รีวิว Switched (2018): เมื่อสาวอ้วนกับสาวสวยสลับร่างกัน

ดองมาเป็นปีสำหรับ Switched ซีรีส์ญี่ปุ่นขนาดกะทัดรัดจำนวน 6 ตอนซึ่งสร้างจากมังงะเรื่อง Sora wo Kakeru Yodaka เป็นแนวแฟนตาซีผสมดราม่า ที่มีฉากหน้าเป็นสังคมนักเรียน ม.ปลาย ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นเรื่องราวสดใสสไตล์ไฮสคูล แต่บอกเลยว่างานนี้มีดาร์ก!

Switched เริ่มเรื่องขึ้นเมื่อ อูมิเนะ เซนโกะ (Miu Tomita) เด็กสาวตุ้ยนุ้ยหน้าตาไม่สวย ตัดสินใจโทรเรียกโคฮินาตะ อายูมิ (Kaya Kiyohara) เด็กสาวสุดป๊อปหน้าตาดี ให้มาดูเธอกระโดดตึก! ความมหัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อหลังจากนั้นวิญญาณของทั้งคู่ก็สลับร่างกัน โดยอายูมิต้องไปอยู่ในร่างเซนโกะแบบงงๆ และต้องเผชิญหน้ากับการกลั่นแกล้งสารพัดอย่างแบบที่เธอไม่เคยเจอ ส่วนอูมิเนะก็ได้กลายเป็นสาวสวยมีเพื่อนรายล้อม แถมยังมีแฟนหล่ออย่างมิสึโมโตะ โคชิโร่ (Tomohiro Kamiyama) อีก เรียกได้ว่าชีวิตพลิกผันสำหรับทั้งคู่จริงๆ ทางด้านอายูมินั้นโชคดีที่มีเพื่อนสนิทหนุ่มอย่างคากะ ชูเฮ (Daiki Shigeoka) เด็กหนุ่มสายโลกสวยจิตใจดีที่มองเห็นเธอในแบบที่เธอเป็น และเชื่อว่าเธอถูกสลับร่าง อายูมิและคากะจึงร่วมมือกันหาหนทางที่จะทำให้อายูมิกลับคืนร่างเดิมให้ได้

*มีสปอยล์

เรื่องนี้เตะตาเราตั้งแต่พล็อตเรื่องแล้ว แต่ทำไมดองมาเป็นปีก็มิอาจทราบได้ สงสัยโดนเรื่องอื่นแย่งซีนไป 555 ล่าสุดมีโอกาสรื้อมาดูแล้วรู้สึกว่าโชคดีมาก เพราะแค่ตอนแรกก็สนุกชวนติดตามแล้ว คงด้วยความที่ตอนๆ นึงไม่ยาว แค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ นับว่าสั้นมากเทียบกับซีรีส์ฝรั่งที่ปาไปเป็นชั่วโมง ทุกอย่างในตอนจึงดูกระชับและทิ้งปมตอนท้ายได้อย่างดี ชวนให้อยากกดดูต่อเลย สำหรับใครที่อยากหาซีรีส์สนุกๆ ที่สามารถกดดูได้เรื่อยๆ เรื่องนี้น่าจะทำให้ท่านบรรลุเป้าหมายได้

คนอัปลักษณ์ย่อมต้องโดนแกล้ง

01.jpg

สำหรับเรื่องนี้นั้นมีประเด็นน่าคุยหลายเรื่อง อย่างที่เห็นได้ชัดก็คือประเด็นเรื่องการกลั่นแกล้ง (Bully) ซึ่งดูจะกลายเป็นธีมคลาสสิกสำหรับหนังวัยรุ่นไปแล้ว สำหรับเรื่องนี้ก็มีการกลั่นแกล้งคนที่มีปมด้อยด้านรูปลักษณ์ อย่างอูมิเนะนี่โดนคนล้อว่าอัปลักษณ์บ้าง เป็นตัวประหลาดบ้าง อย่าไปอยู่ใกล้เลย ปล่อยให้อยู่คนเดียวไปเถอะ ลองจินตนาการว่าถ้าตัวเองเจอแบบนี้คงหดหู่น่าดู คงไม่อยากลุกออกจากเตียงไปโรงเรียนแน่ๆ

อูมิเนะนั้นอิจฉาอายูมิ เพราะอายูมิทั้งสวย เก่ง มีเพื่อนรายล้อม ครอบครัวก็อบอุ่น ดูเป็นชีวิตสุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์เหมือนหลุดมาจากมังงะตาหวาน ไม่แปลกที่อูมิเนะอยากจะสลับร่างกับอายูมิ เธอคิดว่าแค่สวยขึ้น ชีวิตก็คงดีขึ้น…

ความสวยอยู่ที่ใจ ใช่ใบหน้า

04.jpg

แต่เรื่องมันพีคตรงนี้ เพราะถึงแม้ทั้งคู่จะสลับตัวกัน และถึงแม้ช่วงแรกๆ อูมิเนะจะได้สัมผัสรสชาติของการเป็นที่รัก ส่วนอายูมิก็ได้รับรู้ความยากลำบากของเพื่อนร่วมชั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป หนังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครอย่างชัดเจน เราจะได้เห็นความสดใสของอายูมิแม้ว่าจะอยู่ในร่างของอูมิเนะ นั่นเพราะเธอได้รับแรงใจจากคากะ อายูมิสามารถเปล่งประกายได้แม้อยู่ในร่างของเด็กสาวที่ไม่เคยมีใครชายตามอง ในขณะที่อูมิเนะนั้นยังคงจมปลักอยู่กับบุคลิกนิสัยเดิมๆ ทั้งขี้อิจฉา ขี้น้อยใจ ไม่เป็นมิตรกับผู้อื่น แม้ว่าจะอยู่ในร่างของสาวสวย แต่นิสัยที่ไม่ได้เปลี่ยนไปของเธอนั้นก็ทำให้เธอกลายเป็นพวกสวยแต่รูป จูบไม่หอม

สุดท้ายแล้ว หนังพยายามจะสื่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเนื้อแท้ของเราภายใน ไม่ว่าเราจะเป็นใคร มีรูปร่างหน้าตายังไง เราสามารถลิขิตชีวิตตัวเองได้ แม้ว่าเราจะได้เป็นเจ้าของรูปลักษณ์เลิศเลอ แต่หากมีนิสัยมองโลกในแง่ร้าย ซึมเศร้าไม่ยอมคุยกับใคร ก็ย่อมไม่มีใครอยากจะสุงสิงด้วย ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าจะเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้สวยไม่ได้หล่อ แต่ถ้ามีอัธยาศัยดี เข้ากับผู้คนได้ง่าย และมองโลกในแง่ดี คนผู้นั้นก็จะมีเสน่ห์ขึ้นมาทันที เผลอๆ จะมากกว่าคนสวยคนหล่อข้างต้นนั่นอีก

ความรักแบบเพื่อนกับแบบแฟน ต้องแยกกัน

06.jpg

เห็นเป็นซีรีส์วัยรุ่นแน่นอนว่าก็ยังต้องมีเรื่องรักๆ แหละ เราเชื่อว่าสาวๆ หลายคนน่าจะเทใจเชียร์คากะเหมือนเราแน่ๆ เพราะตอนคากะอยู่กับอายูมิในร่างอูมิเนะนั้นเป็นเคมีที่เข้ากันมากๆๆๆ ดูเป็นคู่เพื่อนสนิทที่เฮฮาปาจิงโกะกัน และถ้าเป็นคู่รักกันก็คงดีงาม แต่อุปสรรคคืออายูมินั้นเป็นแฟนกับโคชิโร่มาก่อนแล้ว และในตอนสุดท้าย เราก็พอจะเดาได้ว่าอายูมิคงเลือกโคชิโร่มากกว่า และคงให้คากะเป็นได้แค่เพื่อนสนิทผู้แสนดีต่อไป

จุดนี้ตอกย้ำประเด็นว่า การเป็นคนดีอาจไม่ได้หมายถึงการเป็นคนถูกรักเสมอไป เพราะความรักนั้นบังคับกันไม่ได้ ต่อให้คากะอยู่เคียงข้างอายูมิมากแค่ไหน ทำดีแค่ไหน เซอร์วิสแค่ไหน แต่อายูมิก็ให้คำจำกัดความได้แค่เพื่อน มันก็ได้เท่านั้นเอง ตรงนี้สงสารคากะมากๆ เหมือนกันนะ เหมือนเป็นได้แค่พระรองแสนดีที่สุดท้ายก็อกหัก พระเอกตัวจริงที่อยู่ในเงามืดมานานยังไงก็ครองใจสาวเจ้าได้เหมือนเดิม

แฟนตาซี ทริลเลอร์ ดราม่า โรมานซ์ มาครบ

05.jpg

แม้จะมี 6 ตอนสั้นๆ แต่เราว่า Switched นี่มีครบทุกอารมณ์เลย ในส่วนของความเป็นแฟนตาซีนั้น Switched ใช้เหตุการณ์พระจันทร์สีเลือดมาสนับสนุนเรื่องราวเหนือธรรมชาติอย่างการสลับร่าง แถมมีกฏว่าห้ามสลับกับคนเดิม ไม่งั้นคนที่ฆ่าตัวตายจะตายจริงๆ! ความทริลเลอร์ก็มาเพราะนั่นหมายความว่าอายูมิกับอูมิเนะไม่สามารถสลับตัวกันตรงๆ ได้ แถมอูมิเนะยังไม่ยินยอมอยากสลับร่างกลับอีก ความดราม่าก็มาต่อเนื่องเมื่อทั้งคู่ยังต้องเผชิญกับสังคมในโรงเรียนและครอบครัว บ้างโดนแกล้งบ้างโดนเมิน แต่อย่างน้อยเราได้เบรกด้วยการมีฉากกุ๊กกิ๊กที่เน้นความเป็นเพื่อน (แอบรักเพื่อน) มาให้ผ่อนคลายบ้าง

โดยรวมแล้ว แนะนำ Switched มากๆ สำหรับใครที่ชอบซีรีส์ญี่ปุ่นอยู่แล้ว และใครที่ชอบดราม่าแฟนตาซีผสมทริลเลอร์หน่อยๆ น่าจะถูกใจกันนะ

2 thoughts on “รีวิว Switched (2018): เมื่อสาวอ้วนกับสาวสวยสลับร่างกัน

Add yours

  1. น่าสนใจครับ ดูเป็นเรื่องที่น่าจะดูได้ในเวลาไม่นาน อาจจะไม่ได้แปลกใหม่สุดๆ แต่ก็ดีที่มีการสลับ tropes คนไม่สวยนิสัยดีออกไป

    Like

    1. จริงค่ะ เราชอบตรงที่เขาเปลี่ยนจากไม่สวยนิสัยดี เป็นสวยนิสัยดี กับไม่สวยนิสัยไม่ดี ให้มาสลับกัน
      มันยิ่งสะท้อนออกมาให้เห็นความสำคัญของเนื้อแท้ข้างในเลย

      Like

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: