เหตุที่เลือกหา Heathers หนังเก่ายุค 80 มาดูก็เพราะตอนล่าสุดของ Riverdale ที่เราดูนั้นมีการอ้างอิงถึง พอไปสืบพล็อตเรื่องมาแล้วเห็นว่าดูเป็นหนังดาร์กวัยรุ่นที่น่าสนใจดี เลยไปเสาะหามาดูจนได้
Heathers เป็นหนังวัยรุ่นที่เล่าเรื่องราวชีวิตไฮสคูลเหมือนหนังวัยรุ่นทั่วไป แต่มีความโดดเด่นตรงความตลกร้ายและความรุนแรง เนื้อเรื่องเล่าถึง เวโรนิก้า ซอว์เยอร์ (แสดงโดย Winona Ryder สมัยสาวๆ ตอนนี้กลายเป็นคุณแม่ของน้องวิลล์ใน Stranger Things ไปแล้ว) หญิงสาวที่จับพลัดจับผลูเข้าไปอยู่ในแก๊งสามสาวดาวเด่นคนรวยของโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐโอไฮโออย่างแก๊ง “เฮเธอรส์” ที่เป็นชื่อนี้เพราะสามสาวที่ว่ามีชื่อ “เฮเธอร์” เหมือนกันทั้งหมด (เป็นชื่อโหลว่างั้น) เวโรนิก้านั้นมักจะถูกใช้เป็นเครื่องมือของสามสาวในการไปแกล้งคนอื่น หนึ่งในนั้นคือมาร์ธาร์ อดีตเพื่อนของเธอเอง
บางทีเวโรนิก้าก็โดนเฮเธอรส์แกล้งซะเอง ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อแลกกับการที่เวโรนิก้าจะได้อยู่ในแก๊งของพวกเธอ ซึ่งถือว่าอยู่ท็อปๆ ของบ่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศไฮสคูลแห่งนี้ นั่นทำให้เวโรนิก้าเริ่มจะตั้งคำถามว่าที่ทำไปนี่มันคุ้มจริงๆ หรือ?
“Dear Diary: Heather told me she teaches people “real life.” She said, real life sucks losers dry. You want to fuck with the eagles, you have to learn to fly. I said, so, you teach people how to spread their wings and fly? She said, yes. I said, you’re beautiful.” – Veronica Sawyer

อยู่มาวันหนึ่ง เวโรนิก้าก็ได้รู้จักกับ เจสัน ดีนส์ หรือเรียกสั้นๆ ว่า เจ.ดี. ชายหนุ่มซึ่งเพิ่งย้ายมาใหม่ สองคนนี้ทำความรู้จักกันและสนิทสนมคบหากันอย่างรวดเร็ว ในวันหนึ่งที่เวโรนิก้าโกรธเคืองเฮเธอร์ แชนด์เลอร์ อย่างมาก บวกกับความเก็บกดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เจ.ดี.ก็เสนอไอเดียว่าให้เธอ “ฆ่า” เฮเธอร์ซะเลยสิ จะได้ไม่ต้องถูกเฮเธอร์ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งคนนี้กดขี่เธออีก เธอจะได้เป็นอิสระ เวโรนิก้าอยากให้ชีวิตไฮสคูลเปลี่ยนไปสักทีจึงตัดสินใจทำตามที่เจ.ดี.ว่า ตอนแรกคิดว่าจะแกล้งให้อ้วกเฉยๆ แต่กลับผิดแผนเพราะเวโรนิก้าเผลอหยิบแก้วที่ใส่น้ำยาล้างท่อไป เจ.ดี.หลอกให้เฮเธอร์กิน แน่นอนว่าเฮเธอร์ตายในทันที เวโรนิก้าและเจ.ดี.จัดฉากว่าเฮเธอร์ฆ่าตัวตายด้วยการที่เวโรนิก้าปลอมลายมือเฮเธอร์ เขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้

ทว่าเวโรนิก้าก็ดีใจได้ไม่นาน เพราะแทนที่ทุกคนจะลืมเฮเธอร์ไป ทุกๆ คนกลับระลึกถึงเฮเธอร์และนึกสงสารเฮเธอร์หลังจากได้อ่านจดหมายนั้น หลังจากนั้น เวโรนิก้ากับเจ.ดี.ก็ได้ก่อเหตุฆาตกรรมอีกครั้งกับสองหนุ่มนักกีฬาที่กุเรื่องทำให้เวโรนิก้าเสียหาย โดยจัดฉากว่าทั้งคู่เป็นคู่รักเกย์ที่ยิงกันเองเพราะรับไม่ได้กับสังคมที่เหยียดเกย์ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่การตายของสองนักกีฬาหนุ่มไม่ได้สร้างความสะใจให้กับสังคม แต่กลับจุดชนวนความสงสารเห็นใจและความเชิดชูในฐานะฮีโร่มากกว่า จากสองเหตุการณ์นี้ การฆ่าตัวตายจึงถูกมองเป็นพฤติกรรมที่เท่และควรเลียนแบบอย่าง ทำให้เหล่านักเรียนในโรงเรียนต่างพยายามทำตาม เวโรนิก้าเริ่มรู้สึกว่านี่มันไม่ได้การแล้ว จึงพยายามหยุดยั้งความสัมพันธ์ตัวเองกับเจ.ดี. เพราะในขณะที่เธอเริ่มจะตาสว่าง เจ.ดีกลับเริ่มเผยธาตุแท้ด้วยการเมามันส์ไปกับการฆ่าคนขึ้นทุกที…
“Suicide gave Heather depth, Kurt a soul, and Ram a brain. I don’t know what it’s given me, but I have no control over myself when I’m with J.D. Are we going to prom or to hell?” – Veronica Sawyer
Heathers เป็นหนังที่ภายนอกก็ดูเหมือนหนังไฮสคูลวัยรุ่นสีลูกกวาดทั่วไป (แค่เสื้อผ้าของสามสาว Heathers ก็แสบตาแล้ว) ทว่าภายใต้ความสวยงามนั้นกลับเต็มไปด้วยความดำมืดที่หนังเสนอออกมาได้อย่างตลกขบขัน ยิ่งเสริมสร้างมิติแห่งความตลกร้ายยิ่งขึ้นไปอีก และยิ่งสถานการณ์หลายๆ อย่างนั้นอิงพื้นฐานมาจากความจริง ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้ง การโหยหาความดัง การเหยียดเพศ ฯลฯ ก็ยิ่งทำให้หนังแทงใจคนดูยิ่งขึ้นไปอีก
“The extreme always seems to make an impression.” – J.D.

ตัวละครหลักของเรื่องนั้นเรามองว่าไม่ใช่สามสาว Heathers เลยแม้ว่าชื่อหนังจะชวนให้เราคิดแบบนั้น แต่บทหลักกลับตกไปอยู่ที่เวโรนิก้ากับเจ.ดี.มากกว่า คู่นี้เป็นเหมือนคู่หูตัวร้ายในเรื่อง หากใครทำอะไรให้พวกเขาไม่พอใจ พวกเขาก็จะเล่นงานทันที ความจริงข้อดีผู้ชมจะได้เห็นกันตั้งแต่ฉากแรกๆ ที่เจ.ดี.ปรากฏตัว ในตอนที่สองหนุ่มนักกีฬาเข้ามาหาเรื่องเขา เขาคว้าปืนออกมายิงลูกปืนปลอมใส่ทั้งคู่ทันทีราวกับเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องคิด นั่นก็เริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่าพื้นฐานของเจ.ดี.นั้นเป็นคนนิยมความรุนแรง เพราะเชื่อว่าความรุนแรงนี่ละมีอำนาจจะเปลี่ยนทุกอย่างได้ นี่อาจจะเป็นผลพวงจากการที่เขามีพ่อซึ่งนิยมความรุนแรงเหมือนกันด้วย
“Chaos is what killed the dinosaurs, darling” – J.D.
และอีกเหตุผลที่จุดชนวนความหัวรุนแรงให้เจ.ดี.น่าจะมาจากการที่เขามักจะเห็นการกดขี่ การแบ่งชนชั้นวรรณะอยู่ตลอด ไม่ว่าจะไปอยู่โรงเรียนไหนก็ตาม นั่นทำให้เขาเอียนและเบื่อกับเรื่องพวกนี้ และพร้อมที่จะสั่งสอนใครก็ตามที่กล้ามาแหยมกับเขา
“The only place different social types can genuinely get along with each other is in heaven.” – J.D.

ทางฝั่งเวโรนิก้า ช่วงแรกๆ เราจะรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่สู้คน ดูใจดีอ่อนโยน จึงถูกพวกเฮเธอร์รังแกตลอด แต่พอได้มารู้จักกับเจ.ดี. ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เธอได้สัมผัสความรุนแรง กลายเป็นส่วนหนึ่งของการฆาตกรรม เห็นอย่างนั้นแต่ลึกๆ แล้วพื้นฐานจิตใจของเธอเป็นคนดี ตอนที่เธอรู้ว่าเธอได้ฆ่าคนเข้าจริงๆ เธอก็อดตกใจไม่ได้ (แม้ว่าปฏิกิริยาตอนที่เธอฆ่าเฮเธอร์คนแรกจะดูตลกมากกว่าก็ตาม) และเธอก็ยิ่งหัวเสียไปกันใหญ่เมื่อรู้ว่ากระสุนที่ใช้ยิงสองหนุ่มนักกีฬานั้นเป็นกระสุนจริง ไม่ใช่กระสุนปลอมอย่างที่เจ.ดี.หลอกเธอ ถึงอย่างนั้น เหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงก็ช่วยเสริมให้เธอเป็นคนแข็งแกร่งขึ้น เห็นได้จากการที่เธอยอมปะทะกับเจ.ดี.ในตอนสุดท้าย และกล้าที่จะมองเจ.ดี.จุดระเบิดตัวเองโดยไม่ทุกข์ร้อนอะไร
“Dear Diary, my teen-angst bullshit now has a body count.” – Veronica Sawyer

หนังยังแซะสังคมในหลายๆ จุด เช่น การสวมหน้ากากเข้าหากัน อย่างที่จะเห็นได้จากวิดีโอสัมภาษณ์คุณครูคนหนึ่งที่บอกว่าเธอเฝ้ารอคอยการปรากฏตัวของเฮเธอร์ แชนด์เลอร์ อยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ในชีวิตจริงคุณครูเกลียดเฮเธอร์จะตาย หรือไม่ก็ฉากที่เฮเธอร์ ดุ๊คขึ้นครองอำนาจแทนเฮเธอร์ แชนด์เลอร์ แถมยังขโมยเอาเครื่องประดับของเธอไปอีก จึงยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าสามสาวเฮเธอรส์ที่ดูเหมือนกลมเกลียวกันดี แท้จริงแล้วลึกๆ พวกเขาก็ไม่ได้รักกัน ต่างก็อยากจะเอาชนะกันและกัน แต่เพราะอยากดังอยากแข็งแกร่งเลยต้องเกาะกลุ่มกันไว้ต่างหาก เวโรนิก้าเองก็มองเช่นนั้นเหมือนกัน
“It’s like, they’re people I work with and our job is being popular and shit” – Veronica Sawyer
ข้อดีของการเป็นเวโรนิก้า ไม่ใช่พวกเฮเธอรส์ ก็คือการที่ชีวิตได้ลิ้มรสสุขบ้างทุกข์บ้าง แม้บางทีจะมีทุกข์มากกว่าหน่อยเพราะโดนเฮเธอรส์กดขี่ แต่มันก็ทำให้เธอมีเกราะป้องกันแน่นหนาพอที่จะไม่พ่ายแพ้ให้กับการหนีปัญหาอย่างการฆ่าตัวตาย ต่างกับเฮเธอร์ แมคนามารา ที่พอโดนเพื่อนตัวเองกลั่นแกล้งก็หนีไปจะกินยาฆ่าตัวตายแล้ว ร้อนถึงเวโรนิก้าที่ต้องเข้าไปห้ามไม่ให้เลยเถิด
“If you were happy every day of your life you wouldn’t be a human being. You’d be a game-show host.” – Veronica Sawyer
แม้ว่าจะเป็นหนังวัยรุ่นแต่โดยรวมแล้ว Heathers ไปสุดในทุกๆ ด้าน กล้าที่จะตอกย้ำจุดด้อยของสังคมและเล่ามันออกมาในมุมมองขบขันแต่กลับเสียดแทงอย่างบอกไม่ถูก ความทะเยอทะยานอยากจะเด่นอยากจะดังของเวโรนิก้าเป็นตัวบอกเธอว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นเธอไม่ได้มีความสุขเลย โด่งดังแล้วยังไง? สุดท้ายการกลับไปคบเพื่อน “น่าเบื่อๆ” อย่างมาร์ธาร์หรือเบ็ตตี้อาจจะทำให้เธอมีความสุขมากกว่า
ไม่ต้องกลัวว่าจะขัดใจใคร ไม่ต้องทะเลาะกับคนนู้นคนนี้ ไม่ต้องรับคำสั่งใคร มีชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ต้องเป็นที่เตะตาของสังคม ก็สบายใจไปอีกแบบ
Leave a Reply