รีวิว Little Women (2019): ความฝันอันยิ่งใหญ่ของผู้หญิง ในยุคที่เสรีภาพยังไม่เอื้ออำนวย

“Women, they have minds, and they have souls, as well as just hearts. And they’ve got ambition, and they’ve got talent, as well as just beauty. I’m so sick of people saying that love is just all a woman is fit for.” – Jo March

การกลับมาอีกครั้งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของ Little Women ทำให้เราสนใจมากๆ เพราะตัวเราเองก่อนหน้านี้ก็แค่รู้จักในฐานะวรรณกรรมคลาสสิกชื่อดัง ยังไม่เคยมีโอกาสได้อ่านหรือดูเวอร์ชั่นก่อนๆ พอเห็นว่ารอบนี้กำกับโดย Greta Gerwig ที่เคยกำกับ Lady Bird หนังอีกเรื่องที่เราชอบ เลยคิดว่าต้องดูแล้วละ

Little Women ภาพยนตร์ดราม่าพีเรียด ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมชื่อเดียวกันในปี 1868 ประพันธ์โดย Louisa May Alcott ภาพยนตร์ปี 2019 นี้ถือได้ว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ 7 แล้ว เล่าเรื่องช่วงปี 1861-1868 ตัวละครหลักคือพี่น้องทั้ง 4 สาว พี่คนโตสุดคือเม็ก (Emma Watson) รองลงมาคือโจ (Saoirse Ronan) คนที่สามคือเอมี่ (Florence Pugh) และคนสุดท้องคือเบธ (Eliza Scanlen) แต่ละคนต่างก็มีความฝันที่อยากจะทำนู่นทำนี่ของตัวเอง ทว่าด้วยสังคมในยุคนั้นยังไม่เปิดกว้างโอกาสให้ผู้หญิงมากเท่าผู้ชาย เป้าหมายของผู้หญิงส่วนใหญ่จึงเป็นการแต่งงานกับคนรวยๆ แทนที่จะได้โชว์ศักยภาพในการหาเงินด้วยตัวเอง

04.jpg

ฟังดูแล้ว พล็อตเรื่องอาจจะดูธรรมดาๆ เรียบง่าย แต่เราว่าความเรียบง่ายนี่ละทำให้หนังดูเพลินมาก อาจจะเพราะองค์ประกอบที่ดีในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง นักแสดง ในภาพรวมแล้วหนังให้อารมณ์ feel good ที่ดูแล้วไม่เครียด มีซึ้งบ้างเล็กน้อย แต่พอดูแล้วจะรู้สึกเอาใจช่วยครอบครัวของสี่พี่น้องราวกับเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้น

ในฝั่งการดำเนินเรื่อง เปิดมาอาจจะงงๆ หน่อย เพราะหนังเล่าเรื่องแบบ 2 ช่วงเวลา สลับกันไปมา แถมยังตัดได้เนียนมากจนบางทีก็งงว่าเรื่องเกิดขึ้นตอนไหน อะไรเกิดก่อนเกิดหลัง ตรงนี้ก็จะทำให้ติดขัดนิดหนึ่ง แต่พอดูไปสักพักก็เริ่มจับทางได้แล้วว่าบรรยากาศแบบนี้ โทนสีแบบนี้ แปลว่านี่คือปัจจุบัน นี่คืออดีตแน่ๆ การเล่าเรื่องแบบนี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าทุกๆ สิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อ 7 ปีที่แล้วเคยเป็นอย่างไร 7 ปีต่อมาอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้

แม้ตัวละครหลักของเรื่องจะมีหลายคน แต่ที่โดดเด่นที่สุดหนีไม่พ้นโจ ลูกสาวคนที่สองของบ้านที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียน โจโดดเด่นตรงที่มีบุคลิกห้าวๆ ไม่อ่อนหวานเหมือนผู้หญิงทั่วไปในสมัยนั้น แถมยังมีมุมมองว่าผู้หญิงควรมีอิสระ ควรได้รับโอกาสทำงานหาเงิน ไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับผู้ชายเสมอไป เรียกได้ว่าเป็นสาวแกร่งที่สุดในบ้านนั่นละ การแสดงของ Saoirse Ronan ในบทนี้ถือว่าเอาอยู่มากๆ เพราะเป็นบทที่ได้แสดงอารมณ์หลากหลาย ดูแล้วหลงเสน่ห์เธอมาก

05.jpg

แต่ถึงอย่างนั้น สาวๆ คนอื่นก็ไม่น้อยหน้า แม้ว่าจะบทน้อยกว่า คนโตสุดอย่างเม็ก Emma Watson ก็สวมบทสาวหวานกุลสตรีได้ดี ดูมีสง่าราศีมาก แม้เม็กจะมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นนักแสดง แต่สุดท้ายเธอก็เลือกจะสร้างครอบครัวกับจอห์น (James Norton) ครูหนุ่มที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร นี่ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอเข้าข่ายจำกัด แต่ด้วยความที่ทั้งคู่เข้าใจกัน ยอมผ่อนปรนซึ่งกันและกัน จึงพอจะประคองชีวิตครอบครัวให้รอดไปได้

เอมี่ สาวคนที่สามของบ้าน รับบทโดย Florence Pugh มีทั้งความแก่นและความน่าเอ็นดูในคนเดียวกัน เธอใฝ่ฝันจะเป็นนักวาดภาพ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร สุดท้ายจึงลงเอยด้วยการแต่งงานเช่นกัน ส่วนน้องคนสุดท้องอย่างเบธ แสดงโดย Eliza Scanlen รายนี้ซีนค่อนข้างน้อย แต่ก็ได้โชว์ศักยภาพในการเล่นเปียโน เสียดายว่าเธอล้มป่วยไป ทำให้ไม่ได้สานฝันหรือมีชีวิตอย่างที่ตั้งใจ

นอกจากสี่สาวแล้ว ยังขาดไม่ได้กับตัวละครเสริมที่ทำให้เรื่องราวมีสีสันมาก เช่น ป้ามาร์ช (Meryl Streep) คุณป้าจอมเฮี้ยบที่แสนร่ำรวย คอนเคี่ยวเข็ญให้หลานๆ เป็นกุลสตรีและแต่งงานกับผู้ชายรวยๆ จะได้สุขสบาย, ลอรี่ ชายหนุ่มฐานะดี เพื่อนบ้านของทั้ง 4 สาว แสดงโดย Timothée Chalamet จาก Call Me by Your Name ที่มีเสน่ห์มากถึงมากที่สุด ไม่แปลกใจที่ทำให้ 2 ใน 4 สาวหลงรักได้

หนังดำเนินเรื่องในยุคที่ผู้หญิงยังไม่ได้รับโอกาสมากเท่าที่ควร การศึกษาก็ยังไม่ค่อยพร้อม การงานก็ไม่มีลู่ทางเท่าไร ต้องสู้สุดๆ อย่างโจถึงจะพอรอดไปได้ สิ่งนี้ยังหล่อหลอมให้โลกวรรณกรรมที่โจไปเกี่ยวข้องนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าตัวละครผู้หญิงตอนจบนั้นต้องแต่งงาน ไม่ก็ตายไปเลย สะท้อนถึงมุมมองต่อผู้หญิงในยุคนั้นได้ชัดเจน

09.jpg

และถึงแม้จะแต่งงานไปแล้ว ผู้หญิงก็ยังถือว่าเป็นรองกว่า อย่างที่เอมี่กล่าวไว้กับลอรี่ ว่าพอแต่งงาน เงินทองทุกอย่างของเธอก็จะกลายเป็นของสามี ลูกก็กลายเป็นของสามี ทุกๆ อย่างจะกลายเป็นของสามีหมด ผู้หญิงดูเหมือนว่าจะเป็นได้เพียงช้างเท้าหลังที่คอยปรนนิบัติรับใช้สามีก็เพียงเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้น การแต่งงานก็ใช่ว่าจะย่ำแย่เสมอไป เพราะหนังแสดงให้เห็นว่าหากได้เจอคนที่ใช่จริงๆ – คนที่พร้อมจะใช้ชีวิตไปด้วยกัน – บางทีการอยู่ด้วยกันก็อาจจะดีกว่าการอยู่เหงาๆ เพียงคนเดียว

ดยรวมแล้ว Little Women เป็นหนังพลังหญิงที่เราคิดว่าเหมาะกับทุกคน ดูได้เพลินๆ ไม่เครียด หนังเล่าเรื่องแบบเรื่อยๆ มีปล่อยของตลอดเวลา จึงไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด แต่อาจจะต้องทำใจกับการตัดสลับไปสลับมาของหนังนิดนึง เพราะอาจจะมีงงได้เช่นกัน

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: