รีวิว The House with a Clock in Its Walls (2018): ตามหาเสียงนาฬิกาปริศนาในบ้านเวทมนตร์

เห็นตัวอย่างหนัง The House with a Clock in Its Walls ครั้งแรกแล้วปิ๊งเลย เพราะนอกจากเราจะชอบหนังทริลเลอร์แล้ว เรายังชอบหนังแฟนตาซีแนวเวทมนตร์ด้วย เอา Harry Potter ที่ดู+อ่านทั้ง 7 ภาคมาเป็นประกันเลย

The House with a Clock in Its Walls เริ่มเรื่องในปี 1955 เมื่อลูอิส เด็กชายวัย 10 ขวบต้องกำพร้าพ่อแม่ โจนาธาน ลุงของเขาจึงชวนเขามาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังใหญ่แลดูอลังการเหมือนบ้านผีสิง ซึ่งลูอิสก็ได้ค้นพบทีหลังว่าบ้านนี้มันไม่ธรรมดา เพราะเต็มไปด้วยเวทมนตร์ต่างๆ เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นก็มีชีวิต นอกจากนี้เขาก็ได้รู้ว่าแท้จริงโจนาธาน ลุงของเขาคือ Warlock หรือก็คือพ่อมดนั่นเอง และบ้านหลังนี้ก็เคยเป็นบ้านของ Warlock คนหนึ่งมาก่อน ซึ่ง Warlock ผู้นี้ไม่ใช่คนดี และได้ทำการฝังนาฬิกาปริศนาไว้ในผนังบ้าน ณ ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน นาฬิกานี้จะส่งเสียงติ๊กต่อกดังลั่นอยู่เรื่อยๆ และโจนาธานรู้ว่านาฬิกานี้ต้องไม่ใช่อะไรที่ดีแน่ เขาจึงต้องร่วมมือกับลูอิส และฟลอเรนซ์ ซิมเมอร์แมน แม่มดเพื่อนบ้าน ในการตามหานาฬิกานั้นก่อนที่มันจะแผลงฤทธิ์

อย่างแรกที่ขออวยก่อนเลยคือเอฟเฟ็กต์ที่สวยงามตระการตามาก ตัวบ้านแลดูโอ่โถง ยิ่งใหญ่ ดูน่าค้นหาไปซะทุกซอกทุกมุม มุมที่ดูมืดๆ ก็คือดูหลอนจริง (โดยเฉพาะห้องที่รวมรูปปั้นน่ะ เอามาแปลงเป็นหนังผีได้เลย) ส่วนฉากเวทมนตร์หลายๆ ฉากก็ดูสวยงาม ทำได้ดี แค่ไปดูเอฟเฟ็กต์เราว่าก็คุ้มค่าแล้ว

ในส่วนของเนื้อเรื่อง เป็นการดำเนินเรื่องแบบหนังแฟนตาซีเด็กเลยละ เราว่ามันค่อนข้างกระชับดี ทุกฉากทุกตอนดูมีความน่าสนใจ ไม่ยืดเยื้อ พล็อตเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก บางจุดอาจจะพอเดากันได้ ไม่ได้มีปมเยอะ (ก็หนังเด็กนี่นะ) แต่ก็ยังถือว่าดูได้สนุก มีหักมุมนิดๆ หน่อยๆ ตอนท้ายให้เซอร์ไพรส์เล่นๆ มีมุกตลกหยอดมาเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นมุกที่ขำลั่น แต่ก็พออมยิ้มได้ ใครที่อยากพาเด็กมาดูก็สามารถมาดูเรื่องนี้ได้สบายๆ (เพราะฉากที่รุนแรงสุดในหนังน่าจะเป็นการระเบิดฟักทอง)

สำหรับนักแสดง โอ้โหไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย ระดับ Jack Black และ Cate Blanchett เอาอยู่อยู่แล้ว พี่แจ็คในบทโจนาธานก็ดูเป็นผู้ปกครองในอุดมคติจริงๆ ไม่เข้มงวด ดุแต่เมื่อเห็นสมควร ยอมให้เด็กมีอิสระ แถมยังมีอารมณ์ขันซึ่งเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้สำหรับพี่แจ็ค แอ็กติ้งคือได้หมดจริงๆ ส่วนแม่เคทในบทมิสซิมเมอร์แมน แม่มดมือฉกาจ ก็เล่นได้ดีมาก ดูสง่าสุดๆ และต่อปากต่อคำกับโจนาธานได้อย่างถึงพริกถึงขิง เราชอบตอนสองคนนี้เค้าจิกกัดกัน คือรู้เลยว่าสนิทกันขนาดไหน ดูแล้วอบอุ่นดี… อีกคนที่ขาดไม่ได้คือน้อง Owen Vaccaro ในบทลูอิส เด็กชายที่เพิ่งเสียพ่อแม่มาหยกๆ น้องแสดงได้ดีมาก ท่าทางอารมณ์ออกมาชัดเจน น่าเอ็นดูค่อดๆ แล้วบทบาทก็ช่วยส่งให้น้องเด่นคู่ไปกับนักแสดงรุ่นใหญ่เลยละ

จุดที่ยังรู้สึกว่าโหว่ไปนิดคือความเป็นเวทมนตร์ของเรื่องนี้ ซึ่งเราว่ามันยังสามารถขยี้ได้อีกมาก ในแง่ของพ่อมดแม่มดที่ใช้เวทมนตร์น่ะ (ในส่วนของบ้าน เราว่าโอเคแล้ว) เรารู้สึกว่าเวทมนตร์ที่ตัวละครใช้ในเรื่องนี้มันยังดูเป็นพระรองไปหน่อย ดูไม่ค่อยมีเอกลักษณ์เท่าไร เหมือนใส่มาประกอบบ้านเวทมนตร์มากกว่า เป็นไปได้ว่าตัวหนังอยากให้ไปโฟกัสที่บ้านมากกว่าเวทมนตร์ที่ตัวละครใช้น่ะนะ อีกจุดที่น่าเสียดายนิดๆ คือการที่หนังไม่ได้ไฮไลท์ให้มิสซิมเมอร์แมนเป็นแม่มดที่โคตรเก่งสมคำเยินยอของโจนาธาน เราแอบรู้สึกว่าเหมือนมิสซิมเมอร์แมนจะไม่ได้แสดงฤทธิ์เดชเท่าที่ควร ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดปากเปล่าซะมากกว่า ซึ่งก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไม จากปมที่หนังหยอดเข้ามา แต่มันจะดีมากถ้าเราได้เห็นนางร่ายเวทย์โหดๆ มากกว่านี้ เพราะตัวละครถูกปูทางมาแบบชัดจริงๆ

แต่โดยรวมแล้ว The House with a Clock in Its Walls ก็เป็นหนังแฟนตาซีเวทมนตร์ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี แต่ผู้ใหญ่ก็อย่าไปคาดหวังว่ามันจะต้องเล่นใหญ่ เดาปมไม่ถูกละกัน เรียกว่าไปดูเอาสนุก เอาเพลินเลย เรื่องนี้จะมีกลิ่นอาย Harry Potter ติดมาหน่อยๆ แต่ไม่ทั้งหมด หลักๆ น่าจะเหมือนตรงความอลังของโลเกชั่นนี่ละ ถ้าใครชอบหนังแฟนตาซีดูง่าย พล็อตมีความเป็นเด็ก ไม่ดราม่า ก็แนะนำให้ไปดู 🙂

ป.ล. ใครสนใจอยากลองเข้าไปทัวร์บ้านเวทมนตร์ก่อนตัดสินใจตีตั๋ว สามารถเข้าไปชมตัวอย่างบ้านได้ที่ https://www.housewithaclock.com/ นะ