หนึ่งวันในนครนายก: แม้รู้ล่วงหน้าว่าฝนจะตกแต่ก็ยังกระเสือกกระสนไป

IMG_2540

ในช่วงหยุดยาววันแม่ ที่บ้านเราวางแผนจะไปเที่ยวไหนสักที่ภายในวันเดียว หวยมาออกที่นครนายก เพราะแม่อยากไป (จบข่าว)

เช้าวันที่ 13 สิงหาคม 2018 คือวันออกเดินทาง ก่อนออกเดินทางก็ได้มีการเช็กสภาพอากาศด้วย ผลปรากฏคือ…ฝนตก 100% จ้า

ถามว่าไปมั้ย? ก็ยังไป!

และนี่คือจุดเริ่มต้นของหนึ่งในทริปที่ทุลักทุเลที่สุดในชีวิต แม้จะกินเวลาเพียงวันเดียวก็ตาม


รถออกแล่นจากกรุงเทพฯ ตอนสิบโมงกว่าๆ จุดมุ่งหมายแรกคืออาหารเที่ยงที่ร้านครัวบ้านมะขาม ตอนแรกก็ไม่นึกว่าจะหิวทันเวลาเที่ยงหรอกเพราะออกเดินทางสาย เพิ่งกินข้าวเช้ามา แต่การเดินทางที่กินเวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมงก็ทำให้เราหิวจนได้ พอถึงร้านปุ๊บแทบจะบินออกจากรถไปเลย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอฝนปรอยๆ และทางเดินที่เป็นหินเป็นขั้นของร้าน เตือนว่าให้ระวังการเดินนิดหนึ่ง เพราะถ้าพลาดก็อาจเซตกลำธารได้

IMG_2477

ประทับใจมุมนี้ของร้าน อยู่ติดลำธารมากๆ

IMG_2478

ติดจริงๆ เอาเท้าแช่ได้เลย

ร้านครัวบ้านมะขามมีจุดเด่นตรงส่วนที่โต๊ะกินข้าวอยู่ติดกับลำธารนี่แหละ คือกินข้าวอยู่ดีๆ สามารถเขยิบไปอีกนิดเพื่อแช่ตัวในลำธารได้เลย ทางเราก็พลาดโอกาสที่จะได้ครอบครองโต๊ะโซนนี้ แม้ว่าฝนจะทยอยตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม เอาน่ะ มันยังไม่หนักขนาดนั้น ร่มที่บังก็ยังพอกันได้อยู่

ว่าแล้วก็สั่งอาหารมา 5 อย่าง ซึ่งเรากินได้ 2 จาน (เพราะอะไร? ไปอ่านหน้านี้) นั่นก็คือปลาช่อนเผาเกลือ กับ ต้มยำปลาคัง

IMG_2476

IMG_2506

รีวิวอาหารแบบเร็วๆ: ปลาช่อนเผาเกลือที่สั่งมาเป็นไซส์ใหญ่ ซึ่งก็ใหญ่สมชื่อจริงๆ เนื้อแน่นดี เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เราว่าก็อร่อยดีนะ ติดนิดหน่อยตรงที่เนื้อปลาจะค่อนข้างแห้ง เหมือนว่าจะเผานานไป แต่รวมๆ แล้วเราโอเคละ ส่วนต้มยำปลาคังก็โอเคเลย ให้เนื้อปลาเยอะ รสชาติแซ่บๆ เหมาะกับทานในวันฝนพรำ (รึเปล่า)

นั่งทานข้าวอย่างสงบสุขอยู่ดีๆ ทุกคนในแถบนั้นก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความรุนแรงของฝนที่ทวีความหนักขึ้นเรื่อยๆ เหมือนไปโกรธใครมา จากตกเม็ดหนักก็เริ่มสาดเข้าใส่โต๊ะ น้ำเริ่มไหลท่วมไปตามโต๊ะและเก้าอี้ เราต้องกางร่มไว้ข้างๆ เก้าอี้เพื่อไม่ให้ฝนสาดใส่ตัว (ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไร) ที่พีคคือโต๊ะเราดันอยู่ใกล้กับช่องทางระบายน้ำของทางร้านอีก หรรษาน้ำหลากกันเลยทีเดียว เท้านี่เย็นเฉียบเลยจ้ะ

ทนกันไปได้สักพักหนึ่งก็เริ่มถอดใจละ มันเป็นการกินข้าวที่ทุลักทุเลเหลือเกิน โชคดีที่พวกเราตัดสินใจย้ายโต๊ะตอนอาหารหมดพอดี ไม่งั้นคงต้องวุ่นวายขนอาหารกันขึ้นมาในส่วนที่เป็นร้านมีหลังคาบัง

IMG_2487

ฝนตกแล้ว เกมโอเวอร์  ทางร้านต้องอพยพคนขึ้นมา

เจอพายุฝนขนาดนี้เข้าไป ทุกคนเริ่มลังเลแล้วว่าจะไปต่อดีมั้ย แต่เฮ้ย ดูนั่นสิ เหมือนฝนจะเพลาๆ ลงละ อีกสักพักก็น่าจะเที่ยวได้แล้ว งั้นเราไปกันเลยดีกว่า (ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย…)

จากมื้อเที่ยงที่ครัวบ้านมะขาม จุดหมายต่อไปที่คือเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งพอไปถึงฝนก็ยังตกแหมะๆ อยู่นิดหนึ่ง แต่สักพักมันก็หยุด!! โอ้ขอบคุณสวรรค์ ขอบอกว่าอากาศช่วงหลังฝนตกนี่เย็นสบายมาก อย่างกับอยู่ต่างประเทศ ยิ่งประกอบกับวิวสวยๆ ด้วยแล้วยิ่งเข้ากัน

IMG_2507

วิวนี้ดีมากกก อย่างกับต่างประเทศ

หยุดดูวิวสักพักนึง จากนั้นเราก็เช่ารถนั่งไปตามสันเขื่อนกันต่อ เราเช่าแบบรถกอล์ฟซึ่งนั่งได้สี่คน เหมาะสำหรับกลุ่มไหนที่อยากขับเอง อยากจอดถ่ายรูปเมื่อไรก็จอด อีกทางเลือกหนึ่งคือขึ้นรถบัสพาเที่ยว จ่ายคนละ 30 บาท

IMG_2508

รถกอล์ฟไฟฟ้าให้เช่า

IMG_2509

หรือจะมานั่งรถบัสพาทัวร์ก็ได้

IMG_2510

IMG_2511

ถนนบนสันเขื่อนยาวๆ เลย

โชคดีที่ตอนนั่งรถขาไป ฝนหยุดตกแล้ว หรือไม่ก็ตกเบามากกกจนแทบไม่รู้สึก สิ่งที่น่าประทับใจจึงเป็นอากาศเย็นๆ ที่พัดผ่านตัวเราตอนรถกอล์ฟเคลื่อนไปตามสันเขื่อนนี่แหละ บรรยากาศดีมากกกก สบายมากกกก ถ้าฝนไม่ตกนี่จะที่สุดของที่สุดจริงๆ

IMG_2512

IMG_2513

ดูละอองน้ำนั่นสิ… นี่คืออีกฝั่งของเขื่อนที่ไม่ใช่น้ำ

IMG_2514

เขียนว่า “ห้ามเข้าเขต” อันนี้น่าจะหมายถึงคนเดินดุ่มๆ เข้ามา เพราะพวกเราก็ยังเข้าได้นะ

IMG_2515

IMG_2516

น้ำสุดลูกหูลูกตามาก

IMG_2517

IMG_2518

สันเขื่อนไปสิ้นสุดตรงหน้าผา จากนั้นเราก็ต้องวนรถกลับ ขากลับนี่แหละฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว เม็ดหนักด้วย ถึงขั้นต้องกางร่มกันเลยทีเดียวเพราะเจอฝนสาด (จริงๆ ถึงกางก็เปียกอยู่ดี)

IMG_2519

นึกว่ากำลังเข้าจูราสสิกพาร์ก เปล่า นี่คือทางตัน

IMG_2520

อีกซีกหนึ่งของเขื่อน เป็นมุมเมืองที่มองมาจากสันเขื่อน สวยมาก

IMG_2521

ขับรถกอล์ฟชิวๆ

เมื่อสิ้นสุดการขับรถกอล์ฟพร้อมๆ กับฝนที่เทกระหน่ำ พวกเราก็ตัดสินใจย้ายไปที่เที่ยวต่อไป นั่นก็คือสะพานทุ่งนามุ้ย ซึ่งเป็นสะพานไม้ยาวๆ ทอดตัวไปท่ามกลางนาข้าว เป็นวิวที่สวยงามตามธรรมชาติท้องถิ่นมากๆ และจะเดินง่ายกว่านี้ ถ้าฝนไม่ตก

IMG_2538

ก่อนเข้าทุ่งแอบมีตลาดให้ช้อป

IMG_2539

IMG_2541

ที่นี่จะให้ฟีลคล้ายๆ กับไร่แสงอรุณที่เชียงรายที่เราเคยไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ที่นู่นสะพานไม้จะยกตัวสูงกว่า สะพานพื้นเรียบกว่า และคนน้อยกว่า (ตอนที่เราไปอะนะ) ที่นี่เลยไม่ได้ว้าวขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าเป็นบรรยากาศที่สวยอยู่ดีนะ

IMG_2542

ร้านคาเฟ่ให้นั่งชมวิว

IMG_2543

เขียวขจีสุดๆ อากาศก็เย็นสบาย (เพราะฝน ;_;)

IMG_2544

IMG_2545

เหมือนมุมนั้นจะมีกาแฟขายเหมือนกัน เพ่งมองจากไกลๆ ถ้ามองไม่ผิด

IMG_2546

ตอนแรกงงอยู่นานว่าใช่แมวจริงรึเปล่า ดูเหมือนรูปปั้นมาก สรุปว่าคือแมวจริงจ้ะ

IMG_2547

มาสั่งกาแฟเครื่องดื่มกันได้

IMG_2548

ฝนเทกระหน่ำอย่างไม่ปรานี

IMG_2549

ได้ซีนที่ไม่ติดคนแล้ว เย่

พอจบจากสะพานทุ่งนามุ้ย ก็เป็นเวลาประมาณบ่ายๆ ค่อนไปเย็นๆ แล้ว บวกกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นไร ทุกคนเลยตัดสินใจว่างั้นตรงกลับกรุงเทพฯ ดีกว่า จริงๆ ตอนแรกแพลนว่าจะไปซุ้มป่าไผ่ที่วัดจุฬาภรณ์วนารามด้วย แต่ดูอากาศแบบนี้ไม่น่าจะเข้ากันกับซุ้มป่าเท่าไร ถ้าถ่ายรูปออกมาก็คงมึนๆ ทึมๆ ไม่สวยขนาดนั้น ไว้หาโอกาสมาใหม่ละกัน


สำหรับทริปนี้ก็เป็นทริปหนึ่งวันในนครนายกที่เต็มไปความทุลักทุเล แต่อะไรก็ไม่พีคเท่าการได้รู้ว่าหลังจากเราออกมาจากนครนายกไม่กี่ชั่วโมง นครนายกก็เจอน้ำป่าไหลหลาก แรงมากด้วย พอรู้แบบนี้ก็รู้สึกว่าพวกเราโชคดีจริงๆ ที่ไม่เจอสถานการณ์นี้โดยตรง ขอภาวนาให้ทุกคนในแถบพื้นที่ที่โดนกระทบไม่เป็นอันตรายนะ

สุดท้ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าอากาศนี่สำคัญสำหรับการเที่ยวจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็สนุกไปอีกแบบ สนุกแบบทุลักทุเล ตลกแบบทำไมทริปนี้มันเละเทะแบบนี้ ซึ่งมันก็หรรษาดี อีกอย่างที่เราชอบคือได้รูปโทนหม่นๆ มัวๆ ซึ่งเป็นโทนโปรดของเรา เป็นอะไรที่ต้องแลกมาด้วยฝน ;_; อย่างไรก็ดี ถ้าให้เลือกก็ขอมาเที่ยววันที่อากาศเป็นใจกว่านี้ดีกว่า น่าจะได้ประสบการณ์เที่ยวจริงๆ แบบครบถ้วนเต็มร้อย

คาดว่ารอบหน้าเราต้องเชื่อพยากรณ์อากาศกันแล้วละ เชื่อแล้วว่าทำนายแม่น

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: