายนี่ทั้งชวนลุ้นและชวนอึ้ง ตอนจบหักมุมได้อย่างเจ็บแสบและถึงกับทำให้ร้อง “ชิบหาย” ในใจ เพราะอะไรที่คิดว่าจะดี สุดท้ายยังไม่ดี และอาจจะยังแย่ต่อไป ปูทางไปหาความเป็นไปได้ในซีซั่นที่ 2 ซึ่งไม่รู้ว่าจะสร้างไหม แต่ได้ข่าวว่าทีมเตรียมเขียนบทรอไว้แล้ว

โดยรวมแล้ว Locke & Key ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ดูสนุกและเพลิน

09.jpg

เหมาะสำหรับคนชอบแนวแฟนตาซี-เขย่าขวัญ ชอบเสน่ห์ความเป็นเด็กๆ ที่ยังไม่รู้ประสีประสามากนัก ลองผิดลองถูกไปเรื่อย แต่ถ้าใครหวังจะเจอความน่ากลัวแบบสุดติ่งก็อาจจะผิดหวัง เพราะเราคิดว่าหนังเน้นไปทางแฟนตาซีมากกว่า ใครสนใจก็ลองดูกันได้ๆ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: