รีวิว Spider-Man: Far From Home (2019): จากทริปทัศนศึกษากลายเป็นทริปกู้โลก

แค่ตัวอย่างหนัง Spider-Man: Far From Home ก็เรียกเสียงฮือฮาได้ระดับหนึ่งแล้ว กับการกล่าวอ้างอิงถึงโทนี่ สตาร์ก หรือ Iron Man ซึ่งสำหรับหนังสไปเดอร์แมนภาคนี้ ก็แทบจะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวจาก Avengers เต็มๆ

08

ถามว่า แล้วถ้าไม่ได้ดูภาคก่อนๆ หรือแม้กระทั่ง Avengers จะรู้เรื่องไหม? เอาจริงๆ ก็คงมีงงเหมือนกัน เพราะหนังกล่าวอ้างถึงเรื่องราวจากภาคก่อนๆ ของ Avengers มาก มีผลกระทบที่สะท้อนมาถึงสไปเดอร์แมนภาคนี้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้กระทบเนื้อเรื่องหลักขนาดนั้น พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวในภาคนี้ได้อยู่แหละ

03

Spider-Man: Far From Home ยังคงเล่าเรื่องราวของปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ (Tom Holland) เจ้าของตำแหน่งสไปเดอร์แมน ฮีโร่เพื่อนบ้านผู้แสนดี คราวนี้สไปเดอร์แมนไม่ได้อยู่แค่ในนิวยอร์คแล้ว เพราะครั้งนี้เขาได้ไปทัศนศึกษากับโรงเรียนไกลถึงยุโรป ตอนแรกปีเตอร์ก็ไม่คิดว่าจะไปเจออะไรที่นั่น แต่ปรากฏว่าก็เจอกับสัตว์ประหลาดที่มีมวลเป็นน้ำในกรุงเวนิส อิตาลี ระหว่างการต่อสู้ ปีเตอร์ก็จับพลัดจับผลูได้ร่วมมือกับฮีโร่ลึกลับอย่างมิสเตอริโอ (Jake Gyllenhaal) ที่เข้ามาสู้รบปรบมือด้วยกันอย่างทันเวลา

01

แน่นอนว่าสัตว์ประหลาดมวลน้ำนั่นไม่ใช่จุดจบ จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็มีสัตว์ประหลาดธาตุดินกับลมมาแล้ว แต่มิสเตอริโอก็ปราบมาได้ รายต่อไปคือธาตุไฟ ที่กำลังจะบุกกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ปีเตอร์ในฐานะสไปเดอร์แมนจึงถูกเรียกตัวให้ไปช่วยกู้โลกระหว่างทัศนศึกษา ซึ่งปีเตอร์ก็ไม่ได้อยากไปนักเพราะเขาเองก็อยากมีชีวิตวัยรุ่นธรรมดาๆ และหวังจะใช้เวลาระหว่างเที่ยวใกล้ชิดกับเอ็มเจ (Zendaya) เด็กสาวที่เขาแอบชอบ

09

สำหรับเราแล้ว หนังความยาว 2 ชั่วโมงนิดๆ นี้มีความสนุกอัดแน่นมาก เหมือนดูหนังรักวัยรุ่นผสมกับหนังแอ็กชั่นซูเปอร์ฮีโร่ มันมีความซีเรียสของสถานการณ์การสู้รบแต่ขณะเดียวกันก็มีความกุ๊กกิ๊กวัยว้าวุ่นอะไรเทือกนี้เข้ามาผสมด้วย ซึ่งเรามองว่ามันเป็นจุดเด่นของหนังสไปเดอร์แมนเลย

มาว่ากันถึงฝั่งแอ็กชั่นก่อน วิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ ไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะจัดเต็มมาก ถล่มเมืองกันแบบชิบหายวายวอด ชอบมากโดยเฉพาะฉากกรุงเวนิสน้ำถล่ม รู้สึกว่ามันเรียลแล้วก็เล่นกับจุดเด่นของเมืองได้ดี และด้วยความที่รอบนี้ไปหลายเมืองแบบ Far From Home จริงๆ ก็ทำให้ได้เห็นสไปเดอร์แมนบู๊ในสถานที่แปลกใหม่อย่างเวนิส ปราก ลอนดอน

SPIDER-MAN: ™ FAR FROM HOME

10

11

ฉากแอ็กชั่นยังคงดูสนุก ไม่ปวดหัว เส้นเรื่องนั้นช่วงแรกเราก็ยังคล้อยตามอยู่ สักพักเมื่อทุกอย่างเหมือนจะคลี่คลายเราก็รู้สึกว่า เอ๊ะ มันเร็วไปนะ ต้องมีอะไรแน่ๆ แล้วก็จริงอย่างที่คิด เพราะหนังสามารถหักมุมได้แบบที่เราก็ไม่ได้เอะใจมาก่อน เป็นการหักมุมที่ทำให้รู้สึกว่า เฮ้ย เล่นแบบนี้เลยเหรอ มองมุมนึงก็ดูแบบว่าง่ายมากเลยนะนั่น แต่อีกมุมนึงก็รู้สึกว่าเออกล้าแฮะ เจ็บแสบดี

ทางฝั่งเส้นเรื่องสายกุ๊กกิ๊ก อันนี้เราก็ชอบนะ เราชอบเคมีของพระนาง คนนึงก็ดูเป็นหนุ่มติ๋ม (เมื่ออยู่ในร่างเด็กทั่วไป) ส่วนอีกคนก็เป็นสาวเท่สตรอง ดูแล้วก็ลุ้นว่าทั้งคู่จะลงเอยยังไง เอาใจช่วยปีเตอร์ตลอด พวกมุกตลกที่เกี่ยวกับเรื่องวัยรุ่นๆ นี่ก็ชวนให้ฮาเหมือนกัน โดยเฉพาะตรงมุกฆ่าเพื่อนบนรสบัส อันนี้เล่นใหญ่มาก ถือว่าช่วยเบรกแก้เครียดได้ พวกเพื่อนๆ ของปีเตอร์ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ดีเช่นกัน

07

สำหรับนักแสดงนั้น เราชอบน้องทอม ฮอลแลนด์ในบทปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ น้องหน้าหล่อละอ่อนเหมาะกับบทฮีโร่กุ๊กกิ๊กๆ แบบนี้มาก ไปรู้มาว่าน้องเก่งยิมนาสติกเลยเล่นบทบู๊ส่วนใหญ่เองเลย ยิ่งประทับใจ เพราะพวกฉากตีลังกากระโดดขึ้นตึกนี่มีเยอะมาก

Tom Holland (Finalized)

ส่วนสาวที่ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ชอบอย่างเอ็มเจ ที่รับบทโดยเซนดาย่า คนนี้เราก็ชอบ คือฉีกกฏนางเอกที่ต้องผิวขาวสวยวิ้งเป็นเจ้าหญิง เซนดาย่าในบทนี้มีเสน่ห์ตรงรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไป ดูมีเสน่ห์แบบสวยเท่ๆ อะ ดูแมนดี เผลอๆ แมนกว่าพระเอก 5555 นั่นแหละ คือเราชอบคาแรคเตอร์นางเอกแบบนี้ เลยปลื้มเป็นพิเศษ

05

อีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ เจค จิลเลนฮาล ในบทมิสเตอริโอ รายนี้ก็ใส่มาเต็มที่เหมือนกัน ชอบฉากที่พี่แกเปลี่ยนสีหน้าในร้านเหล้ามาก ยังติดตรึงตาจนถึงตอนนี้

06

สำหรับประเด็นน่าสนใจในภาคนี้ ก็หนีไม่พ้นประเด็นคลาสสิกของหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่างภาระหน้าที่ที่มาพร้อมพลังยิ่งใหญ่ ในภาคนี้สไปเดอร์แมนเจอความคาดหวังว่าจะต้องเป็นไอรอนแมนคนต่อไปด้วย ยิ่งทำให้เด็กวัยรุ่นว้าวุ่นไปกันใหญ่ สำหรับเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งก็คงรู้สึกว่านี่มันหนักหนาเกินกว่าจะรับได้ ซึ่งเราว่าก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะมันก็หนักไปจริงๆ นั่นแหละ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ปีเตอร์ก็จะต้องเลือกระหว่างสิ่งที่อยากทำ กับสิ่งที่ต้องทำ เป็นอะไรที่ลำบากใจมากทีเดียว แต่มันก็ทำให้เขาโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง

12

สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้มี End Credit สองอัน ไม่ขอสปอยล์ละกันแต่ห้ามพลาดเลยเพราะหักมุมทั้งคู่ โดยรวมแล้ว Spider-Man: Far From Home เป็นหนังที่ดูสนุกและให้ความบันเทิงแบบจัดเต็ม เนื้อเรื่องฝั่งกู้โลกไม่ได้ซีเรียสเข้มข้นมากเพราะมีเส้นเรื่องความเป็นวัยรุ่นมาผสมๆ เข้าไป ทำให้เสพง่ายขึ้นสำหรับใครที่ไม่ถนัดดูหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ ถือเป็นอีกหนังแอ็กชั่นสบายๆ ที่แนะนำให้ดูกัน 🙂

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: