กลับมาให้หายคิดถึงกันอีกครั้งสำหรับซีรีส์ไซไฟซีจีจึ้งอย่าง Love, Death and Robots ครั้งนี้ Volume 4 ขนมาให้รับชมกัน 10 ตอน โพสนี้เลยขอมาบันทึกความประทับใจและรีวิวคร่าว ๆ หน่อย
*หมายเหตุ แต่ละตอนอาจปรากฏเรียงไม่เหมือนกัน อย่างเราช่วงแรก ๆ ก็ขึ้นลิสต์ตามนี้ แต่วันสุดท้ายที่ดู ลิสต์ตอนสลับกันเฉย แต่ก็เป็นปกติของซีรีส์นี้แหละ ดูตอนไหนก่อนก็ได้
Can’t Stop

เปิดตอนมาก็แปลกใจปนเซอร์ไพรส์ที่หนึ่งในเพลงที่ฟังบ่อยอย่าง Can’t Stop ของ Red Hot Chili Peppers ผุดขึ้นมา ในตอนนี้จะเป็นการนำเสนอคอนเสิร์ตในรูปแบบอนิเมชันที่แต่ละคนเป็นหุ่นชัก ออกมาร้องเพลงเล่นดนตรีกับกลุ่มแฟน ๆ ที่มาเฮ้วกันเต็มสถานที่
ส่วนตัวเนื่องจากคุ้นเคยกับเพลงอยู่แล้วเลยดูได้แบบจอย ๆ แต่คิดว่าถ้าใครไม่รู้จักเพลง วง หรือไม่อิน อาจจะดูแล้วรู้สึกเฉย ๆ เพราะมันก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าการนำคอนเสิร์ตมาปรับเป็นรูปแบบอนิเมชัน
Close Encounters of the Mini Kind

เล่นกับพล็อตเอเลี่ยนบุกโลก เมื่อเอเลี่ยนมาแบบสันติแต่มนุษย์กลับจู่โจม ทำให้เอเลี่ยนแก้แค้นด้วยการทำลายล้างโลกซะเลย
ตอนนี้จะมีความคล้าย ๆ กับตอนของซีซั่นก่อนอย่าง Night Of The Mini Dead คือนำเสนอเรื่องราวฉบับย่อส่วนที่ทุกอย่างดูมินิไปหมด เส้นเรื่องก็มีความคล้ายเดิมคือเกิดวิบัติทั่วโลกจนสุดท้ายต้องระเบิดโลกทิ้ง และเมื่อมองในระดับอวกาศ การที่โลกกลายเป็นหลุมดำทำลายตัวเองและดาวใกล้เคียงนั้นเล็กน้อยมาก เสียงระเบิดเปรียบได้กับเสียงตดของอวกาศเท่านั้น ตลกร้ายดี
Spider Rose

สำหรับตอนนี้เป็นจักรวาลเดียวกับตอน Swarm ใน Volume 3 ดูแวบแรกจึงรู้สึกคุ้นเคยกับฉากและซีจีประมาณนี้ เล่าเรื่องของนางเอกที่อยู่คนเดียวในอวกาศเพราะสูญเสียสามีไปจากการบุกล่าของศัตรู จนวันหนึ่งได้รับข้อเสนอเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเอเลี่ยนเด็ก ทำให้เธอเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง
ตอนนี้จะมีความอบอุ่น ๆ ซึ้ง ๆ นิดนึง เพราะเล่าถึงความเหงา ความโศกเศร้าที่สูญเสียคนรัก และการได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความดาร์ก ๆ และฉากบู๊ที่น่าติดตาม แต่ตอนจบรู้สึกว่าตัดห้วน ๆ ไปนิดนึง
400 Boys

เรื่องราวของวันสิ้นโลก เมื่อกลุ่มแก๊งต่าง ๆ ต้องมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับแก๊งใหม่อย่าง 400 Boys ที่ทำลายเมืองซะย่อยยับ
ตอนนี้ดูแล้วให้อารมณ์เหมือนดู Attack on Titan ยังไงชอบกล ทั้งฉากที่คนตัวเล็กต้องสู้กับปีศาจทารกตัวโต คอยเฉือนเนื้อเฉือนหัว ฉากบู๊ก็มันส์สะใจดี หนังเล่าเรื่องแบบเส้นตรงไม่ซับซ้อน
The Other Large Thing

ตอนที่ทาสแมวรอคอย เรื่องราวของแมวที่วางแผนจะครองโลก ได้ร่วมมือกับหุ่นยนต์บ้านที่เจ้าของบ้านซื้อมาใหม่ กลายเป็นคู่หูพันธมิตรสุดแปลกที่พร้อมจะออกไปปลุกปั่นแมวและหุ่นยนต์บ้านอื่น ๆ
เป็นตอนสั้น ๆ เน้นความบันเทิง เอ็นดูน้องแมวหน้าตาเหมือนฤาษีที่พยายามเก๊กเสียงเข้มและคิดวางแผนใหญ่โต เมื่อตัวคนเดียวทำอะไรไม่ได้ก็จับหุ่นยนต์หน้าใหม่มาเป็นคนรับใช้ซะเลย เจ้าหุ่นยนต์ก็เปลี่ยนความภักดีไวมาก จากเซอร์วิสมนุษย์กลายเป็นเซอร์วิสแมวเฉย แอบอยากเห็นภาคต่อของตอนนี้เหมือนกัน ท่าจะบันเทิง
Golgotha

เป็นหนึ่งในไม่กี่ตอนของซีรีส์ที่ใช้คนแสดงจริง เล่าถึงการพบปะกันระหว่างนักบวชกับเอเลี่ยนที่เชื่อว่าพระเจ้าของพวกเขากลับมาเกิดใหม่เป็นปลาโลมา (?)
เป็นตอนที่สั้น ๆ งง ๆ อาจจะต้องดูซ้ำอีกรอบเพื่อทำความเข้าใจบทสนทนาระหว่าง 2 ตัวละครให้มากขึ้น ตอนจบก็แอบรู้สึกว่าตัดฉับแบบห้วน ๆ อยู่เหมือนกัน แบบ อะไรนะ ยังไม่เข้าใจอะไรเลย จบแล้วเรอะ 555
The Screaming of the Tyrannosaur

เล่าเรื่องเกี่ยวกับการประชันความแข็งแกร่งบนอวกาศ มีคนดูเป็นคนรวยชั้นสูงส่ง ส่วนผู้เล่นเกมคือเหล่านักรบและไดโนเสาร์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม
เป็นตอนที่ทำให้นึกถึง Hunger Games เบา ๆ ความน่าสนใจของตอนนี้อยู่ตรงที่การผสมผสานกันระหว่างความไฮเทคกับความโบราณ โลเคชันอยู่บนอวกาศก็จริงแต่ก็จำลองมาจากโคลอสเซียม ที่มีเหล่า gladiator ลงสนามเพื่อแข่งขันและเอาชีวิตรอด เป็นตอนที่เลือดสาดอยู่แต่ก็สะใจดี
How Zeke Got Religion

เรื่องราวของทีมทหารในสงครามโลกที่มีภารกิจทิ้งระเบิดใส่โบสถ์ที่กำลังพิธีปลุกปีศาจ แต่แล้วก็ต้องเผชิญกับปีศาจที่ตามมาฆ่าล้างพวกเขาทีละคน
เป็นตอนที่รุนแรงเลือดพุ่ง ตายอนาถแบบไม่เซ็นเซอร์ความสยอง ความเข้มข้นทวีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกนาทีจริง ๆ ถ้าใครไม่ชินกับความรุนแรง น่าจะดูแล้วอึดอัดอยู่ เพราะงานภาพจัดเต็มความเถื่อนมาก
Smart Appliances, Stupid Owners

เรื่องราวแนวสารคดีของเครื่องใช้ในบ้านสุดล้ำที่ออกมาบ่นเจ้าของของตัวเอง ตั้งแต่แปรงสีฟันไฟฟ้า ไปจนถึงฝักบัวอัจฉริยะ แต่ละชิ้นออกมาเล่าเรื่องปั่น ๆ ที่ตนต้องเจอ
เป็นตอนที่เบาสมอง ดูไปขำไป เพราะพวกเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็เล่าแบบตรง ๆ ว่าเจออะไรบ้าง จิกกัดเจ้าของกันไป ชวนให้ทั้งขำและกุมหัวไปกับการแซะมนุษย์ ที่เราก็แก้ตัวไม่ได้ด้วย
For He Can Creep

เรื่องราวเกิดขึ้นที่ลอนดอนในปี 1757 เมื่อซาตานทำสัญญากับกวี ให้เขียนบทกลอนที่จะทำลายล้างโลกได้ แต่แน่นอนว่า แมวของนักกวีไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เกณฑ์รวมพลน้องแมวให้มาช่วยกับขับไล่ซาตานออกไป
เป็นตอนที่บันเทิงโดยเฉพาะถ้าเป็นทาสแมวด้วยแล้ว จะต้องขำไปกับบุคลิกที่แสนจะแม้วแมว ขนาดเผชิญหน้ากับซาตานก็ยังไม่กลัว เอากับเขาสิ! ตอนนี้จะผสมผสานความดาร์ก ๆ แบบย้อนยุคเข้ามาหน่อย แต่ก็ซอฟต์ลงเมื่อนำแมวมาเป็นองค์ประกอบด้วย
สรุป
ส่วนตัวคิดว่า Love, Death and Robots ซีซั่นนี้ ยังไม่ได้สุดเท่าซีซั่นก่อน ๆ พล็อตเรื่องในหลายตอนมีความตรง ๆ คาดเดาง่ายไปนิด และตัดจบแบบห้วน ๆ ไปหน่อย เทคนิคภาพก็ซ้ำ ๆ ไม่ได้มีอะไรใหม่ตื่นตาตื่นใจแล้ว เลยไม่ค่อยมีตอนที่ประทับใจมาก ๆ เท่าไรนัก แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นการกลับมาให้หายคิดถึงได้ดี สำหรับซีรีส์ไซไฟตัวโหดเรื่องนี้ค่ะ
Leave a comment