The Frog หรือ “หากไม้ล้มในป่าลึก” เตะตาเราครั้งแรกด้วยภาพโปรโมตของนางเอก “โกมินชี” ที่เราคุ้นเคยดีจากซีรีส์เรื่อง Sweet Home
ต่อมาซีรีส์ก็เตะตาเราครั้งที่ 2 ด้วยตัวอย่างซีรีส์ที่แสดงให้เห็นถึงความ Thriller ของหนัง ซึ่งก็เป็นแนวที่เราชื่นชอบ
พอดูจบ ก็ค้นพบว่านี่เป็นอีกซีรีส์ที่รสชาติแปลกใหม่ดี มีอย่างที่ไหนฆาตกรกับเหยื่อนั่งร่วมโต๊ะอาหารคุยกันเสมือนเป็นเพื่อนร่วมทีม แต่พอลุกจากโต๊ะก็กลับไปฟาดฟันกันตามเดิม
เรื่องย่อ

The Frog เล่าเรื่องของ 2 ช่วงเวลา ช่วงเวลาแรกเล่าเกี่ยวกับโมเต็ลในป่าแห่งหนึ่งที่กิจการราบรื่นดี จนมีอยู่วันหนึ่งเผลอรับ จีฮยังชอล (ฮงกีจุน) ฆาตกรตัวฉกาจเข้ามาสร้างเหตุฆาตกรรมในโมเต็ล เมื่อแจ้งความและข่าวแพร่สะบัดออกไป ก็ทำให้โมเต็ลได้รับผลกระทบเชิงลบ จนต้องปิดตัวไปในที่สุด ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวตระกูลคู เจ้าของโมเต็ลที่ตกจากสวรรค์ในทันใด
ส่วนช่วงเวลาที่ 2 นั้นก็โลเคชันป่าเหมือนกัน แต่รอบนี้เป็นรีสอร์ต จอนยองฮา (คิมยุนซอก) ลุงเจ้าของรีสอร์ตได้เจอกับ ยูซอนอา (โกมินชี) แขกสาวท่าทางประหลาดที่มาพร้อมลูกชาย ทว่าวันต่อมามีเพียงยูซอนอาที่กลับออกไปพร้อมกระเป๋าเดินทาง ไร้ร่างของลูกชายที่ตามมา เมื่อพิจารณาจากสภาพภายในบ้านพัก ทำให้จอนยองฮาคาดเดาว่าเธอน่าจะฆ่าลูกในรีสอร์ตของเขา ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าแจ้งตำรวจเพราะกลัวว่าหากข่าวแพร่ออกไป รีสอร์ตก็จะได้รับผลกระทบและอาจต้องปิดกิจการ
หนึ่งปีต่อมา ยูซอนอากลับมาอีกครั้งโดยรอบนี้มีเป้าหมายคือมายึดครองรีสอร์ต ซึ่งนางก็ไม่ได้มาดี ๆ แต่ขนคำขู่และลูกไม้สารพัดมาต่อกรกับจอนยองฮา เกิดเป็นสงครามประสาทขนาดย่อม ๆ ระหว่างฆาตกรกับเหยื่อที่ต้องมาลุ้นกันว่าสุดท้ายใครจะชนะ
ภาพรวมของซีรีส์

ซีรีส์มีความยาว 8 ตอน ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมงบวกลบ ถือเป็นซีรีส์สั้น ๆ ที่จบในซีซันเดียวเลย
ในช่วงแรก ๆ ที่เราดูนั้น เราพบว่า 1-2 ตอนแรกการดำเนินเรื่องค่อนข้างอืดยืดพอสมควร ทำให้สงสัยนิด ๆ ว่าเค้าทำให้สนุกกว่านี้ไม่ได้เหรอ นี่มันแนวทริลเลอร์นะ ช่วยเร่งเครื่องหน่อยเซ่ แต่ช่วง 1-2 ตอนแรกคือเกือบหลับ บางช่วงก็ต้องกด pause ไว้แล้วค่อยกลับมาดูใหม่เพราะมันไม่ได้มีอะไรน่าติดตาม
เนื้อเรื่องเริ่มน่าสนใจและลุ้นขึ้นเมื่อเข้าสู่ตอนที่ 3 ซึ่งเป็นการคัมแบ็กของยูซอนอา และหลังจากตอนที่ 3 ขึ้นไปซีรีส์ก็ทวีความเดือดมากขึ้นแบบค่อย ๆ slow burn ไปทีละนิด รสชาติต่างจาก 1-2 ตอนแรกเลย แนะนำว่าให้อดทนหน่อย ช่วงหลัง ๆ จะสนุกขึ้นตามแบบฉบับหนังทริลเลอร์
จุดนึงที่ทำให้ซีรีส์ช่วงแรก ๆ มีความอึน คือเนื้อเรื่อง 2 ช่วงเวลานี่แหละ ตอนแรก ๆ เราจะยังงง ๆ ว่า 2 เนื้อเรื่องนี้มันเกี่ยวเนื่องกันยังไง ตัวละครใครเป็นใคร จะยังจับทางไม่ค่อยได้
แต่พอดูไปสักพักก็จะเริ่มรู้ละ เพราะหนังจะค่อย ๆ เฉลยบางจุดเชื่อมให้เห็นว่าทั้ง 2 เรื่องจริง ๆ มันก็คือ คนละเรื่องเดียวกัน นั่นเอง
ในฝั่งของนักแสดง จริง ๆ ทุกคนแสดงได้ดีมาก สมบทบาท แต่ที่อยากยกมงให้เป็นเดอะแบกของหนังสำหรับเราเลยคือ โกมินชี ในบท ยูซอนอา แขกสาวซึ่งเป็นฆาตกรโรคจิต มินชีเธอแสดงได้ชวนเชื่อมาก ทั้งเสียงทั้งหน้าตาทั้งท่าทาง ทุกอย่างลงตัวหมด
นี่ยังไม่นับภาพลักษณ์ความสวยเฉี่ยวที่บทนี้ยิ่งขับส่งให้เธอโดดเด่นมากขึ้นไปอีก ลบภาพสาวตัวมอมกระเซอะกระเซิงจาก Sweet Home ไปได้เลย 555
2 โรงแรม 2 ฆาตกร 2 เหยื่อ
ต่อจากนี้มีเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน

ซีรีส์เล่นกับ 2 ช่วงเวลาที่เผชิญเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน นั่นคือการมาเยือนของฆาตกรที่ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องได้รับผลกระทบแบบอยู่เฉย ๆ ก็ซวยได้
ซึ่งมันก็พ้องกับชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ อ่านเจอมาว่า ชื่อเรื่อง The Frog มาจากสำนวนเกาหลีที่ว่า กบอยู่เฉย ๆ แต่โชคร้ายต้องตายเพราะโดนหินเขวี้ยงใส่ ก็เปรียบเสมือนคนธรรมดา ๆ ที่เจอเหตุร้ายพุ่งเข้าใส่ ทำให้ชีวิตแปรผัน กลายเป็นเหยื่อ ทั้งที่จริง ๆ พวกเขาควรได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบแท้ ๆ
ในช่วงเวลาแรกที่เกิดขึ้นก่อนนั้น ตัวโมเต็ลก็ดำเนินกิจการสุขสงบดี ครอบครัวก็ใช้ชีวิตปกติ แต่พอเจอฆาตกรทำเรื่องเข้าไป ทุกอย่างก็พลิกหมด ต้องปิดกิจการ ไหนจะมี trauma เรื่องการฆาตกรรมอีก ลูกก็โดนเพื่อนแกล้ง ทั้งหมดส่งผลต่อแรงใจในการใช้ชีวิตและสุขภาพจิตของผู้เป็นพ่อแม่ ส่วน คูกีโฮ (พัคชานยอล) ลูกชายนั้นต่างออกไปตรงที่สะสมความแค้นเอาไว้รอสะสางกับฆาตกร
ในช่วงเวลาที่ 2 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นในอีก 20 กว่าปี ก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันกับรีสอร์ตของลุงจอนยองฮา คราวนี้ต่างกันที่ลุงไม่ปริปากบอกใคร เก็บงำความลับเรื่องฆาตกรรมไว้ แต่นั่นก็นำพาความซวยในอีกรูปแบบมาให้ลุงเหมือนกัน เพราะยูซอนอารู้จุดอ่อนของลุง เลยใช้จุดนี้มาขูดรีดสิ่งต่าง ๆ จากลุงต่อ
สำหรับเรา ทั้ง 2 พาร์ตได้รสชาติที่ต่างกัน พาร์ตแรกจะมีความหดหู่ เศร้าซึมมากกว่า ส่วนพาร์ตที่ 2 จะลุ้นและมันส์กว่า ถ้าถามว่าอันไหนสนุกกว่าก็ต้องตอบว่าพาร์ต 2 แหละ แต่ถ้าถามว่าพาร์ตไหนดาร์กและเรียล ก็คงเป็นพาร์ต 1 (พาร์ต 1 มีมันส์ขึ้นมาช่วงคูกีโฮไล่ฆ่าฆาตกรนั่นละ ใครรอดูพัคชานยอล น้องจะมาเด่นตอนท้าย ๆ หน่อย)
สิ่งเดียวที่เรารู้สึกขัดใจกับพาร์ต 2 คือ ตัวลุงจอนยองฮาที่ปะทะกับยูซอนอานั้นบุคลิกเนิบเนือยดูช้า ๆ แถมขี้ระแวงเกินทั้งที่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ซึ่งถ้าคิดตามจริงการที่ลุงเป็นผู้ชายยังไงก็ต้องสู้ไหว ถ้าไปท่าง่ายก็ใช้กำลังให้จบ ๆ ไปเลยก็ได้ หรือถ้าไม่ใช้กำลังก็ควร active ในการสู้รบปรบมือหน่อย แต่นี่ลุงก็ดูปล่อยจอยชิวๆ ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพื่อสู้เท่าไร มีตลบหลังพลิกแพลงนิดหน่อยแต่ก็นั่นแหละเรารู้สึกว่ามันยืดเยื้อไป
ในอีกมุมคิดว่าที่ลุงไม่กล้าทำอะไรคงเพราะเห็นว่าซอนอากุมความลับเรื่องฆาตกรรมในรีสอร์ตอยู่ละมั้ง และถ้าความลับนี้หลุดออกไป ลุงก็อาจจะซวยไปด้วยเพราะปกปิดมาเป็นปี
อีกจุดที่เชื่อม 2 ไทม์ไลน์ไว้คือบทบาทของตำรวจสายสืบ ยุนโบมิน (อีจองอึน, ฮายุนคยอง) ผู้ดำรงอยู่มาตั้งแต่สมัยยุคโมเต็ลยันยุครีสอร์ต (ก็คือลุยคดีตั้งแต่ยังเป็นสาว ๆ เลย) ในเรื่องเธอคนนี้จะได้ฉายาว่าโป้งแปะ แสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจในการสืบคดี
แต่เอาเข้าจริง เราเสียดายตรงที่บทของยุนโบมินยังแสดงออกมาให้ไม่เห็นได้มากเท่าที่ควรถึงฝีมือของเธอ เราคิดว่าพาร์ตของเธอเข้มข้นกว่านี้ได้อีก อันนี้รู้สึกว่ามันจางไปหน่อยและมีความ passive มากกว่า active ถ้าได้เห็นฝีมือเธอสืบคดีหาตัวคนร้ายจริงจังน่าจะมันส์ขึ้น
สงครามประสาท ฆาตกร VS เหยื่อ

ขอขยายมุมนี้เพิ่มสักหน่อย เราว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันของซีรีส์นะ นั่นก็คือการปะทะกันระหว่าง ลุงยอนฮา VS สาวซองอา
เป็น combination ที่แปลกดี คือเป็นลุงผู้ชาย VS หญิงสาว โดยฝั่งที่เป็นฆาตกรดันเป็นหญิงสาวซะอย่างนั้น
แวบแรกรู้สึกว่า เออ แปลกดี การที่ลุงตัวใหญ่กลายเป็นเหยื่อของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คือสมมติถ้าสลับบทสักหน่อย เป็นอาจุมม่า VS ฆาตกรหนุ่ม มันดูเรียลกว่าถ้าอาจุมม่าสู้ไม่ไหว แต่ก็อาจจะไม่ได้น่าสนใจเท่าไร
เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าบทยูซอนอา ฆาตกรสาวโรคจิต เป็นบทที่มีเสน่ห์มาก อาจเพราะด้วยความบ้าระห่ำแบบผู้ชายมาสิงสู่ในร่างของสาวสวยละมั้ง มันเลยเกิดเป็นภาพลักษณ์ที่ฉูดฉาดและชวนหลงใหลดี
และด้วยความสัมพันธ์ของลุงยอนฮากับสาวซอนอา ที่นอกจากจะเล่นเกมประสาทกันอยู่ ทั้งคู่ยังดำรงความสัมพันธ์เป็นเจ้าของรีสอร์ต VS แขกอีกด้วย เราจึงเห็นภาพที่ลุงยอนฮาเข้าไปในบ้านพักของซอนอา นั่งทานข้าวพูดคุยกันราวกับพักยก เป็นภาพที่ชวนให้ขบขันดี เมื่อกี้เพิ่งฟาดฟันกันสักพักมาซู้ดเส้นสปาเก็ตตี้ด้วยกันเฉย (แล้วตาลุงก็ยอมกินด้วยนะ)
หากไม้ล้มในป่าลึก…

วลีหนึ่งที่พูดย้ำบ่อยมากทุกตอนเหมือนเป็นคำขวัญประจำซีรีส์ คือการตั้งคำถามว่า หากไม้ล้มในป่าลึก มันจะเกิดเสียงดังสนั่น หรือเงียบสงัดกันแน่
เราคิดว่านี่เป็นการเปรียบเทียบคดีของทั้ง 2 ยุค ในเคสของโมเต็ลนั้น ไม้ล้มทีเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่ว ทุกคนรู้ถึงเหตุการณ์หมด
แต่ในเคสของรีสอร์ตนั้น เป็นไม้ที่ล้มแบบเงียบ ๆ แทบไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่รีสอร์ต ทั้งที่ความเดือดนั้นพอ ๆ กัน (หรืออาจจะมากกว่า) เคสแรกด้วยซ้ำ
คำตอบจึงเป็นได้ทั้ง 2 แบบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และรีแอ็กชั่นของผู้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ซีรีส์ก็ไม่ได้ตัดสินนั้นว่าวิธีไหนถูกผิด มันไม่ได้มีคำตอบตายตัว เพราะเห็นอยู่ว่าทั้ง 2 วิธีนั้นก็นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปด้วยกันทั้งคู่
สรุป
The Frog เป็นซีรีส์แนว Thriller ที่ดูตอนแรก ๆ อาจจะชวนง่วงไปสักหน่อย แต่ขอให้อดทนและสักพักมันจะดีขึ้น โดยซีรีส์จะดำเนินเรื่องแบบ slow burn เหมือนน้ำต้มที่ค่อย ๆ ร้อนขึ้นจนไปถึงจุดเดือดช่วงท้าย ๆ ที่ปะทุเป็นภูเขาไฟระเบิด ลุ้นกันสุด ๆ ว่าจะจบยังไง ใครชอบแนวนี้ลองแวบไปดูกันได้ค่ะ
ข้างล่างนี้เป็นสปอยตอนจบสั้น ๆ ใครอยากอ่าน ลากแถบดำเอานะ
เริ่ม
- ตอนจบ ซอนอาตาย โดนผัวเก่ายิง
- จอนยองฮาย้ายไปอยู่กับลูกที่โซล ปิดกิจการรีสอร์ตไป
- คูกีฮุนล้างแค้นด้วยการฆ่าจีฮยังชอลได้สำเร็จ และเหมือนจะผูกมิตรกับจอนยองฮาในตอนท้าย
จบ
Leave a comment