รีวิว ปลายทางแห่งรัก: บางทีความรักก็ทำให้มนุษย์ทำเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล

การแอบรักเพื่อนนั้นเรียกได้ว่าเป็นพล็อตสามัญพล็อตหนึ่งของนิยายรักเลยละมั้ง พล็อตนี้ได้อ่านกันอยู่บ่อยครั้ง จนบางทีก็รู้สึกว่าพล็อตนี้ซ้ำเกินไปแล้ว

แต่สำหรับ “ปลายทางแห่งรัก” จากปลายปากกาคุณ amp นั้นมีปัจจัยอื่นเสริมเข้ามา เพราะนอกจากจะแอบรักเพื่อนสนิทแล้ว ยังมีออปชั่นอื่นอย่างหนุ่มคนใหม่ที่เข้ามาในชีวิต ทำให้จิตใจไขว้เขวไปอีก

ปลายทางแห่งรักนั้นเล่าเรื่องของนางเอกอย่างพันธิสา (แพง) สาวสวยบอบบางที่แอบหลงรักหนุ่มหล่อตี๋อินเตอร์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทวัยมหา’ลัยอย่างธารณ์ ความสัมพันธ์ของสองคนนี้เริ่มผูกพันยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ตลอดช่วงเวลามหา’ลัย แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้สังเกตหรอก จนกระทั่งวันหนึ่งพันธิสาได้ค้นพบความลับข้อหนึ่งของธารณ์ ซึ่งนั่นทำให้เธอถึงกับช็อกและผิดหวังในตัวเขา เป็นเหตุให้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาลึกๆ นั้นพังครืน ในวันที่ธารณ์ต้องไปอยู่เมืองนอกเมืองนาเพื่อเรียนต่อ พันธิสาก็ได้พบกับปรัชญ์ หนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ตามตื๊อเธอจนเธอใจอ่อน ยอมตกลงเป็นแฟนด้วย เพราะนึกว่าตัวเองไม่ได้มีใจให้ธารณ์ แต่เธอไม่รู้เลยว่าต่อให้จะหนียังไง เธอก็ไม่มีทางหนีหัวใจตัวเองพ้น

ฟังๆ ดูไปแล้วก็เหมือนพล็อตรักสามเส้าซึ่งไม่ค่อยแตกต่างเท่าไร ก็ใช่แหละ ทางด้านพล็อตภาพรวมถือว่าธรรมดาๆ ไม่ได้มีจุดที่พิเศษหรือชวนให้ว้าว แต่สิ่งที่เราชอบคือการให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวละครทุกๆ คนรอบด้าน ไม่ใช่แค่นางเอกอย่างเดียว ทำให้เรามองเห็นสถานการณ์ภาพรวม เป็นมุมมองแบบ God’s Eye โดยแท้จริง ยิ่งพอเราเห็นแบบนี้ เราก็ลุ้นไปกับตัวละคร ในแบบที่เอาใจช่วยพวกเขาทุกคนที่สมควรได้รับความสุขน่ะ ไม่ใช่ลุ้นแบบเข้าข้างนางเอกไรงี้ แต่อย่าเพิ่งตกใจไปว่าเฮ้ยแบบนี้เรื่องจะยืดเยื้อรึเปล่า ตัวละครทุกคนเชียวนะ ขอบอกว่าไม่เลย เพราะผู้เขียนเลือกเน้นแค่ความรู้สึกที่สำคัญๆ ของตัวละครเท่านั้น เรียกได้ว่าดึงจุดไฮไลต์มาขยี้ได้สมเวลา การใช้ประโยคสั้นๆ เพื่ออธิบายความรู้สึกของตัวละครนั้นชวนให้รู้สึกบาดลึกและอินไปกับสถานการณ์มากขึ้น

“คำว่า ‘บางที’ แม้ว่ามันจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็สื่อถึงโอกาสความน่าจะเป็น ซึ่งตอนนี้สำหรับเขามันกลายเป็นศูนย์ไปแล้ว”

สามตัวละครหลักในเรื่องก็คือพันธิสา ธารณ์ และปรัชญ์ พออ่านไปสักพักเราก็จะรู้โดยแน่ชัดละว่าพระเอกเป็นใคร จากที่บทแรกๆ เรายังไม่แน่ใจนัก เพราะมีการเทบทบาทให้อีกคนหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด แต่เนื้อเรื่องก็พลิกกลับมาชูให้คนที่เป็นพระเอกได้กลับมาโดดเด่นจนได้

ทางด้านตัวละคร ด้วยความที่ตัวละครเป็นวัยทำงานแล้ว เราเลยรู้สึก relate ได้ง่าย รู้สึกว่าเป็นชีวิตจริงดี นี่ถ้าหยิบเล่มนี้มาอ่านตอนยังเป็นเด็กอยู่อาจจะรู้สึกว่าไม่อิน ไม่ใช่ ซีเรียสไป นางเอกอย่างพันธิสานั้นต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำทุกคืน แต่พอเลิกงานหรือวันหยุดก็นัดเจอเพื่อนที่คบมาตั้งแต่สมัยมัธยมอย่างตุลยา (เตย) และกิ่งฉัตร (ฉัตร) อยู่เรื่อยๆ คงเพราะแบบนี้แหละสายสัมพันธ์ของทั้งสามคนถึงแน่นแฟ้น สามสาวถือได้ว่าเป็น role model ของแก๊งเพื่อนสาวเลยก็ว่าได้ ถ้าใครคนใดคนนึงเศร้าอยู่ อีกสองคนก็จะรีบแห่มาปลอบ มาอยู่ด้วย มาให้กำลังใจ อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาที่ดี คอยอยู่เคียงข้างทุกช่วงเวลาจริงๆ

คาแรคเตอร์ของสองเพื่อนสาวอย่างตุลยาและกิ่งฉัตรนั้นก็เหมือนสร้างมาเพื่อคู่กัน ตอนแรกเราก็ยังไม่รู้สึกว่าสองคนนี้แตกต่างกันเท่าไร แต่สักพักก็เริ่มเห็นอุปนิสัยที่แท้จริงแล้วไม่เหมือนกันเลย ตุลยาจะเป็นคนเรียบร้อยอ่อนโยนในขณะที่กิ่งฉัตรจะห้าวๆ หน่อย ซึ่งลักษณะนิสัยที่ต่างกันออกไปนี้ก็ทำให้เราเห็นการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ต่างกันไป เช่น บทบาทหลักอย่างการ support พันธิสาเรื่องความรัก จะเห็นว่าตุลยาค่อนข้างแบ่งรับแบ่งสู้ ยังไม่ตัดสินใจใครแบบทันท่วงที ส่วนกิ่งฉัตรนั้นจะตัดสินคนคนหนึ่งเร็วกว่า ถ้าเกลียดก็เกลียดไปเลย สองมุมมองนี้ก็มาช่วยกันบาลานซ์มุมมองเรื่องความรักให้พันธิสาได้นำไปครุ่นคิดต่อ เรียกได้ว่าในชีวิตพันธิสาที่ดวงความรักไม่ค่อยจะเอื้อนั้น อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่มีเพื่อนคอยเคียงข้าง

“ชีวิตของใครก็ต้องเป็นของคนนั้น เพื่อนอย่างเราทำได้แค่เตือน คอยให้กำลังใจ ส่วนการตัดสินใจจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับยัยแพงคนเดียวเท่านั้น” – ตุลยา

ทางด้านตัวละครชาย นี่ก็เห็นจุดแตกต่างที่ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่ม ธารณ์เป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าน่าจะ “เพียบพร้อม” ไปทุกด้าน ทั้งหน้าตา ฐานะ อนาคตหน้าที่การงาน และความเป็นสุภาพบุรุษ ตอนที่อ่านก็อดคิดไม่ได้ว่ามันมีคนแบบนี้อยู่จริงด้วยเหรอ คือดีเกินไปมากๆ ราวกับเทพบุตรหล่นมาจากฟ้า คือถ้ามีจริงๆ ก็จะรู้สึกโชคดีแทนผู้หญิงที่เป็นแฟนมากๆ เพราะธารณ์จะดูแลเธอราวกับเป็นเจ้าหญิง และไม่มีทางที่จะทำร้ายเธอแน่นอน คำพูดคำจาของธารณ์ก็โคตรจะสุภาพบุรุษ เพราะทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนกับพันธิสามาตั้งสี่ปี แต่ธารณ์ก็แทนตัวเองว่า “ผม” ตลอด โห จะสุภาพอะไรเบอร์นี้ อ่านแล้วมีแอบขัดๆ บ้าง เพราะรู้สึกว่ามันสุภาพเกินกว่าความเป็นเพื่อนอะ แต่อุปนิสัยนี้ก็ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์หนุ่มเจ้าชายอย่างธารณ์เข้าไปอีก

“ผมไม่อยากเป็นคนที่ทำให้แพงร้องไห้ ถ้าแพงอยากให้เราคบกันต่อไปในฐานะเพื่อน เป็นคนที่แพงไว้ใจ ผมก็ยินดี” – ธารณ์

ส่วนหนุ่มอีกคนอย่างปรัชญ์นั้น แค่เปิดตัวมาเราก็เขม่นหน้าแล้ว เพราะเราไม่ค่อยชอบคาแรคเตอร์ผู้ชายที่เล่นหูเล่นตา ชอบหว่านเสน่ห์ผู้หญิงเท่าไร เพราะรู้สึกว่าไม่น่าไว้วางใจ ดูเป็นตัวอันตราย แต่สำหรับผู้หญิงที่ไม่เชี่ยวชาญโลกอย่างพันธิสา ก็ตกหลุมเสน่ห์ของปรัชญ์ได้ง่ายๆ เพราะเขารุกทำแต้มได้ดีและเร็ว เอาใจใส่ผู้หญิงเก่ง ก็ไม่แปลกถ้าผู้หญิงบางคนจะชอบเขา ข้อเสียของปรัชญ์คือความไม่หนักแน่นและโลเลง่าย รักเผื่อเลือก แถมยังชอบนึกว่าคนอื่นเป็นของตายที่เขาจะกลับไปหาเมื่อไรก็ได้ อ่านแล้วก็เอือมไป

ปลายทางแห่งรักมีการเน้นความสำคัญของการเปิดใจกัน การหันหน้าพูดคุยกัน จะเห็นว่าในหลายๆ ตอน ปัญหามีนิดเดียวแต่ตัวละครมัวแต่เก็บงำไม่กล้าคุยกันตรงๆ ทำให้ปัญหานั้นยืดเยื้อ ส่งผลให้การตัดสินใจหลังจากนั้นมาผิดพลาดรวนเรไปหมด ทั้งที่แค่พูดคุยถามไถ่กันตรงๆ ตั้งแต่แรกก็น่าจะจบแล้ว แต่มนุษย์ก็คือมนุษย์แหละ บางทีความกลัวก็มีมากกว่าความต้องการพิสูจน์ความจริง ไม่ว่าจะเป็นการกลัวเสียเพื่อน เสียคนรัก เสียเซลฟ์ หรือ กลัวผิดหวังในคำตอบ

ประเด็นอีกอย่างที่น่าสนใจคือนิยายเล่นกับเส้นคั่นบางๆ ระหว่าง “คนดี” และ “คนโง่” โดยเฉพาะตัวนางเอกอย่างพันธิสา ที่เกิดมาราวกับแม่พระ แม้ว่าจะพยายามสอดแทรกความเป็นสีเทาเข้าไปเท่าไร แต่เราก็ยังรู้สึกอยู่ดีว่าเธอเป็นคนดีมากๆ ดีจนถึงขั้นถูกหลอกใช้ได้ง่าย และดันยอมที่จะถูกหลอกใช้เพราะโดนความดีครอบงำเสียด้วยสิ ซึ่งหลายๆ ตอนเราก็มองว่าพันธิสาโง่จริงๆ นั่นแหละ ยอมให้คนอื่นหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เรื่องของความรักบางทีมันก็คงบังคับกันไม่ได้น่ะนะ อีกตัวละครที่มีความคล้ายพันธิสาคือธารณ์ แสนดีเหมือนกัน ดีจนบางทีก็ลืมนึกถึงจิตใจตัวเอง มัวแต่ไปห่วงคนที่เขารักว่าจะมีความสุขไหม ซึ่งนั่นก็ทำให้ธารณ์ตัดสินใจทำอะไรโง่ๆ ไปบ้างเหมือนกัน ชนิดที่ว่าเราอุทาน “เฮ้ย จะบ้าเหรอ” คือบางเรื่องมันก็บ้าไปจริงๆ นั่นแหละ อะไรจะรักอีกฝ่ายได้ขนาดนั้นจนไม่สนความรู้สึกตัวเองเลย แต่ก็นะ ขอโบ้ยสาเหตุไปที่ความรักละกัน

“บางทีความรักมันก็ไม่มีเหตุผล ไม่ว่าอะไรก็ให้อภัยได้ทั้งนั้นล่ะ” – ตุลยา

เพราะบางทีความรักก็ทำให้มนุษย์ทำเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล… ปลายทางแห่งรักเป็นนิยายอีกเรื่องที่เน้นย้ำในจุดนี้ชัดเจน บางฉากบางตอนจึงอาจทำให้คนอ่านรู้สึกลำไยตัวละครบ้าง แต่เนื้อหาก็ทำเต็มที่ในการพยายามอธิบายความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร ทำให้เราเชื่อได้อย่างง่ายว่าอิทธิพลของความรักนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ ด้านการดำเนินเรื่องถือว่าโอเค ลื่นไหลและไม่ยืดเยื้อ นิยายไม่ยาวมาก มีแค่ 202 หน้าเท่านั้น เป็นนิยายอีกหนึ่งเรื่องสำหรับใครก็ตามที่กำลังหานิยายรักเนื้อหาดราม่านิดๆ เนื้อหาโตหน่อย (ไม่เรตนะจ๊ะ) แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเกินไปที่จะอ่าน ไม่ได้ดราม่าน้ำตาแตก เน้นความหน่วงๆ มากกว่า

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: