Hot Stove League เห็นหน้าซีรีส์ครั้งแรกก็คิดว่า… อาจจะไม่ใช่แนวของเรา เพราะไม่ได้โปรดปรานซีรีส์กีฬามาแต่ไหนแต่ไร
ถึงอย่างนั้นพอเห็นรีวิวดี ๆ หลายที่ก็อดใจไม่ไหว เอาล่ะลองดูสักหน่อย เปิดดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไร
ปรากฏว่า มันเกินคาดละทุกคน ซีรีส์สนุกตั้งแต่ตอนแรก และคงความเข้มข้นได้จนตอนสุดท้าย แทบจะไม่ดร็อปเลยระหว่างทาง
เรื่องย่อ
Hot Stove League เล่าเกี่ยวกับทีมดรีมส์ (Dreams) ทีมเบสบอลที่เคยรุ่งเรืองในอดีต แต่ปัจจุบันคงตำแหน่งบ๊วยมาหลายปี Performance ตกลงมาก ทางทีมเลยจ้างผู้จัดการทั่วไปคนใหม่มา นั่นก็คือพระเอกของเรา แพ็กซึงซู (Namkoong Min) เพื่อให้มาบริหารทีมที่กำลังเผชิญขาลง แพ็กซึงซูจะต้องเข้ามาจัดการปัญหาต่าง ๆ ของทีมดรีมส์ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วเป็นปัญหาภายในซะเยอะ
ซีรีส์มี 16 ตอน แต่ละตอนประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นความยาวมาตรฐานของซีรีส์เกาหลีแหละ ซึ่งแต่ละตอนก็ต้องชมเลยว่าเล่าเรื่องได้สนุก เข้มข้น น่าติดตาม พอจบตอนนึงก็อยากกดดูต่อเลย มันค้างคาสุด ๆ
เบื้องหลังวงการกีฬาที่ฉากหลังไม่ได้สวยหรูเหมือนฉากหน้า

ซีรีส์ตีแผ่เบื้องหลังวงการกีฬาที่ฉากหลังไม่ได้สวยหรูเหมือนฉากหน้า มีประเด็นมากมายที่แพ็กซึงซูจะต้องเผชิญ เช่น การรับสินบน การใช้ยาเพื่อเสริมกำลังของนักกีฬา การแลกตัวนักกีฬาที่ต้องต่อรองกันอย่างดุเดือด การเฟ้นหานักกีฬาคนใหม่ ๆ มาร่วมทีมเพื่อให้ทีมแกร่งขึ้น การเจรจาค่าตัวนักกีฬา ไปจนถึงตบตีกับบอร์ดบริหารที่ทำตัวหัวค-ยไม่เคยซัพพอร์ตอะไรทีมเลย เป็นต้น
ผู้จัดการสายโหด พร้อมถอนรากถอนโคนวัชพืชในองค์กร

ความสนุกคือ บุคลิกของแพ็กซึงซูนั้นเป็นผู้ชายที่เคร่งขรึม เข้มงวด เอาจริงเอาจัง เย็นชา ยอมหักไม่ยอมงอ พร้อมปะทะ พร้อมบู๊ พร้อมถอนรากถอนโคนอะไรก็ตามที่ถ่วงความเจริญหรือผิดต่อศีลธรรม ว่าง่าย ๆ คือเป็นคนที่ทำงานเก่งมากแต่มนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานค่อนไปทางติดลบ (ทะเลาะกับหัวหน้าเป็นว่าเล่น) การตัดสินใจแต่ละอย่างของเฮียแกก็ตรงไปตรงมา ดูจะ aggressive จนช่วงแรกหลายคนไม่เข้าใจและต่อต้าน
เราเองระหว่างดูก็จะลุ้นตามไปด้วยว่าแพ็กซึงซูจะตัดสินใจยังไง เนื้อเรื่องจะไม่เฉลยเหตุผลของการกระทำนั้นทันทีแต่ให้ติดตามกันเอาเอง ซึ่งพอเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ แพ็กซึงซูก็ได้พิสูจน์ว่าเขาเก่งจริง มีไหวพริบ สามารถพัฒนาทีมได้จริง เมื่อเห็นหลักฐานเช่นนั้นทีมงานก็เริ่มเชิดชูเขา และถึงขนาดปกป้องเขาในที่สุด
จริง ๆ จะบอกว่าแพ็กซึงซูนี่เป็นคนที่เหมาะกับองค์กรที่เน้น performance-based เป็นหลักเลย เพราะพี่แกมองเป้าหมายเป็นหลัก ทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ประสบความสำเร็จ (ตราบใดที่ไม่ผิดกฏเกณฑ์) ซึ่งบางวิธีก็อาจจะเป็นการหักหน้าคนนู้นคนนี้บ้าง พี่แกจึงไม่ได้เหมาะกับทุกองค์กร ยิ่งถ้าเป็นองค์กรที่ใส่ใจกับความสัมพันธ์หรือความอยู่เย็นเป็นสุขของพนักงาน พี่แกอาจจะไม่สามารถอยู่รอดได้
ทีมเวิร์กคือหัวใจหลักของความสำเร็จ

อีกสิ่งหนึ่งที่ซีรีส์ชูมาก ๆ คือพลังของทีมเวิร์ก ทั้งในฝั่งของเบสบอลที่ผู้เล่นจะต้องประสานหน้าที่กัน ในส่วนของหลังบ้าน ทีมบริหารเองก็ต้องเป็นหนึ่งเดียวกันเช่นกัน
เมื่อทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันว่าอยากคว้าแชมป์ และทุกคนเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ แต่ละทีมก็พร้อมที่จะลุยในแบบของตัวเอง ซึ่งเราว่าไวบ์การทำงานแบบนี้มันดีมาก ๆ ดูแล้วฮึกเหิมตามไปด้วยเลย
แพ็กซึงซูก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้เกิดปรากฏการณ์นี้ เพราะก่อนหน้านี้ทีมงานแต่ละคนก็ทำงานไปวัน ๆ ไม่มีแสงแห่งความหวังอะไร แต่พอคุณพี่แพ็กมา ก็เริ่มเห็นความเป็นไปได้ของชัยชนะทีละนิด ๆ ทีนี้พอทุกคนมีหวัง มันก็มีแรงเดินไปได้ต่อ
อย่าปิดกั้นเพียงเพราะเป็นเบสบอล

หลายคน (รวมถึงเรา) ตอนแรกเห็นเรื่องนี้ก็ไม่ชัวร์ว่าควรจะดูไหม ดูแล้วจะอินเหรอ ไม่ได้ชอบเบสบอลอะ กลัวดูไม่รู้เรื่องด้วย
แต่เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เราขอคอนเฟิร์มในฐานะคนที่ไม่ได้อินกับเบสบอลว่า ดูแล้วสนุกแน่นอน
นั่นเพราะเนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ฉากหลังของทีมเบสบอล การบริหารทีม การแก้ไขปัญหา อะไรแบบนี้มากกว่าตัวการแข่งกีฬา เอาเข้าจริงในซีรีส์แทบไม่มีฉากแข่งเบสบอลกันแบบจริง ๆ จังๆ มากเท่าไรเลย เนื่องด้วยเพราะช่วงเวลาของซีรีส์นั้นเป็นช่วงฤดูหนาวที่ไม่ได้มีการแข่งขัน เป็นช่วงที่เน้นการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งในฤดูถัดไป จึงจะไปโฟกัสเรื่องวางกลยุทธ์มากกว่า
ซึ่งตรงนี้แหละเป็นอะไรที่มันส์ เราจะได้เห็นแพ็กซึงซูชิงไหวชิงพริบกับชาวบ้าน ฟาดฟันกันในเชิงธุรกิจ พอซีรีส์มานำเสนอมุมนี้ มันก็มีความเป็น universal ขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น ยังคิดเลยว่ามันไม่ได้เป็นซีรีส์กีฬา แต่เป็นซีรีส์ธุรกิจชัด ๆ เพียงแค่บริบทเป็นทีมเบสบอลก็เท่านั้นเอง
นักแสดงขั้นเทพ

ไม่อวยไม่ได้เลย… กับบทบาทของแพ็กซึงซูที่แสดงโดยคุณนัมกุงมิน เอาจริงเราเพิ่งเคยดูซีรีส์ของเขาเรื่องนี้เรื่องแรกเลย แล้วก็ประทับใจมากเพราะพี่แกแสดงได้ดีมาก
ดีในแง่นี้คือ ทำให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละครแพ็กซึงซู ทั้งเอาใจช่วย ทั้งหมั่นไส้ ทั้งเอ็นดู ทั้งสงสาร หลายอารมณ์มาก 555 คือทำให้เชื่อในตัวละครนี้จริง ๆ
นอกจากความกวน ๆ หน้ามึน เย็นชา ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ ที่คุณนัมกุงมินถ่ายทอดได้ดีแล้ว ลึก ๆ ยังมีความอ่อนไหว อ่อนแอ ปมเศร้าที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสีหน้าแววตา ทำให้เราสัมผัสถึงความเปราะบางข้างในนั้นได้ ว่าง่าย ๆ คือเห็นทั้งเปลือกนอกที่ดูแข็งกร้าว และข้างในที่อ่อนไหวเลย
นอกจากคุณนัมกุงมินในบทแพ็กซึงซูแล้ว บทบาทนักแสดงคนอื่น ๆ ก็สมทบได้ดี ทั้ง อีเซยอน (Park Eun-bin) หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการที่ตอนแรกเป็นคู่ปรับกับแพ็กซึงซู แต่ภายหลังก็มาช่วยซัพพอร์ต, ฮันแจฮี (Jo Byeong-gyu) ลูกน้องของอีเซยอนที่เป็นสีสันเป็นตัวกวนให้บรรยากาศสนุกขึ้น, ควอนคยองมิน (Oh Jung-se) ผอ. ที่งัดข้อกับพระเอกเป็นว่าเล่น นี่ยังไม่รวมตัวจี๊ดจากฝั่งทีมเบสบอลอีก
เลิฟไลน์

สั้น ๆ เลย ไม่มีนะคะเรื่องนี้ 555
พล็อตเน้นไปที่การบริหารทีมล้วน ๆ เลย แม้จะมีพระเอกนางเอกหล่อสวย แต่ไม่สปาร์กกันนะจ๊ะ เป็นแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้น ใครคาดหวังฉากกุ๊กกิ๊ก ห่อเหี่ยวไปนะจุดนี้
แต่เราชอบนะ กับการไม่มีเรื่องรัก ๆ เพราะเนื้อเรื่องจะได้โฟกัสไปที่เนื้อหาเข้มข้น ๆ อย่างเดียวเลย
โดยสรุป
Hot Stove League เป็นอีกเรื่องที่แนะนำมาก ๆ สำหรับใครที่กำลังตามหาซีรีส์แนวชิงไหวชิงพริบเชิงธุรกิจ บริหารทีมงาน เนื้อหาเข้มข้น ตัวละครฉลาดมีกึ๋น แม้บริบทจะเป็นเบสบอลแต่คอนเฟิร์มว่าดูไม่ยาก แม้จะไม่เก็ทกีฬาแต่ก็เข้าใจซีรีส์แน่นอน หรือถ้าใครชอบเบสบอลอยู่แล้ว ดูเรื่องนี้น่าจะยิ่งสนุกขึ้นอีก
Leave a comment