รีวิว ทิชา (2024): ภารกิจเอาแม่ผัวเข้าคุกของลูกสะใภ้

ช่วงนี้ซีรีส์ไทยมีหลายเรื่องท็อปฟอร์ม หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้น “ทิชา” ซีรีส์จากช่อง one ที่มาให้สตรีมบน Netflix ด้วย กับพล็อตแนวล้างแค้นฟาดฟันดราม่าเข้มข้น

จริง ๆ พล็อตของทิชาก็เป็นซีรีส์แนวตัวเอกตามล้างแค้น+แม่ผัวปะทะลูกสะใภ้นั่นแหละ แต่สิ่งที่ทำให้น่าสนใจมากขึ้นคือบริบทของความเป็นชาวต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาทำงานในเมืองไทยด้วยวิธีผิดกฏหมาย รวมถึงมีการพูดเกี่ยวกับเบื้องหลังวงจรเลวร้ายนี้ที่มีผู้ได้ผลประโยชน์บนความซวยของมนุษย์อยู่

เรื่องเริ่มต้นด้วยสองแม่ลูกซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวถูกลักลอบนำตัวเข้ามาแบบผิดกฏหมาย และถูกนำตัวให้ไปเป็นคนรับใช้บ้านของ “บุษรา” (ลูกเกด เมทินี) หญิงสาวผู้อยู่เบื้องหลังเอเย่นต์ค้ามนุษย์ดังกล่าว บุษราใช้งานและลงโทษ 2 แม่ลูกอย่างรุนแรงอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งถึงขั้นฆ่าผู้เป็นแม่ ส่วนลูก “อู่ยี่” หนีมาได้ก่อนจะถูกนำตัวไปต่อ หลายปีต่อมา อู่ยี่เติบโตและเปลี่ยนชื่อเป็น “ทิชา” (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อหาทางใกล้ชิด “พัดชัย” (พีช พชร) ลูกชายของบุษรา โดยหวังว่าพัดชัยจะเป็นสะพานเชื่อมเธอไปหาบุษราเพื่อทวงความยุติธรรมอีกครั้ง

ภาพรวมของซีรีส์

ทิชามีทั้งหมด 8 ตอน ตอนละประมาณ 40-55 นาที ซึ่งก็ถือว่ากำลังดี และด้วยความที่เนื้อหากระชับฉับไว ทำให้ดูเพลิน ๆ ได้แบบไม่เบื่อเลย รู้ตัวอีกทีก็จบตอนแบบค้างคาชวนให้กดตอนต่อไปซะแล้ว

ที่ชอบคือ เนื้อเรื่องแทบจะไม่มีจุดยืดเยื้อ ทุก ๆ ซีนมีความคืบหน้าของเนื้อเรื่องหมด ไม่มีฉาก flashback ให้รำคาญบ่อย ตัวละครมีความงัดกันไม่ยอมใคร ตัวเอกไม่ยอมถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียว แรงมาก็แรงกลับ ตรงนี้แหละที่ดูแล้วสะใจ

ในฝั่งของนักแสดง แทบไม่ต้องเป็นห่วงเลยเพราะเอาอยู่ทุกคน ทั้งใบเฟิร์นในบททิชาที่สามารถแสดงความแข็งนอกอ่อนในออกมาได้อย่างดี ซีนร้องไห้ชวนสะเทือนใจสุด ๆ ทั้งพี่ลูกเกดในบทบุษราที่เล่นได้ชวนเกลียดจริง ๆ แบบเลว 100% ไม่มีสีขาวมาปน ทั้งพีชในบทพัดชัยที่เล่นได้แบบกวน ๆ แต่ก็อบอุ่น และสุดท้ายที่ท็อปฟอร์มคือเซียงเซียงในบทพู่ เด็กสาวแรงงานต่างด้าวที่มาเป็นคนรับใช้ของบุษรา นอกจากจะต้องเลียนแบบการพูดติดสำเนียง ยังมีหลาย ๆ ซีนที่ท้าทายสุด ๆ แสดงให้ชวนให้สงสาร และชวนให้ลุ้นมากในตอนท้าย ๆ ยังไม่นับนักแสดงสมทบอีกหลาย ๆ คนที่ทำให้ซีรีส์ครบรสมากขึ้น

ถึงอย่างนั้น ซีรีส์ก็ยังมี plot hole อยู่บ้างบางจุด ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นความตั้งใจของซีรีส์รึเปล่า เช่นตอนจบที่ดูรวบรัดตัดตอน และการกระทำของตัวละครที่มีความไม่ค่อย make sense และไม่ฉลาดในบางสถานการณ์

แต่โดยรวม ๆ ก็ถือว่าทิชาเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ไทยที่เข้มข้น ดูแล้วไม่ค่อยด่าไประหว่างทาง สามารถเอ็นจอยไปกับเนื้อเรื่องได้ง่าย ๆ เลย

การแก้แค้น

ความสนุกของเรื่องนี้คือการได้เห็นทิชากับบุษราปะทะกันหลาย ๆ ครั้ง โดยเป้าหมายของทิชาก็ชัดเจนคือต้องการเปิดโปงการค้ามนุษย์ของแก๊งบุษรา เพราะไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก

อาจจะเถียงว่า มันไม่ได้มีแค่บุษราสักหน่อยที่ทำแบบนี้ ถึงจะโค่นบุษราไปได้ก็มีเจ้าอื่น ๆ อยู่ ซึ่งตรงนี้ซีรีส์ก็ address ได้ดีว่ามันก็ต้องมีนั่นแหละ แต่อย่างน้อยการได้ช่วยทำอะไรสักอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำเลย

ที่สำคัญ อีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนของทิชา ยังมีเรื่องของความแค้นที่บุษราฆ่าแม่ของตนด้วย จึงไม่แปลกที่ทิชาจะมุ่งเป้าไปที่บุษราตรง ๆ

การเชื่อมโยงระหว่างทิชาและบุษรานำมาซึ่งความเกี่ยวของกับบุคคลที่ 3 นั่นก็คือพัดชัยผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกโยงมาเกี่ยวแบบงง ๆ แต่กระนั้นก็เป็นไพ่เด็ดสำหรับทิชาและเป็นจุดอ่อนของบุษราพอดี การมีอยู่ของพัดชัดเลยช่วยคานอำนาจให้ทิชาสามารถข่มขู่บุษราได้บ้าง และทำให้บุษราแสดงความเป็นมนุษย์แม่ผู้อ่อนแอออกมาบ้าง

แน่นอนว่าตอนจบนั้นเป็นอะไรที่ไม่ถูกใจแม่ยกคู่ทิชาพัดชัยเลย ส่วนตัวเราคิดว่ามันน่าจะหาทางลงที่ดีกว่านี้ได้ถ้าบทตอนท้าย ๆ ไม่เอะอะให้บุษรากับทิชาฟาดฟันกันเป็นไคลแม็กซ์และดึงดราม่าจนเกิดความเสียหายที่ไม่จำเป็น แอบเดาไว้ว่าที่บทโยงมาถึงจุดนี้ก็เพื่อจะตอกย้ำเมสเสจที่ว่า “ความแค้นมันไม่ทำให้ใครได้อะไรไปทุกอย่าง” ที่ตัวละครชอบย้ำเหลือเกิน

แต่ถึงอย่างนั้นเราก็คิดว่าตอนจบมันหดหู่เกินไปหน่อย สำหรับคนดูที่ลุ้นและเชียร์ตัวหลักมานาน การจบแบบนี้เหมือนจะบอกว่าอย่าพยายามเลย ดูสิเกิดความสูญเสียไปขนาดไหน ได้ความยุติธรรมก็จริงแต่มีความสุขจริงเหรอ อะไรแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าจะกลมกล่อมกว่าหากไม่กดดราม่าไปสุด ให้ตัวร้ายได้สำนึกผิดและอับอายสักหน่อย และให้ตัวหลักได้มีความสุขกันสักหน่อย

เหยื่อ

เราคิดว่าการเล่นประเด็นแรงงานต่างด้าวเป็นจุดที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีความแตกต่างจากซีรีส์แก้แค้นเรื่องอื่น ๆ ตัวแทนของเหยื่อแรงงานต่างด้าวถูกถ่ายทอดชัดเจนผ่านตัวละคร “พู่” (เซียงเซียง พรสรวง) ที่ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่สามารถต่อต้านได้ ทิชาได้ยื่นมือเข้าไปช่วยพู่ แต่ขณะเดียวกันก็ใช้พู่เป็นเครื่องมือในการแฉขบวนการค้ามนุษย์เหมือนกัน ในหลาย ๆ ครั้งยังกุมขมับแทนว่าจะรอดเหรอพู่ เธอจะบู๊ไหวเรอะะะ

เชื่อว่าคนดูหลายคนน่าจะเทคะแนนความสงสารให้พู่แบบไม่กั๊ก เผลอ ๆ จะเอาใจช่วยมากกว่าทิชาที่ปั้นหน้าตึงพูดเสียงแข็งตลอดเวลาซะอีก ด้วยความที่พู่เป็นคนซื่อ ๆ ไม่กล้าสู้คน ถูกคนนู้นใช้ทีคนนี้ใช้ที เลยรู้สึกเห็นใจและเชียร์ตัวละครนี้สุด ๆ

และในตอนสุดท้าย พู่ก็ทำให้เราประทับใจกับซีน MVP ที่ถ่ายทอดความฟางเส้นสุดท้าย แบบกูไม่ทนละ คิดว่าเป็นอีกซีนที่สะใจมาก ๆ สำหรับซีรีส์เรื่องนี้เลย

สรุป

“ทิชา” เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่เราคิดว่าสร้างความสดใหม่ให้กับวงการซีรีส์ไทย ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นกระชับ ฟาดฟันกันแบบไม่มีใครยอมใคร และมีการพูดถึงประเด็นการค้ามนุษย์เพิ่มเติมมาอีก เสริมทัพด้วยนักแสดงแถวหน้าฝีมือโหด ๆ แค่ดูการแสดงก็คุ้มแล้ว แน่นอนว่าซีรีส์ก็ยังมีจุดที่เราไม่ชอบอยู่บ้างอยากให้ปรับเปลี่ยน แต่ก็ไม่ได้มองเป็นเรื่องใหญ่อะไร ในภาพรวมคิดว่าสามารถดูได้แบบบันเทิง ๆ เลยค่ะ

แปะสปอยล์ตอนจบ ขอซ่อนไว้ใครอยากอ่านลากแถบดำเอานะคะ

เริ่ม

.

.

.

.

.

จบ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Blog at WordPress.com.

Up ↑