เป็นครั้งแรกที่อ่านเว็บตูนแนวอื่นนอกจากวาย
เราเห็นรีวิว Mask Girl ครั้งแรกในทวิตฯ เห็นลายเส้นดูแปลกตา พล็อตดูดาร์กๆ จิตๆ ดีเลยลองเข้าไปอ่าน ปรากฏว่า แค่ไม่กี่ตอนก็ทำเอาติดงอมแงม ตามอ่านต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนล่าสุดที่เข้าภาค 2 แล้ว
Mask Girl เล่าเรื่องของ คิมโมมิ หญิงสาวหน้าตาไม่สวยแต่หุ่นดีมากกกก ในชีวิตประจำวันเธอก็เป็นเพียงพนักงานออฟฟิศน่าเบื่อๆ ทั่วไป แต่เมื่อกลับถึงห้อง เปิดคอมฯ เธอจะกลายเป็นสาวเว็บแคมไลฟ์วาบหวิวในนามแฝง Mask Girl สุดฮอต โดยจุดเด่นของเธอก็คือการสวมหน้ากากตลอดการออกอากาศ จะว่าจุดเด่นก็ออกจะตลกร้าย เพราะจริงๆ แล้วโมมิสวมเพื่อปกปิดใบหน้าตัวเองต่างหาก แน่นอนว่าตัวตนนี้ของเธอจะให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาด รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
ชีวิตที่ออฟฟิศของโมมินั้น จะว่าน่าเบื่อก็ไม่ซะทีเดียว เพราะมีตัวละครน่าสนใจมากมายที่ข้องเกี่ยวกับพล็อตหลัก
ทั้งปาร์คกิฮุน หัวหน้าฝ่ายสุดหล่อที่โมมิแอบปิ๊ง
ยูซังซุน หญิงลุคป้าที่เป็นเพื่อนสนิทของโมมิ แต่ดูๆ ไปก็เหมือนมีอะไรซ่อนไว้
ลีอารึม หญิงสาวสุดสวยขวัญใจหนุ่มๆ เป็นคู่ปรับกับโมมิเงียบๆ เพราะชอบหนุ่มคนเดียวกัน
จูโอนัม หนุ่มติ๋มที่อายุแค่ 35 แต่หน้าไปไกลกลายเป็นลุงแล้ว
แค่เริ่มเรื่องช่วงแรกๆ ก็สนุกแล้ว ตอนต้นๆ เนื้อหาจะยังไม่เข้าโหมดดาร์ก ยังเล่นกับประเด็นทั่วๆ ไปอย่างเรื่องวุ่นวายในออฟฟิศ เรื่องการแอบชอบหัวหน้าหนุ่ม เรื่องการเป็นปรปักษ์กับหญิงสาวอีกคน โดยรวมแล้วก็ยังสนุกๆ ขำๆ ไป แต่สักพักเนื้อหาก็เริ่มดาร์กและเข้มข้นเรื่อยๆ เมื่อโมมิไปรู้ความลับในออฟฟิศเข้า แถมยังได้รับจดหมายขู่อีกว่ามีคนรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว
สำหรับประเด็นหลักๆ ของเรื่องนี้ ก็หนีไม่พ้นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกอีกนั่นแหละ ประเด็นคลาสสิกตลอดกาล แต่วิธีที่การ์ตูนนำเสนอนี่มันช่างเจ็บแสบชะมัด เพราะมันโคตรจะจริง เราจะได้เห็นว่าคนหน้าตาดีนั้นได้รับโอกาสและการดูแลมากกว่า ราวกับเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง ส่วนคนที่หน้าตาไม่ได้ดีเข้าเกณฑ์ ก็จะถูกเยาะเย้ยและทำราวกับไม่ใช่มนุษย์ หลายๆ คำพูดนี่ก็โหดร้ายซะเหลือเกิน แบบถ้าเราโดนเองก็คงจุกจนไม่กล้าเอาหน้าออกไปสู้ที่ไหน นางเอกซึ่งเป็นคนไม่สวยและมักจะโดนล้ออยู่บ่อยๆ เลยกลายเป็นคนมีปมด้อย ไม่มั่นใจในหน้าตัวเอง แต่เนื่องจากหุ่นดี เลยใช้หุ่นให้เป็นประโยชน์ด้วยการไลฟ์โชว์ อย่างน้อยโมเม้นต์นี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เธอสามารถเฉิดฉายได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่มีใครมาวิจารณ์หน้าตาเธอ
ฟังแบบนี้ เราอาจจะรู้สึกว่าคิมโมมิต้องเป็นตัวละครที่น่าสงสารแน่ๆ … อยากจะเขียนแบบนั้นนะ แต่ก็สงสารไม่หมดใจจริงๆ เพราะหลายๆ ครั้งเราก็รู้สึกว่าตรรกะความคิดของนางนั้นช่าง… อธิบายไม่ถูก มีความป่วยๆ เพ้อๆ เหมือนนางเอกน่ารำคาญคนหนึ่ง และเธอเองก็ยังวิจารณ์รูปร่างหน้าตาคนอื่นอีกด้วย มันทำให้เรารู้สึกว่าเธอเองก็เหมือนคนทั่วไปนั่นแหละ ไม่ได้รู้สึกว่าเธอเป็นคนดีกว่าคนอื่นๆ แถมนอกจากนี้คิมโมมิยังแสดงความอิจฉาริษยาลีอารึมและแสดงความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของปาร์คกิฮุนอย่างเห็นได้ชัด ถึงขั้นตอแหลในบางสถานการณ์ มันทำให้เราค่อนข้างจะเอือมเหลือเกินจนอดด่าในใจไม่ได้
แต่ก็นั่นแหละ… ยิ่งการ์ตูนดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ชีวิตของโมมิก็ยิ่งตกต่ำลงเรื่อยๆ แบบตอนต้นเรื่องนี่จินตนาการไม่ออกเลยว่าจะลงเอยไปในทางนี้ ถึงอย่างนั้น การ์ตูนก็ไม่ได้นำเสนอมันออกมาแบบทรหดกดดัน ตรงกันข้ามเลย ตอนที่เราอ่าน เรากลับรู้สึกว่ามันมีความคอมเมดี้อยู่ในนั้น มีความเป็นตลกร้ายแฝงอยู่ จะอ่านให้ขำก็ได้ จะอ่านให้ละเหี่ยใจก็ได้
ตัวละครในเรื่องแต่ละคน ไม่มีใครที่ดีชั่ว 100% แต่ละคนมีความเป็นเทาๆ สะท้อนมนุษย์ในชีวิตจริงนั่นแหละ และยิ่งการ์ตูนเป็นแบบเน้นสีขาวดำเป็นหลัก (มีสีเหลืองแซมมาบ้าง) ก็ยิ่งเข้าธีม แม้กระทั่งคนที่ดูดีเพอร์เฟ็กต์ภายนอก จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่คนดีขนาดนั้น ยิ่งย้ำประเด็นว่ามองคนแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ
โดยรวมแล้ว Mask Girl เป็นเว็บตูนอีกเรื่องที่สนุกและแฝงแง่คิด สะท้อนสังคมได้ดี มีความจิตๆ ดาร์กๆ ทริลเลอร์ระดับหนึ่ง แต่โดยรวมแล้วนำเสนอในรูปแบบคอมเมดี้จิกกัดเสียดสีซะมากกว่า อ่านแล้วทำให้ฉุกคิดตลอดเลยว่า เออ การที่เราเผลอพูดวิจารณ์รูปลักษณ์ใครไป บางทีเราไม่ทันคิด คิดว่าเป็นเรื่องสนุก ล้อเล่นขำๆ แต่มันก็จะส่งผลกระทบต่อจิตใจของอีกฝ่าย… ไม่มากก็น้อยละ
Leave a Reply