รีวิว Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016): ทบทวนก่อนไปดูภาค 2

หลายๆ คนตกใจเมื่อเราบอกว่ายังไม่ได้ดู Fantastic Beasts and Where to Find Them ซึ่งเป็นภาค 1 ในขณะที่ภาค 2 อย่าง The Crimes of Grindelwald เพิ่งเข้าโรงไปเอาจริงๆ แม้แต่เราก็ยังแปลกใจตัวเองว่าทำไมดองเรื่องนี้มานาน ในฐานะที่เป็น Potterhead คนหนึ่ง แกควรจะตามแฟรนไชส์นี้อย่างแนบชิดไม่ใช่รึ

อันที่จริงเราก็ไม่ได้นิ่งอยู่เฉย เพราะตอนที่ดูภาค 1 ในโรงไม่ทัน เราก็ไปหาหนังสือมาอ่านก่อน ซึ่งถ้าถามว่าสนุกไหม ก็ตอบได้ไม่เต็มปากแฮะ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ชินกับ Format การเล่าเรื่องแบบบทละครที่ใช้ในหนังสือ ไม่ใช่การเล่าเรื่องแบบนิยาย เวลาอ่านมันเลยงงนิดๆ เมื่อเจอศัพท์ภาพยนตร์ต่างๆ แทนที่จะเจอคำบรรยายให้เห็นภาพ อีกปัจจัยหนึ่งอาจเป็นเพราะเนื้อเรื่องมีความแฟนตาซี แต่พอเจอศัพท์ยากๆ และการบรรยายที่ไม่คุ้นเคย ก็ทำให้นึกภาพตามยาก เลยคิดว่าถ้าดูเป็นหนังน่าจะสนุกกว่า

วันนี้ฤกษ์งามยามดี หนึ่งวันก่อนจะไปดูภาค 2 ในโรงหนัง เราเลยกลับไปดูภาค 1 ซะให้เรียบร้อย ซึ่งจุดนี้แหละเราขอบคุณตัวเองที่อ่านหนังสือมาก่อน มันทำให้ดูหนังมีอรรถรสยิ่งขึ้นจริงๆ

Fantastic Beasts and Where to Find Them นี้เล่าเรื่องย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปีก่อนที่จะเกิดเรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ เป็นสมัยช่วงปี 1920 ซึ่งตัวเอกก็คือนิวท์ สคาแมนเดอร์ พ่อมดนักสัตว์วิเศษวิทยาผู้หลงใหลในการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์วิเศษ เขาเดินทางจากลอนดอนมานิวยอร์กเพื่อทำภารกิจบางอย่าง แต่แล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นเมื่อเขาเผลอสลับกระเป๋ากับเจคอบ มนุษย์คนหนึ่งที่เผลอเห็นเขาใช้เวทมนตร์โดยบังเอิญ กระเป๋านั้นไม่ใช่กระเป๋าเก็บเอกสารของใช้ส่วนตัว แต่เป็นกระเป๋าที่ไว้ใช้เก็บสัตว์วิเศษของนิวท์ คราวนี้เรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อสัตว์วิเศษหลายตัวหลุดออกมาจากกระเป๋า เพ่นพ่านไปทั่วนิวยอร์ก นิวท์ต้องร่วมมือกับเจคอบ ทิน่า มือปราบมารแห่งกระทรวงเวทมนตร์อเมริกา และควีนี่ น้องสาวของเธอ ในการตามสัตว์พวกนั้นกลับมา รวมถึงยังต้องรับมือกับพลังลึกลับแปลกประหลาดที่ทำลายบ้านเมืองแถมยังฆ่าคนอีก ซึ่งนิวท์มั่นใจว่าไม่ใช่ฝีมือสัตว์วิเศษแน่นอน

สำหรับคนที่เป็นแฟนแฮร์รี่อยู่แล้วนั้น เราว่าน่าจะชอบเรื่องนี้ เพราะหนังได้ทำการพาเราท่องไปในมุมมองอีกด้านหนึ่งของโลกเวทมนตร์ อย่างตอนแฮร์รี่นี่ก็จะเป็นฉากโรงเรียน บรรยากาศจะเด็กๆ หน่อยใช่มั้ย แต่ Fantastic Beasts นี่จะเป็นฟีลแบบวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่เลย เราจะได้เห็นระบบการทำงานของกระทรวงเวทมนตร์สหรัฐฯ การทำงานของมือปราบมาร ซึ่งมันก็จะซีเรียสกว่าเดิมนิดนึง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ทิ้งเวทมนตร์นะ กลับกันคือผู้ใหญ่ใช้เวทมนตร์กันกระจุยกระจายมาก เราได้เห็นการใช้เวทมนตร์นอกเหนือจากห้องเรียน ซึ่งมันก็น่าตื่นตาตื่นใจดี

อีกจุดที่ไม่ถูกถึงไม่ได้คือเหล่าสัตว์วิเศษที่ได้ซีจีสวยอลังมาเนรมิตให้มีชีวิต เอาจริงๆ ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้อินอะไรกับสัตว์วิเศษเท่าไร แต่พอมาเล่นเกม Harry Potter: Hogwarts Mystery เราก็เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตาพวกมันมากขึ้น ผ่านการเข้าคลาส Care for Magical Creatures และการใช้งานพวกมันในภารกิจต่างๆ พอมาดูหนังเรื่องนี้มันยิ่งทำให้อินมากขึ้น เพราะได้เห็นสัตว์ที่เราเห็นในเกม มีตัวตนขึ้นมาจริงๆ ไฮไลต์สุดๆ น่าจะอยู่ที่ตัวนิฟเฟลอร์ ตัวที่คลั่งไคล้สิ่งของวิบๆ วับๆ นั่นละ เจอกันบ่อยมากในเกม มาในหนังยังเป็นพระเอกอีก

หนังยังบอกเล่าถึงความแตกต่างระหว่างสังคมเวทมนตร์ของอเมริกาและอังกฤษได้ชัดดี อาจจะเพราะช่วงเวลาที่ห่างกันมากๆ ด้วย เราจะได้เห็นว่าในหนังเรื่องนี้ พ่อมดแม่มดต่างหวาดกลัวมนุษย์ ไม่กล้าเปิดเผยตัวตน กฎหมายก็ดุดันมากๆ คือห้ามพ่อมดแม่มดมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้นกับมนุษย์ แต่งงานกันก็ไม่ได้ ไม่เหมือนในยุโรปสมัยแฮร์รี่ ที่ปลูกฝังพ่อมดแม่มดให้มองมนุษย์เหมือนเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่งแทนที่จะเป็นตัวตลกหรือสิ่งมีชีวิตที่ด้อยกว่า มนุษย์กับพ่อมดแม่มดสามารถแต่งงานกันได้ ความแตกต่างนี้อาจจะมีจุดเกี่ยวเนื่องมาจากเหตุการณ์ล่าแม่มด Salem Witch Trials ในอเมริกา ช่วงปี 1690 รึเปล่า แม้ว่าจะผ่านมาหลายร้อยปีแต่ชาวเวทย์ในอเมริกาก็ยังหวาดกลัวการเปิดเผยตน เรายังจะเห็นได้จากหนังว่ามีกลุ่ม Second Salem ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านพ่อมดแม่มดเกิดขึ้นด้วย

ไหนๆ หนังก็ฉายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราขอสรุปหัวใจหลักของเรื่องเลยละกันว่ามีอะไรที่น่าติดตามในภาค 2

เราจะเห็นว่าในตอนจบของภาค 1 พ่อมดกรินเดลวัลด์ที่ปลอมตัวเป็นมิสเตอร์เกรฟ ได้ถูกกระทรวงเวทมนตร์อเมริกาคุมตัวไป กรินเดลวัลด์มีแผนการที่จะปลุกระดมให้พ่อมดแม่มดเลิกแอบซ่อนตัว แล้วประกาศความเป็นใหญ่ต่อมนุษย์ซะ เพราะเอาเข้าจริงมันก็ไม่เมกเซ้นส์เลยเนอะว่าทำไมเหล่าพ่อมดแม่มดจะต้องกลัวมนุษย์ พลังก็มีมากกว่า เอาชนะมนุษย์ได้สบายๆ อยู่แล้ว แต่ทางการเวทมนตร์เค้าก็อยากรักษาความสงบไง ไม่อยากให้แตกแยกกัน ต่างคนต่างอยู่นั่นแหละดีแล้ว สำหรับภาค 2 ดูจากชื่อเรื่องก็รู้เลยว่าประเด็นของกรินเดลวัลด์น่าจะมาแน่

อ้าว แล้วสัตว์วิเศษจะมีบทบาทอะไรมั้ย? อันนี้ก็น่าติดตามว่านิวท์จะใช้สัตว์วิเศษของเขามาช่วยอะไรในภารกิจล่ากรินเดลวาลด์บ้าง จากตัวอย่างหนังเราแอบรู้สึกว่าหนังไม่ได้เน้นขายสัตว์วิเศษเท่าไร แต่ชื่อหนังมันคือสัตว์วิเศษ ฉะนั้นมันต้องมีบ้างแหละ แล้วตัวเงาดำ Obscurus จากภาคแรกจะปรากฏตัวอีกรอบมั้ย? เพราะตอนจบภาค 1 เราจะเห็นว่ามีเศษเสี้ยวของเงาดำหลุดรอดออกไป ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอกันอีกในภาค 2

มีอีกหลายๆ ตัวละครที่น่าติดตามว่าจะมีการเฉลยเพิ่มเติมในภาค 2 มั้ย เช่น Leta Lestrange สาวคนสนิท (?) ของนิวท์ ที่นิวท์ดูเหมือนจะไม่อยากพูดถึงเท่าไร เธอคนนี้น่าจะมาโผล่ในภาค 2 นะเท่าที่เห็น ไหนจะพี่ชายนิวท์ ไหนจะนากินีที่กลายเป็นสาวสวย (งงมาก) ไหนจะดัมเบิลดอร์เวอร์ชั่นหนุ่ม แล้วไหนจะเจคอบที่ดูเหมือนจะโผล่มาในภาค 2 ด้วย คือโผล่มาอีกรอบได้ยังไงนิ แล้วความสัมพันธ์ของเขากับควีนี่เป็นยังไงบ้าง

เราคิดว่าทุกอย่างคงเคลียร์ขึ้นเมื่อได้ดูภาค 2 ซึ่งพอดูจบแล้วเดี๋ยวจะกลับมาเขียนบันทึกอีกที ^^

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: