Big Fish & Begonia… คืออนิเมชั่นสัญชาติจีนที่หลายคน (รวมถึงเรา) ดูลายเส้นแวบแรกคงทำให้นึกไปถึง Spirited Away ยิ่งพล็อตเรื่องเป็นแนวแฟนตาซีภาพสวยแล้วด้วย
ตอนแรกเราไปอ่านรีวิว ก็เตรียมใจไว้ละว่าต้องเศร้าแน่นอน แล้วเราเป็นพวกที่แบบ ยิ่งมีสัตว์มาเกี่ยวข้องในหนังด้วยแล้วยิ่งอ่อนไหว เลยไม่ค่อยกล้าดู (ใช่ เป็นคนไม่กล้าดูหนังซึ้งๆ) แต่เห็นว่าเรื่องนี้จริงๆ แล้วเป็นการแปลงกายของนางเอกต่างหากไม่ใช่สัตว์จริงๆ เลยอะลองดูอยากรู้จะเป็นไง
Big Fish & Begonia เล่าถึงโลกที่แบ่งออกเป็นสองภพภูมิ นั่นคือโลกมนุษย์กับโลกภูติที่ควบคุมกฏธรรมชาติของโลกมนุษย์อีกที โดยโลกของทั้งสองนั้นมีมหาสมุทรของโลกมนุษย์เป็นตัวกั้น และมหาสมุทรนี้แหละคือท้องฟ้าของโลกภูติ นางเอกคือชุน ภูติสาววัยเพิ่ง 16 ปี ซึ่งเมื่ออายุเท่านี้เหล่าภูติจะได้รับโอกาสขึ้นไปสำรวจวิถีชีวิตบนโลกมนุษย์ผ่านร่างของปลาโลมาสีแดงเป็นเวลา 7 วัน ระหว่างนั้น ชุนก็ได้เจอกับสองพี่น้องชาวประมง และเหมือนเธอจะแอบปลื้มๆ คนที่เป็นพี่ชายด้วย (แววตามันฟ้อง) ส่วนพี่ชายก็ถูกชะตากับนางเอกในร่างปลาเหมือนกัน
โลกมนุษย์ดูสวยงามในสายตาของชุน แต่แล้วในวันสุดท้ายที่เธอจะต้องกลับโลกภูติ ก็เกิดพายุเข้า คลื่นลมแรง เธอไปเจอเหล่าปลาที่ติดร่างแหชาวประมง ตกใจในความโหดเห้ของมนุษย์เสร็จ ตัวเธอก็ดันเกิดอุบัติเหตุติดตาข่ายเข้าอีก ทำให้ไม่สามารถไปยังจุดน้ำวนที่จะพาเธอกลับโลกได้ ทางฝ่ายพี่ชายชาวประมงเห็นก็ไปช่วยเธอ แต่ตอนนั้นเธอก็แพนิกหนักมาก เลยเผลอสะบัดหางใส่ชายหนุ่มจนพลัดเข้าไปในบ่อน้ำวน จมน้ำเสียชีวิตไป
ชุนสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย แต่เธอก็ต้องรู้สึกผิดที่มีคนตายเพราะเธอ จึงไปทำสัญญากับผู้คุมวิญญาณมนุษย์ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเธอขอแลกครึ่งชีวิตของเธอกับชีวิตของชายหนุ่ม ผู้คุมวิญญาณนำวิญญาณของชายหนุ่มในร่างปลาเล็กมาให้ชุนเลี้ยงดูจนเติบใหญ่พอจะว่ายกลับไปโลกมนุษย์ได้ โดยมีพันธะว่าหากชายหนุ่มในร่างปลาตาย เธอเองก็จะตายเช่นกัน แถมพันธะสัญญานี้ แท้จริงแล้วยังผิดต่อกฏเกณฑ์ของโลกภูติอีกด้วย…
สารภาพว่าช่วงแรกๆ ที่เราดู แอบงงเกี่ยวกับโลกสองใบในหนังเหมือนกัน นี่ขนาดอ่านรีวิวและดูตัวอย่างหนังมาแล้วนะ แต่พอเริ่มดูหนังจริงนี่เหมือนลืมทุกอย่าง จำได้แค่ว่า หนังอิงตำนานจีนเกี่ยวกับวิญญาณมนุษย์ที่แท้จริงแล้วเคยเป็นปลามาก่อน ซึ่งการรู้แค่นั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ดูหนังได้อย่างเคลียร์ๆ ในช่วงแรกเท่าไร ดูไปสักพักถึงค่อยปะติดปะต่อเรื่องได้ (หรือเราสมองช้าฟะ)
หนังมีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างเรียบเรื่อย ดูได้เพลินๆ ไม่ได้หวือหวามากมาย แต่ก็ไม่ได้อืดจนหลับ สำหรับเราถือว่าเป็นอนิเมชั่นที่ทำให้รู้สึกเหมือนหวนกลับไปเป็นเด็กนะ ใครที่ชอบเรื่องราวตื่นเต้นๆ อาจจะไม่ถูกใจเรื่องนี้เท่าไร แต่อย่างน้อยเราว่าสิ่งที่น่าจะพอดึงให้ดูต่อไปได้คือภาพที่สวยมากๆ รู้สึกได้ถึงการลงทุนอันยิ่งใหญ่ ซีนต่างๆ ดูอลังการงานสร้างจริงๆ โดยเฉพาะซีนที่แพนให้เห็นสถานที่ในมุมกว้างๆ นะ รู้สึกว่ามันโอ่โถงมากๆ
ตัวละครหลักของเรื่องนี้มีสามคน คนแรกคือชุน นางเอกที่มีพลังควบคุมเสกสรรค์ต้นไม้ใบหญ้า คนที่สองคือชิว เพื่อนชายของชุนที่คอยดูแลเอาใจใส่กันตลอดตั้งแต่เด็ก และคนที่สามคือคุน วิญญาณหนุ่มชาวประมงในร่างโลมาแดง ซึ่งจริงๆ เราไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไรหรอก แต่ชิวและชุนตั้งชื่อคุนให้เขาตามชื่อของปลายักษ์ในตำนาน
ดูจากชื่อเรื่อง Big Fish & Begonia ก็พอจะเดาได้รางๆ ว่านี่เป็นเรื่องของคนสองคนเป็นหลัก โดย Big Fish ก็แทนตัวพระเอกอย่างคุน ส่วน Begonia (ต้นไม้ชนิดหนึ่ง) ก็แทนตัวนางเอกอย่างชุน เราจะเห็นความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและผูกพันของคนคู่นี้ โดยชุนนั้นเลี้ยงวิญญาณคุนมาตั้งแต่ยังเป็นปลาเล็ก จนกระทั่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ให้อารมณ์เหมือนแม่ที่เลี้ยงลูก และภูมิใจที่ลูกเติบใหญ่ยังไงยังงั้น เราเลยพอจะเข้าใจว่า เออ นางคงรักของนางแหละ ตั้งแต่ยอมแลกชีวิตด้วยแล้ว นี่เลี้ยงดูมากับมือ จะให้ปล่อยทิ้งได้ยังไง
แต่อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือชิว เพราะเขามีบทบาทกว่าที่เราคิดไว้ตอนแรกมากๆ จากตอนแรกที่นึกว่ามาแค่ป่วนนางเอกเป็นครั้งคราว กลับกลายเป็นเพื่อนคู่เคียงนางเอกไปจนสุดทาง ไปๆ มาๆ เราชอบตัวละครนี้ที่สุดเลย ถ้าเป็นสมัยเด็กเราคงหลงรักเขาไปแล้ว 555 คือรู้สึกได้ถึงพลังความรักที่มีต่อนางเอกและความกล้าเสียสละอย่างแท้จริง ดูแล้วจะรู้สึกว่า อยากให้เป็นพระเอกอะ ไม่อยากให้ผิดหวังเลย เรียกได้ว่าเป็นบทที่พระร้อง พระรอง จริงๆ
ป.ล. ชอบซีนชิวขี่หลังชุนเป็นพิเศษ เป็นคนชอบเวลาเห็นผู้หญิงทำหน้าที่ของผู้ชายแทน 555
กลับมาที่คู่พระนาง อันที่จริงมันมีประเด็นเรื่องความถูกต้องอยู่ อย่างที่บอกไปข้างต้น การที่นางเอกรับปลามาเลี้ยงนั้นผิดกฏของโลกภูติ ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดๆ ผิดธรรมชาติต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆ เช่น หิมะผิดฤดูบ้างละ น้ำฝนมีรสเค็มบ้างละ ชาวบ้านพอรู้ว่าสาเหตุมาจากพระนางก็เตรียมจะจัดการไล่ แต่นางเอกก็พยายามพาพระเอกหลีกหนีเต็มที่ เพราะอย่างที่บอก นางรักของนางอะ ฟ้าจะถล่มโลกจะทลาย นางก็รักของนาง บางทีความรักมันก็เอาแต่ใจอย่างงี้ละ เมื่อเรารักใคร โลกทั้งโลกของเราก็จะโคจรอยู่รอบคนคนนั้น คนอื่นๆ จะเป็นยังไง แทบจะไม่อยู่ในสายตาแล้ว
เอาเข้าจริง สารที่หนังต้องการจะสื่อ เราว่ามันไม่ชัดเท่าไร ดูจบแล้วก็แบบ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ต้องการจะบอกอะไร เพราะในหนังก็จะมีการพูดเชิงประมาณว่า ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ เราหลีกหนีไม่ได้ ชีวิตมีความหมาย เราต้องกล้าที่จะใช้ชีวิต กล้าที่จะทำตามฝัน ฯลฯ ซึ่งมันเป็นวลีที่สวยหรูนะ แต่ถามว่าแมตช์กับเนื้อเรื่องมั้ย…. (เสียงกาบิน) เราว่ามันค่อยคล้องเท่าไรอะ ในความคิดเรา สารของหนังน่าจะเป็นเรื่องผลของการกระทำมากกว่า ทำผิดกฏก็ต้องเจอผลกรรม แม้แต่ความรักก็มิอาจพังกฏข้อนี้ลงได้
ถามว่าดูจบแล้ว feel good ไหม? อืมจะว่าไงดี มันเป็นความรู้สึกก้ำๆ กึ่งๆ คือจะมองให้แฮปปี้เอนดิ้งก็ได้แหละ แต่ขณะเดียวกันมันก็มีมุมโหวงๆ เหมือนกันด้วย เอาเป็นว่าไม่พูดมากเดี๋ยวจะสปอยล์ แต่คิดว่านี่น่าจะเป็นอนิเมชั่นที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ดูได้ อาจจะมีบางส่วนที่ยังทิ้งไว้เป็นปริศนา (เช่น ยายแก่ที่ดูแลหนู นางคือใครมาจากไหน) รวมถึงสารของหนังที่อาจดูหลงๆ ไม่ชัดเท่าไร แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าดูได้สนุกเพลินๆ นะ
Leave a Reply