รีวิว Splash Splash Love (2015): เมื่อเด็กไม่เก่งเลขกลายเป็นอัจฉริยะแห่งยุคโชซอน

ไหนๆ ก็เพิ่งดูซีรีส์พีเรียดเกาหลีจบไปเรื่องนึง ต่ออีกสักเรื่องละกันจะได้อินๆ

สำหรับ Splash Splash Love นี่เป็นมินิซีรีส์ มินิขนาดไหนก็มินิขนาด 2 ตอนอะ แต่ละตอนยาว 1 ชม. เหมาะมากสำหรับใครที่อยากดูซีรีส์เกาหลีแบบเร็วๆ ไม่นาน เพราะแค่ 2 ชม. ก็ได้รับอรรถรสเต็มอิ่มจริงๆ

Splash Splash Love เป็นซีรีส์ย้อนยุคแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ไม่ดราม่าละบอกเลย ใครอยากได้ความกุ๊กกิ๊กมาทางนี้ เป็นเรื่องของจางดันบี (คิมซึลกิ) เด็กสาว ม.6 ผู้เรียนไม่เก่งเอาซะเลย โดยเฉพาะวิชาเลข เธอกำลังจะไปสอบเอ็นทรานซ์ด้วยความหวาดระแวงอย่างหนักว่าจะทำได้มั้ย เธอนึกภาวนาว่าอยากหนีออกไปจากสถานการณ์นี้ หนีไปไหนก็ได้ไกลๆ และแล้วฟ้าก็ดูเหมือนจะฟังคำร้องขอของเธอ เพราะในช่วงเวลาที่ฝนตกนั้นเอง เธอจับพลัดจับผลูหลุดข้ามมิติไปยังยุคโชซอนและได้เจอกับพระราชาอีโด (ยุนดูจุน วง Hightlight / BEAST) ผู้ซึ่งพยายามผลักดันให้วิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นที่ยอมรับ จางดันบีได้กลายเป็นอาจารย์จำเป็นของพระราชา แล้วก็ต้องทึ่งมากเมื่อความรู้ที่เธอคิดว่ามีน้อยนิดนั้นกลับช่วยประโยชน์พระราชาอย่างมาก ความผูกพันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างทั้งคู่ ในขณะเดียวกันกลุ่มข้าราชบริพารในวังก็หมายหัวเธอเพราะเล็งเห็นว่าเธออาจจะสามารถโค่นอำนาจพวกเขาได้

ก่อนอื่นเลย นี่เป็น 2 ชั่วโมงที่อบอุ่นมาก แม้จะเป็นมินิซีรีส์แต่อรรถรสคือไม่แพ้ซีรีส์ยาวๆ เลยนะ เผลอๆ อาจจะดีกว่าเพราะไม่ยืดเยื้อ เล่าเรื่องตรงเข้าประเด็น มีฉากหวานแหววค่อนข้างเยอะทีเดียว จึงเหมาะสำหรับสายฟินอย่างมาก ที่เราชอบคือพล็อตเรื่องที่มีการนำเสนอการนำความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหา อย่างปัญหาภัยแล้งที่เป็นประเด็นหลัก นอกจากนี้เนื้อเรื่องยังแทรกซึมประวัติศาสตร์เกาหลีเข้ามาด้วย เพราะพระราชาอีโดนั้นก็คือพระเจ้าเซจงมหาราช ผู้ประดิษฐ์อักษรเกาหลีนั่นเอง ซึ่งในซีรีส์ก็ได้มีเล่าถึงจุดนี้ด้วย เราชอบที่เนื้อเรื่องนำประวัติศาสตร์มาบิดนิดบิดหน่อยให้กลายเป็นพล็อตที่แปลกใหม่ได้ โดยการให้นางเอกที่มาจากโลกปัจจุบันเข้าไปมีส่วนในการร่วมสร้างอดีตที่เกิดขึ้นจริงๆ

สำหรับตัวนางเอกอย่างจางดันบีนั้น น่าจะเป็นภาพสะท้อนของเด็กหลายๆ คน โดยเฉพาะเด็กที่กำลังจะก้าวข้ามผ่านเส้นแบ่งสำคัญของชีวิต เช่น การสอบเข้าที่เรียน หรือแม้กระทั่งคนเรียนจบแล้วกำลังจะหาที่ทำงาน หลายคนก็จะรู้สึกกดดัน กลัวว่าจะทำไม่ได้ พอทำพลาดก็รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีประโยชน์กับโลกใบนี้ พอบอกผู้ใหญ่ว่ายังไม่รู้จะทำอะไรก็โดนเพ่งเล็ง ทำให้ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถไปกันใหญ่ ซึ่งมันทำให้เด็กเครียดและซึมเศร้ากันได้ง่ายๆ

การย้อนเวลาไปยังยุคโชซอน จึงเปรียบเสมือนการให้กำลังใจดันบีที่กำลังท้อแท้กับชีวิต ปลอบโยนเธอว่าจริงๆ แล้วเธอยังเป็นคนที่มีค่า มีประโยชน์ อย่างน้อยก็ในยุคโชซอนที่ยังไม่มีใครมีความรู้เท่าเธอ

นี่อาจจะเป็นสถานการณ์ที่อธิบายนิยามคำว่า “อยู่ให้ถูกที่จึงจะประสบความสำเร็จ”

ความรู้ของดันบีที่เธอคิดว่ามันช่างน้อยนิดในโลกปัจจุบันนั้นช่วยให้พระราชาได้ทำในสิ่งใหม่ๆ และได้แก้ไขปัญหาที่ประชาชนกำลังเผชิญ อีกอย่างคือการต้องเผชิญกับสถานการณ์สุดจะอิมโพรไวส์ต่างๆ นั้นมันก็พิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะไม่ได้เป็นคนเก่งกาจแต่ดันบีก็สามารถเอาตัวรอดได้ ซึ่งจริงๆ แล้วในชีวิตนี่อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด

Splash Splash Love จึงเหมาะสำหรับใครที่ไม่มีเวลามากแต่อยากดูซีรีส์เกาหลีให้ชุ่มชื่นหัวใจสักหน่อย หรือใครก็ตามที่กำลังรู้สึกดาวน์ๆ กับชีวิต อยากได้กำลังใจ อ่านรีวิวแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันฟังดูวิชาการแต่จริงๆ แล้วฟีลของซีรีส์คือน่ารักละมุนมาก มีฉากตลกหลายๆ ฉากที่ทำออกมาได้เป็นธรรมชาติ (ชอบมากโดยเฉพาะรีแอ็กชั่นเวลาตัวละครยุคโชซอนเห็นสิ่งของจากอนาคตที่นางเอกนำมาอวด เป็นมุกที่ดูกี่ทีๆ กี่เรื่องๆ ก็ตลก) นักแสดงคู่หลักเคมีเข้ากันได้ดี เราชอบนางเอกที่ฮาด้วยอินเนอร์สุดๆ ส่วนพระเอกก็ขรึมๆ แต่ตลกหน้าตาย ซึ่งมันทำให้ฉากระหว่างคู่นี้คือดีไปอีก ใครอยากเสพเนื้อหาเชิงประวัติศาสตร์แบบเบาๆ ไม่หนักมากก็สามารถดูได้ รู้เรื่องแน่นอน 🙂

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: