รีวิว Great Men Academy (2019): เมื่อสาวน้อยในร่างเด็กหนุ่มต้องเอาตัวรอดให้ได้ใน รร.ชายล้วน

เราเป็นคนที่ชอบพล็อตเรื่องแนวสลับเพศมาแต่ไหนแต่ไร พอได้ข่าวว่าค่ายนาดาวจะทำซีรีส์ Great Men Academy ซีรีส์แนวผู้หญิงกลายเป็นผู้ชาย แถมยังได้กลุ่มนักแสดงชายที่กำลังฮอตอย่าง 9×9 มาร่วมด้วยแล้ว เราก็ยิ่งอยากเห็นว่าซีรีส์จะออกมาในรูปแบบไหน

เบื้องต้น เราคิดว่านี่ก็คงเป็นซีรีส์รักวัยรุ่นใสๆ ทั่วไปนั่นละ ยิ่งพอเป็นซีรีส์ที่ออกต่อจาก “เลือดข้นคนจาง” ซึ่งนำแสดงโดย 9×9 เหมือนกัน เราก็ยิ่งเปรียบเทียบว่า Great Men Academy คงไม่ได้เข้มข้นหรือสนุกเท่าเลือดข้นฯ แต่ปรากฏว่าเรื่องนี้ทำไว้สนุกกว่าที่คิดมาก และได้แง่คิดที่ดีๆ หลายอย่าง

Great Men Academy เล่าเรื่องของ “เลิฟ” (นิว BNK48) เด็กสาวที่ปลาบปลื้ม “พี่เวียร์” (ไอซ์ พาริส) หนุ่มรุ่นพี่แห่งโรงเรียน Great Men Academy โรงเรียนมัธยมปลายที่มุ่งสอนให้เด็กหนุ่มกลายเป็นสุภาพบุรุษที่ครบเครื่องทั้งร่างกายและจิตใจ เธอคลั่งไคล้เขาราวกับเป็นไอดอลในดวงใจ มีรูปเขาติดเต็มห้อง เอารูปมาคั่นหนังสือ เลิฟหวังจะได้ใกล้ชิดเวียร์สักครั้ง วันหนึ่งเธอไปเจอม้ายูนิคอร์นได้รับบาดเจ็บในป่า (โผล่มาได้ไงฟะ แต่เอาเถอะ ดูไปเรื่อยๆ จะเริ่มชินกับความแฟนตาซีของหนัง) เธอได้เข้าไปช่วยเหลือ ม้ายูนิคอร์นจึงให้พรเธอหนึ่งข้อ เธอจึงขอว่า “ให้สมหวังในความรัก”

ความเซอร์ไพรส์คือพรนั้นทำให้เลิฟกลายเป็นผู้ชาย! (เจมส์ ธีรดนย์) ซึ่งเลิฟก็ใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้ชายนี้เข้าไปเรียนที่ Great Men Academy ซะเลย มีโอกาสต้องเอาให้คุ้ม ทีนี้แหละเธอจะได้ใกล้ชิดพี่เวียร์ดังใจหวังแล้ว แต่เรื่องราวของเธอก็ไม่ได้ดำเนินไปอย่างสวยหรู เพราะเธอต้องเก็บความลับให้มิด ต้องคอยออกไปชุบตัวในทะเลสาบทุกๆ คืนโดยไม่ให้ใครรู้ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้กลับร่างผู้หญิงอีก นอกจากนี้ ยิ่งอยู่ไปเรื่อยๆ เธอก็ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเวียร์ ด้านที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน ในขณะเดียวกัน หนุ่มๆ ในโรงเรียนแต่ละคนก็ทำให้ชีวิตในโรงเรียนชายล้วนของเธอต้องมีเรื่องวุ่นวายอยู่ร่ำไป

นี่เป็นซีรีส์ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีความเป็นนิยายแจ่มใสมาก มีความเป็นเกาหลีมาก ภาพบรรยากาศและสถานที่ในหนังนั้นเหมือนหลุดมาจากนิทาน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเล็กในป่าใหญ่ ทะเลสาบมหัศจรรย์ โรงเรียนใหญ่โตท่ามกลางภูเขาเขียวขจี ตรงนี้ขอชมว่าหาโลเคชั่นได้งามมาก ทำให้ภาพรวมของบรรยากาศดู “เย็น” ขึ้นยิ่งตัวละครใส่เสื้อผ้าแขนยาวด้วยแล้ว รู้สึกราวกับไม่ได้อยู่ในประเทศไทย 555 ได้ฟีลเกาหลีไปอีก

ส่วนพล็อตเรื่องก็มีความแจ่มใสตรงที่เป็นเรื่องรักวุ่นๆ ของเด็กสาววัยแรกรุ่นที่เผลอไปชอบชายหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียน ฝ่ายนางเอกก็เปิ่นๆ โก๊ะๆ แต่จริงใจ ส่วนพระเอกก็ขี้เก๊ก นิ่งขรึม ไม่ค่อยพูด ไหนจะกลุ่มแก๊งเพื่อนผู้ชายหน้าตาดีหลายๆ คน และปมเรื่องราวต่างๆ ที่มาทำให้ชีวิตนางเอกไม่เรียบง่าย ถ้าบอกว่าต้นตอของซีรีส์มาจากนิยายตาหวานเราก็จะไม่แปลกใจ

จริงๆ เราชอบนะ ซีรีส์ที่มีโทนกึ่งๆ เกาหลีและมีความฟรุ้งฟริ้งแบบนี้ สมัยเด็กๆ ที่เราอ่านนิยายแจ่มใส ดูซีรีส์เกาหลี เราก็ฝันอยากเห็นประเทศไทยมีซีรีส์โทนนี้บ้าง แนวรักกุ๊กกิ๊กวัยรุ่นที่พล็อตมีความ surreal หน่อยๆ แบบนี้ พอได้มาดูจริงๆ ก็รู้สึกเหมือนความต้องการวัยเด็กมันถูก fulfill ไประดับหนึ่ง

มาต่อกันที่ตัวซีรีส์ เรื่องนี้มีทั้งหมด 8 ตอน สั้นกว่าที่เราคิดไว้เยอะ พอรู้ว่าตอนที่ 8 เป็นตอนจบก็แอบใจหายเหมือนกัน แต่ข้อดีของมันคือทำให้เนื้อเรื่องไม่ยืดเยื้อ ในแต่ละตอนเราจะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องดำเนินได้กระชับฉับไวไม่มีน่าเบื่อ ตัดจบทีไรก็อยากดูต่อทุกที และแม้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปอย่างคล่องตัว แต่ซีรีส์ก็ไม่ลืมให้ความใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงพัฒนาการด้านความรู้สึกของตัวละครด้วย เราจะเห็นว่าในหลายฉากหลายตอนนั้นซีรีส์ก็ลดระดับความไวลงมานิดหนึ่ง เพื่อให้ตัวละครนั่งพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจกัน ทำความรู้จักกัน ก่อให้เกิดความก้าวหน้าของความสัมพันธ์และความรู้สึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จนเราเองก็รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแก๊งนี้ไปด้วย

ทางด้านตัวละคร ตัวหลักคงหนีไม่พ้นนางเอกอย่างเลิฟ ซึ่งรับบทโดยเจมส์ ธีรดนย์ ตรงนี้ชื่นชมเจมส์มากๆ เพราะสามารถแสดงบทบาทผู้หญิงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก นั่นคือไม่ได้ใส่ความตุ้งติ้งหรือสาวแตกจนเว่อร์ ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะรู้สึกเหมือนเลิฟเป็นตุ๊ดซะมากกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าเวลาเลิฟอยู่ในร่างผู้ชาย เราก็รู้สึกว่านี่คือผู้หญิงจริงๆ ที่อยู่ในร่างผู้ชาย ท่าทางลักษณะที่เหนียมอายบ้าง ขัดเขินบ้าง เรียบร้อยบ้าง การใช้น้ำเสียงกระเง้ากระงอดบ้าง มันทำให้เราเชื่อจริงๆ ว่านี่คือผู้หญิงจริงๆ

เรารู้สึกว่าเลิฟนั้นโตขึ้นมาก ตั้งแต่อีพีแรกจนถึงอีพีสุดท้าย ตอนแรกๆ เราก็จะรู้สึกว่าเธอเป็นเด็กน้อยไม่ประสีประสาโลก ดูเป็นผู้หญิงใสๆ แต่เมื่อเธอได้เข้ามาอยู่ใน Great Men Academy เรื่องราวความขัดแย้งและผู้คนที่เธอได้พบเจอก็ช่วยหล่อหลอมให้เธอเข้มแข็งมากขึ้น มีความกล้ามากขึ้น แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือพื้นฐานความใจกว้างและความโอบอ้อมอารี ความดีงามในจุดนี้ของเธอทำให้เธอสร้างปรากฏการณ์หลายๆ อย่างในรั้วโรงเรียนชาย รวมถึงทำให้หนุ่มๆ หลายคนประทับใจด้วย

ทางด้านผู้ชายที่เป็นตัวยืนหลักของเรื่องนี้ ได้แก่ เวียร์ และ แตงโม (เจเจ กฤษณภูมิ) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเวียร์ สองคนนี้ทำให้คนดูครุ่นคิดว่าสุดท้ายแล้วใครจะเป็นพระเอกกันแน่ จากตอนแรกที่คิดว่าคงต้องเป็นเวียร์แหละ เพราะเลิฟชอบเวียร์นี่นะ แต่พอซีรีส์พาเรามาทำความรู้จักกับแตงโม หนุ่มขี้เล่นกวนตีนที่ให้ความสนิทสนมกับเลิฟเป็นพิเศษ มันก็ทำให้คนดูอย่างเราเริ่มไขว้เขว และคิดล่วงหน้าไปว่า หรือแท้จริงพระเอกคือแตงโมต่างหาก? ตรงนี้ขอไม่สปอยล์ละกัน แต่ปมความรักสามเส้าของสามคนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักของเรื่อง ที่จะนำพาตัวละครให้เข้าใจความรู้สึกและปลดล็อกกำแพงบางอย่างในตัวเอง

ตัวละครอื่นๆ นั้นก็มีความน่าสนใจและเป็นสีสันไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นนิวเคลียร์ (เติร์ด ลภัส) และเม่น (แจ๊คกี้ จักริน) เพื่อนสนิทของเลิฟที่เข้ามาเรียนพร้อมกัน เป็นความสนุกสนานที่ทำให้เลิฟไม่โดดเดี่ยว แต่ก็แอบนำปมปัญหามาให้เลิฟหัวหมุนเช่นกัน, พี่กู๊ด (ปอร์เช่ ศิวกร) พี่ชายของเลิฟ ผู้ชายที่เคร่งครัดแต่ภายในก็อ่อนไหวง่าย, ฌอน (กัปตัน ชลธร) หนุ่มหน้าสวยที่ดูจะเขม่นเลิฟและสนิทกับเวียร์เป็นพิเศษ, โรส (ฟรัง นรีกุล) แฟนเก่าของเวียร์ที่เคยทิ้งเวียร์ไป และอาจจะกลับมาอีกครั้ง, พ่อของเวียร์ (หมอโอ๊ค สมิทธิ์) ที่รักลูกมากแต่เพราะเหตุบางอย่างทำให้เวียร์รู้สึกไม่สนิทสนมด้วย

แม้ฉากหน้าซีรีส์เรื่องนี้จะมีความรักกุ๊กกิ๊กมาเกริ่นนำ แต่ฉากหลังนั้นซีรีส์เล่นกับการ “ปลดล็อก” ความรู้สึกในใจของหลายๆ ตัวละคร

เราได้กลิ่นอาย coming of age นิดๆ เป็นเหมือนสภาวะที่ตัวละครจะต้องเผชิญอะไรบางอย่างเพื่อเติบโต แม้กระทั่วตัวละครสุดจะเพอร์เฟ็กต์อย่างเวียร์หรือแตงโม ก็ยังต้องเผชิญจุดเล็กๆ บางอย่างในจิตใจที่พวกเขาต้องก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ เมื่อเราได้รู้จักพวกเขามากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เราเห็นว่าแท้จริงแล้วคนที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์นั้น ก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น และสิ่งที่เราเห็นในฉากหน้า ก็อาจจะไม่ใช่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา

แน่นอนว่าพอตัวละครมีความเป็น “ชายล้วน” แบบนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประเด็น “ชายรักชาย”

แค่จับเอาเลิฟ เวียร์ แตงโม และฌอน มาอยู่ในฉากเดียวกัน ออร่าความวายก็แผ่กระจายแล้ว ซึ่งถ้ามองแบบผิวเผิน ก็รู้สึกอย่างนั้นได้จริงๆ นั่นแหละ แต่สิ่งที่ต่างจากซีรีส์วายเรื่องอื่นๆ ของ Great Men Academy คือการที่พื้นฐานตัวละครเป็นผู้หญิง พอเป็นแบบนี้ มันเลยวายไม่สุด สิ่งที่วายเป็นเพียงฉากหน้าเท่านั้น แต่ลึกๆ ข้างในใจเราก็รู้ว่าผู้ชายที่เราเห็นอยู่นี้คือผู้หญิง ซีรีส์เลยไม่ได้วายจ๋า เรียกได้ว่าใครที่ไม่ถนัดแนววายก็ยังพอดูได้ ส่วนใครที่เป็นคอวาย ก็ดูได้เช่นกันแหละ เพราะการที่เป็นผู้ชายกันทั้งหมดนั้นก็เพียงพอให้สาววายจิ้นได้แล้ว

เมื่อเล่นกับประเด็นเรื่องเพศสภาพแบบนี้ ซีรีส์ก็ไม่พลาดที่จะเล่นกับประเด็น “ตัวตน” ของคนคนหนึ่ง และความรักที่อีกคนมีให้อีกคน โดยซีรีส์ตั้งคำถามท้าทายคนดูว่าแท้จริงแล้ว ความรักที่เกิดขึ้นนั้น เป็นความรักที่เพศสภาพ หรือเป็นความรักที่ตัวตนของอีกฝ่ายจริงๆ รักเพราะเขาเป็นผู้หญิง ผู้ชาย? หรือว่ารักที่เขาเป็นเขา? ถ้าตอนแรกเขาเป็นผู้หญิง พอมาเป็นผู้ชายจะยังรักเขาเหมือนเดิมไหม? ซีรีส์ได้ท้าทายกรอบที่ว่านี่ ด้วยการให้คนดูลุ้นว่าตัวละครจะรักจะชอบกันในแบบไหน และไม่ใช่แค่ความรักในแง่ชู้สาวเท่านั้น แต่ยังมีความรักแบบครอบครัว ความรักแบบเพื่อน ที่หนังชูให้เห็นถึงความสำคัญอีกด้วย ว่าไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพไหน เราจะเป็นใคร ความรักของครอบครัวและเพื่อนนี่แหละที่จะไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากประเด็นเพศสภาพที่เกี่ยวกับความรักแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่เราชอบคือการที่ซีรีส์พยายามบ่งบอกกลายๆ ว่า คุณสมบัติของความเป็น Great Men หรือ สุภาพบุรุษที่ดีนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่แค่คุณสมบัติสำหรับผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็มีได้เช่นกัน

โดยรวมแล้ว คุณสมบัติ Great Men ที่สอนมาทั้งหมด จริงๆ ก็คือพื้นฐานของความเป็นคนดีนั่นเอง ไม่ต้องมีการแบ่งเพศใดๆ

เราชอบการสอดแทรกแง่คิดเหล่านี้เข้าไปในฉากการสอนเด็กนักเรียน ซึ่งอาจารย์แต่ละคนก็มีวิธีสอนที่ครีเอทีฟแตกต่างกันไป ไล่ตั้งแต่การสอนให้รักความสะอาด ให้ช่วยเหลือกัน ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้เข้มแข็งแม้กายจะอ่อนล้า ฯลฯ ซึ่งเมื่อตัวละครได้เผชิญกับแบบทดสอบต่างๆ ที่เหล่าอาจารย์มอบให้ พวกเขาต่างก็ได้โตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว

โดยรวม Great Men Academy เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่เราประทับใจ จากตอนแรกคาดหวังแค่ว่าคงเป็นเพียงซีรีส์กุ๊กกิ๊กใสๆ แต่กลับกลายเป็นว่าซีรีส์ให้แง่มุมความคิดหลายด้านที่น่าสนใจ สะท้อนความสับสนว้าวุ่นใจของช่วงชีวิตวัยรุ่นได้อย่างดี ใครที่ชอบความกุ๊กกิ๊กก็มีหลายฉากให้ดูกัน แนะนำมากๆ สำหรับใครที่หาซีรีส์สนุกๆ คลายเครียดดู ดูแล้วจะอยากเข้าไปอยู่ในโลกนั้น และไปเข้าเรียนโรงเรียนเจ๋งๆ แบบ Great Men Academy บ้าง