รีวิว Midway (2019): ชัยชนะครั้งสำคัญของอเมริกา

หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อ Battle of Midway เท่าไร แม้ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ห่างจาก Pearl Harbor อันเลื่องชื่อไปแค่ประมาณ 6 เดือน แถมยังเป็นชัยชนะครั้งสำคัญที่อเมริกามีต่อญี่ปุ่น ท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2

สำหรับเรื่องนี้ เราแอบไปทำการบ้านมาก่อน และแนะนำให้คนอื่นๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ไปหามาอ่านก่อนดูหนังเช่นกัน จะช่วยให้ระหว่างดูสามารถตามหนังได้ทัน ถ้าเราไม่ได้อ่านมาก่อนก็ไม่แน่ใจว่าจะตามทันมั้ย เอาเป็นว่า เตรียมไว้ก่อนก็ดี

Midway เล่าย้อนไปถึงสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนแรกอเมริกาก็ยังวางตัวเป็นกลาง ไม่ได้เข้าร่วมสงคราม แต่ด้วยความที่อเมริกามีน้ำมัน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำคัญต่อญี่ปุ่นมาก ญี่ปุ่นก็เลยหวังจะยึดอเมริกา เปิดเกมรุกก่อนด้วยการถล่มเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ซึ่งการกระทำนี้ก็เหมือนไปปลุกยักษ์ที่กำลังหลับใหล (พลาดซะแล้ว…) คราวนี้อเมริกาพร้อมรบแล้ว ในหนังเรื่องนี้จะไปโฟกัสที่ปฏิบัติการมิดเวย์ ซึ่งเป็นการรบครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่น เป็นศึกที่สามารถมอบชัยชนะให้อเมริกาได้ ถามว่าทำไมเกาะมิดเวย์ถึงสำคัญถึงขนาดตกเป็นเป้าของญี่ปุ่น? นั่นเพราะมิดเวย์คือฐานทัพของอเมริกาที่อยู่ตรงกลางระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่น ถ้าญี่ปุ่นสามารถยึดเกาะนี้ได้ ก็จะเป็นแต้มต่อให้ญี่ปุ่นสามารถโจมตีกองทัพอเมริกาต่อได้

ทว่าครั้งนี้อเมริกาเตรียมพร้อม ต้องยกเครดิตให้หน่วยข่าวกรองที่เทพและแม่นมาก สามารถคาดการณ์การโจมตีล่วงหน้าได้ ทำให้ทางอเมริกามีเวลาเตรียมตัวได้ทัน ถือเป็นการแก้แค้นและแก้เกมของอเมริกาอย่างน่าประทับใจ

ตัวหนังมีความยาวประมาณเกือบๆ สองชั่วโมงครึ่ง ดูกันยาวๆ ไปเลย แต่ขอบอกว่าสนุกจริงๆ เพราะเนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างกระชับฉับไว เน้นไปที่การวางกลยุทธ์และการต่อสู้สุดๆ ไม่ได้มีเส้นเรื่องดราม่า โรแมนติก หรืออะไรอื่นใดมาคู่ขนาน คือเจาะไปที่สงครามล้วนๆ ยิงตูมตามกันอย่างเดียว ใครที่ชอบดูแอ็กชั่นสงครามน่าจะถูกใจ หนังไม่ได้โฟกัสรายละเอียดประวัติศาสตร์ขนาดนั้น คือก็มีบ้างแต่ก็ไม่ได้เยอะเท่าฉากบู๊ ทำให้หนังเสพง่ายขึ้น ไม่หนักเกินไป

ใครที่คาดหวังจะรับชมซีจีอลังการๆ ฉากระเบิดยิงกันกระจุยกระจาย เอฟเฟ็กต์เสียงกระหึ่มโรง เราว่าน่าจะไม่ผิดหวังนะ เพราะหนังจัดให้แบบเต็มจริงๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องจนกระทั่งท้ายเรื่อง มุมกล้องหลายๆ ซีนก็ชวนให้ลุ้นหวาดเสียวไปกับตัวละคร (อย่างการขับเครื่องบินดิ่งลงเพื่อหย่อนตอร์ปิโดนี่มาทีไรก็ลุ้นตลอด) โปรดักชั่นดีงามอลังการงานสร้าง สมกับเป็นหนังจาก Roland Emmerich ผู้กำกับสายโลกถล่มทลาย

ทางด้านตัวละครซึ่งอ้างอิงจากบุคคลจริง แม้จะมีกันหลายคนหลายนาย แต่ที่เด่นๆ เราว่ามีไม่กี่คนนะ หนึ่งในนั้นคือ ดิค เบสต์ (Ed Skrein) นักบินสายบู๊แหลกพี่พร้อมปะทะทุกสถานการณ์ นายคนนี้โผล่มาทีไร รู้สึกได้ถึงพลังงานไฟร้อนคุกรุ่นตลอด อีกทั้งพี่แกยังมีความบันเทิงนิดๆ ด้วยการปล่อยมุกตลกบ้างในบางที เลยกลายเป็นว่าตัวละครนี้ไม่ได้อวดเก่งแบบน่าหมั่นไส้ แต่เก่งเพราะเก่งจริง นับถือเลย อีกตัวละครที่ซีนเด่นไม่แพ้กันแม้จะไม่ได้บู๊คือเอ็ดวิน เลย์ตัน (Patrick Wilson) หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง ที่คีพลุคความนิ่งขรึมไว้ได้ดี ที่หล่อคือทีมพี่แกเดาถูกด้วยไงว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ถามว่า นี่เป็นหนังที่เครียดไหม? ความเครียดมันมีแน่นอนอยู่แล้วตามสไตล์หนังบู๊สงคราม แต่เราว่ามันไม่ได้เครียดขนาดนั้น ไม่ได้หดหู่มากเกินไป เน้นไปที่การต่อสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน มากกว่าจะเน้นซีนอารมณ์ เผลอๆ บางซีนยังมีการปล่อยมุกออกมาแบบจังหวะซิตคอม บางทีก็เล่นตลกหน้าตาย คือเค้าคงไม่ได้ตั้งใจให้มันขำ แต่เราขำไปเอง อะไรแบบนี้

โดยรวมแล้ว Midway ถือว่าสนุกเกินคาดนะสำหรับเรา ปกติเราจะไม่ค่อยได้ดูหนังสงครามอิงประวัติศาสตร์เท่าไร เพราะรู้สึกว่าหนักหน่วงซีเรียส แต่เรื่องนี้เปรียบเสมือนอาหารที่ดูเผินๆ เหมือนจะกินยาก แต่เชฟก็ปรับรสชาติให้เข้ากับลิ้นคนทั่วไป ทำให้ดูแล้วสามารถเข้าใจเนื้อเรื่อง ตามลุ้นไปกับหนังได้ อย่างไรก็ดี อาจจะเป็นเพราะเราทำการบ้านมาก่อนด้วย เลยแนะนำว่าถ้าใครสนใจดู แล้วยังไม่มีความรู้พื้นฐาน ไปหาข้อมูลมาเสริมก่อนดูหนังก็จะดีเลย